หลังจากเมืองไทยเปิดตัว Mazda 2 รุ่นปรับโฉมหนที่สามได้ไม่นานก้ได้รับผลตอบรับอย่างดียิ่งโดยมีให้เลือกทั้งดีเซลและเบนซิน SKYACTIV
ล่าสุดออสเตรเลียเปิดตัวตามหลังเมืองไทยเริ่มที่รุ่น GT กับ EVOLVE หล่อด้วยสไตล์ Sport Design แบบเดียวกับเวอร์ชันไทย ตั้งแต่กันชนหน้าพร้อมกระจังหน้าแบบ Mesh Grille ดีไซน์ใหม่ ยกระดับความสปอร์ตด้วยกระจกมองข้างและหลังคาสีดำ ที่เข้ากับความสปอร์ตของกระจังหน้าได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับล้อ ขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ทูโทนและลายเดิมเลือกได้สองสีทั้งสีเงินพร้อมยาง 185/60 R16 มอบความสปอร์ตพรีเมียมด้วยเบาะหนังสีดำสลับกับผ้า Grand Luxe Suede® แบบสปอร์ตดีไซน์ใหม่ ให้ความประณีตด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมเพิ่มความสปอร์ตให้กับดีไซน์ภายในด้วยการตกแต่งสีแดงที่กรอบช่องแอร์ เบาะนั่งเดินตะเข็บสีแดง เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มองหารถสปอร์ตที่ทั้งขับสนุกและมีเอกลักษณ์ในตัวเองอย่างชัดเจน
ส่วนรุ่น Pure และรุ่น Pure SP มาในสไตล์ New Wave Design แบบเดียวกับเวอร์ชันไทยให้ภาพลักษณ์สดใสมีชีวิตชีวา มีความโดดเด่นด้านการออกแบบด้วยกันชนหน้าใหม่ กระจังหน้าใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65 R15 และขนาด 16 นิ้วสีดำล้วนพร้อมยาง 185/60 R16 ที่เน้นความสดใสแตกต่าง ภายในมอบความพิเศษด้วยการใช้แผงคอนโซลด้านในหลากสีไม่ว่าจะเป็น สี Pure While สี Mirror Black ที่ถูกจับคู่กับสีภายนอกและดีไซน์ของล้อที่แตกต่างหลากหลายได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเลือกใช้ Bioplastic เป็นส่วนประกอบในการผลิตคอนโซล ที่ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและได้วัสดุที่มีคุณภาพสูง รวมถึงการเลือกใช้ฟิล์มหลังคาที่ผลิตจากวัสดุไวนิลที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิต เมื่อเทียบกับการเคลือบสีแบบทูโทน
พร้อมออปชันเดิมทั้งไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED ปรับระดับแบบอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทางและระบบบันทึกความจำ 2 ตำแหน่ง พนักพิงเบาะด้านหลัง สามารถแยกปรับและพับแบบ 60:40 ระบบความบันเทิง Mazda Connect รองรับ Apple Carplay และ Android Auto บนจอสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) พร้อมลำโพง 6 จุดปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน พร้อม Paddle Shift กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) พร้อม Push Start ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้าหรือ Head Up Display และกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
ออสเตรเลียแตกต่างจากไทยตรงที่ใช้ขุมพลังเบนซินขนาดใหญ่กว่าเพียง 1.5 ลิตร SKYACTIV-G รหัส P5-VPS ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาทีในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด SKYACTIV-MT และ 110 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมโหมด Activematic ติดตั้งควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ช่วยให้ควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์เพื่อความแม่นยำในการถ่ายทอดกำลังลงล้อ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่นและระบบ i stop (idling stop system) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ i ELOOP เปลี่ยนรูปพลังงานที่สูญเสียจากการชะลอหยุดรถกลับมาใช้
ความปลอดภัย i-Activsense ครบครันทั้งระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) ในทุกรุ่นย่อย ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง (360 View Monitor) เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC) เตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS) เตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
พร้อมออปชันความปลอดภัยดั้งเดิมทั้ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ด้านข้าง ม่านนิรภภัยรวม 6 จุด ป้องกันล้อล็อกแยกอิสระ 4 ล้อ 4W-ABS ระบบกระจายแรงเบรก EDB และระบบช่วยเบรก BA หน้าดิสก์เบรก หลังดรัมเบรก ควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด กล้องมองหลัง ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ( Traction Control System) สัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System) และไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ
Mazda 2 รุ่นปรับโฉมมีสีภายนอกรถเหมือนเวอร์ชันไทยถึง 9 สี ทั้งสีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีเทา โพลีทัล เกรย์ (Polymetal Gray), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black), สีบรอนซ์ Platinum Quartz และ สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue) พร้อมสองสีใหม่ทั้ง สีเทาเข้ม Aero Grey Metallic และ สีฟ้า Airstream Blue Metallic มาครบทั้งสองแบบทั้งซีดานและแฮทช์แบ็ก Sports มีให้เลือกทั้งรุ่น Pure Hatch MT, Pure Hatch/Sedan Auto, Pure SP Hatch Auto, Evolve Hatch Auto และ GT Hatch/Sedan Auto ในราคาเริ่มต้น $22,410– $27,610 หรือราว 519,000-639,000 บาท
ที่มา Carsales