More

    AVATR 11 เอสยูวีไฟฟ้าสายหรูเตรียมโชว์ตัวที่ Motor Expo 2023

    CHANGAN มาเมืองไทยเต็มรูปแบบประเดิมส่ง DEEPAL สองรุ่นขายอย่างเป็นทางการแล้วเตรียมส่งแบรนด์ลูกเน้นหรูอย่าง AVATR มาโชว์ด้วยประเดิม AVATR 11

    AVATR

    จากคำสัมภาษณ์ของนาย Li Panghang หัวหน้าฝ่ายการตลาดเปิดเผยกับทาง Autocar อังกฤษว่าทางเราเตรียมลุยผลิตรถเวอร์ชันพวงมาลัยขวาในปี 2024 เน้นตลาดเมืองไทยเป็นหลักซึ่งถือว่าเป็นตลาดสำคัญและอาจรวมถึงประเทศอื่นๆเช่นอังกฤษขึ้นอยู่กับว่าการตอบจากลูกค้าจะดีมากน้อยแค่ไหน

    AVATR 11 รูปร่างหน้าตาคล้ายกับ AVATR 12 แต่เป็นเอสยูวีรูปทรงแบบท้ายลาด Coupe เสมือนเป็นการนำเอกลักษณ์สร้างความโดดเด่นตั้งแต่ ไฟหน้า LED ทรงสามเหลี่ยมล้อมกรอบไฟ DRL แบบ LED รูปตัวซี เหนืออีกมีไฟ DRL LED แบบเส้นแนวนอนสะท้อนความหรูอีกระดับกับโลโก้ของ AVATR ช่องระบายอากาศในชุดกันชนหน้าที่กลมกลืนดูดี ด้านข้างเด่นด้วยที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวถัง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน

    สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนอย่างแน่นอนนั่นคือดีไซน์ของบานฝาท้ายที่มีตำแหน่ง Spoiler ค่อนข้างสูง ทำให้เหลือพื้นที่กระจกบังลมหลังอันน้อยนิดไฟท้าย LED เส้นแนวนอนลากยาวถึงตัวถังด้านข้างรับกับกันชนหลังเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำเข้มมีครีบรีดอากาศ ล้ออัลลอยมีตั้งแต่ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง 265/45R21 ขนาด 22 นิ้วพร้อมยาง 265/40R22 ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม EP1 EV ด้วยความยาว 4,880  มิลลิเมตร กว้าง 1,970 มิลลิเมตร สูง 1,601 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,975 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 2,160-2,365 กิโลกรัม

    AVATR

    ภายในไฮเทคล้ำอนาคตนั่งได้ 4-5 ที่นั่งหุ้มหนังแท้ Nappa มาพร้อมจอจอลอยสองจุดทั้งฝั่งคนขับที่เป็นมาตรวัดความเร็วแบบ LCD 10.25 นิ้ว และฝั่งคนนั่ง 10.25 นิ้ว พร้อมจอกลางระบบความบันเทิงขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว พร้อมลำโพงรอบคัน 14 จุด ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 256 สี สร้างบรรยากาศภายในอย่างอบอุ่น ที่ชาร์จมือถือไร้สายหน้าหลัง พร้อมระบบ Huawei Inside ซึ่งเป็นโซลูชันยานยนต์อัจฉริยะเต็มรูปแบบทำงานด้วย ทำงานด้วย HUAWEI HARMONY OSมาพร้อมระบบเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ AC induction/asynchronous, Permanent magnet และชุดแบตเตอรี่แบบ Ternary Lithium Battery มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวและขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่เริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังมีสองแบบดังนี้

    AVATRรุ่น Standard Range จากความจุแบตเตอรี่ 90.38 kWh ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร  วิ่งไกลสุด 600-630 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.6 วินาที ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 25 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 15 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 10.5 ชั่วโมง

    รุ่น Extended Range จากความจุแบตเตอรี่ 116.79 kWh ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 705-730 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.9 วินาที ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 45 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 25 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 13.5 ชั่วโมง

    AVATRรุ่น Standard Range ขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ จากความจุแบตเตอรี่ 90.38 kWh ให้กำลังรวม 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร จากมอเตอร์คู่หน้ากำลัง 265 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่หลัง 313 แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 555-580 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.98 วินาที ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 25 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 15 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 10.5 ชั่วโมง

    รุ่น Extended Range ขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ จากความจุแบตเตอรี่ 116.79 kWh ให้กำลังรวม 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร จากมอเตอร์คู่หน้ากำลัง 265 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่หลัง 313 แรงบิด 370 นิวตันเมตร  วิ่งไกลสุด 680-700 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.5 วินาที ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 45 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 25 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 13.5 ชั่วโมง

    AVATR 11 ขายไทยช่วงปีหน้าขายคู่กับ AVATR 12 โดยพบตัวจริงที่งาน มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ที่บูธ CHANGAN หมายเลข E02

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts