นอกจากจะเปิดตัว The EQE From Mercedes-EQ แล้วยังมีอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล EQE เปิดพร้อมกันนั่นก็คือ The EQE SUV From Mercedes-EQ เอสยูวีไฟฟ้า
The EQE SUV From Mercedes-EQ รถเอสยูวีขนาดกลางระดับหรูหรือ Mid-Size Luxury SUV ที่ย่อส่วนความหรูมาจากรุ่นพี่ EQS SUV และพื้นฐานรุ่น EQE Sedan มารวมกันในคันเดียวตั้งแต่ กระจังหน้าทึบสีดำคาดด้วยแสง Daytime Running Light แบบ LED แนวนอนตลอด ขอบกระจังหน้าด้านบน พร้อมไฟหน้า LED แบบ Digital Light ด้านข้างมาแนวสปอร์ตด้วยกรอบกระจกสีดำ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน ที่เปิดประตูแบบเปิดยกก้านซ่อนรูปกลมกลืนกับตัวถัง
บันไดข้างดีไซน์เล็กๆติดอยู่คิ้วชายล่าง ไฟท้ายแบบ LED ที่มีแสงพาดขวางเป็นแนวนอนตลอดฝาท้าย กันชนหลังสีทูโทนมีลิ้นสปอยเลอร์หลังเล็กๆ ล้ออัลลอยมีตั้งแต่ขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 235/55R19 ขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 255/45R20 ขนาด 21 นิ้วพร้อมยาง 265/40R21 และใหญ่สุดขนาด 22 นิ้ว แบบ AMG multi-spoke light-alloy wheels พร้อมยาง 265/35R22
ตัวรถมาในรหัส X294 สร้างจากแพลตฟอร์ม Mercedes-Benz EVA platform แพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะพื้นฐานเดียวกับรุ่น EQE Sedan ปรับร่างให้สมกับความเป็นเอสยูวี โดยมีความยาว 4,863 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,940 มิลลิเมตร ความสูง 1,686 มิลิลิเมตร ฐานล้อ 3,030 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 2,600 กิโลกรัม
ภายในยกงานดีไซน์มาจาก The EQS SUV และรุ่น The EQE Sedan มาผสมผสานกันแต่เป็นเอสยูวี 5 ที่นั่งเริ่มกันที่ แผงคอนโซลหน้าดีไซน์เอกลักษณ์พาดเต็มด้วยจอสัมผัสทั้งแผงแบบ MBUX Hyperscreen 3 จอแยกการทำงาน ประกอบด้วย จอข้อมูลการขับขี่กับมาตรวัด 12.3 นิ้ว หน้าจอกลาง Infotainment 17.7 นิ้ว, หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงหลากรูปแบบรวมถึงอัปเดตระบบต่างๆแบบ OTA ได้ ลำโพงคุณภาพจาก Burmester รอบคันแบบ 360 องศาด้วยระบบ Dolby Atmos สามารถปรับรูปแบบมาตรวัดและจอสัมผัสได้สามแบบทั้ง Understated, Sporty, Classic ระบบสั่งงานด้วยเสียง Hey Mercedes รองรับ Merceds me Account
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทั้งแบบวงปกติและวงท้ายตัด เบาะนั่งหุ้มหนังตกแต่งด้วยวัสุดหนังคุณภาพมาในแบบโทนห้าสี โดยมีสีน้ำตาล Balao Brown สีเทา Neva Grey และ ทูโทนน้ำเงินดำ Biscay Blue/Black เบาะหลังสามารถพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่การของขนมากถึง 580-1,675 ลิตร แต่ถ้าไม่พับเบาะจะมีพื้นที่มาถึง 520 ลิตร
ขุมพลังไฟฟ้ามาด้วยความจุแบต 90.6 kWh เป็นแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion พร้อมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanently Excited Synchronous Motors (PSM) 400V โดยรุ่นที่ขายในไทยจะเป็นรุ่น EQE 350+ รุ่นเริ่มต้นให้กำลังมากถึง 292 แรงม้า แรงบิด 565 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลังมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียววิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 590 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP) หรือ EQE 350+ 4MATIC มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวให้กำลังมากถึง 292 แรงม้า แรงบิดมากขึ้นเป็น 765 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 558 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP)
สนุกเร้าใจด้วยโหมดการขับขี่ DYNAMIC SELECT มาครบตั้งแต่โหมด ECO, COMFORT, SPORT, INDIVIDUAL และ OFFROAD (สำหรับรุ่น 4MATIC) และแป้นคันเร่งสามารถเร่งและเบรกได้ในแป้นเดียวหรือเรียกง่ายๆว่า One Padel มีระบบเลี้ยวสี่ล้อ โดยล้อหลัง 10 องศา ช่วงล่างแบบถุงลม AIRMATIC Air พร้อม Adaptive Damping System ในพื้นฐานช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบ 4-Link และด้านหลังแบบ Multilink พร้อมความปลอดภัยมาครบทั้ง
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control ควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist ควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Centering Assist อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition ช่วยในการเปลี่ยนเลน Lane Change Assist เตือนมุมบอดด้านข้าง Blind Spot Monitoring เตือนรถวิ่งตัดด้านหลังเมื่อถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert เตือนการชนด้านหน้าแบบ Pre Safe
The EQE SUV From Mercedes-EQ ผลิตที่สหรัฐอเมริกาที่โรงงาน Mercedes-Benz เมืองทัสคาลูซา (Tuscaloosa), ในรัฐอัลบามา (Alabama) โรงเดียวกันกับรุ่น EQS SUV สำหรับเมืองไทยการมาครั้งนี้เพื่อมาเติมเต็ม EV Portfolio ต่อเนื่อง 2 รุ่นแรกอย่างทั้ง The EQS และ The EQB From Mercedes-EQ และจะมาพร้อมกับ The new EQE From Mercedes-EQ 26 กันยายนนี้พบกัน
