หลังจากเปิดตัวต้นแบบที่ Shanghai Auto Show 2023 กับสองเอสยูวีต้นแบบจากค่าย Honda ทั้ง คือ Honda e:NP2 และ Honda e:NS2
ล่าสุดมีข่าวดีแล้วว่าทั้งสองรุ่นนี้เตรียมเผยเวอร์ชันขายจริงตั้งแต่ต้นปี 2024 เริ่มที่ Honda e:NP2 หล่อล้ำด้วย ไฟ Daytime LED ล้อมกรอบยาวแบบรูปตัว U คว่ำ ประกบด้วยตรา H ในชุดกันชนหน้า ในกรอบมีไฟหน้า LED ซ่อนไว้รับกับชุดกันชนหน้าดีไซน์รูปตัว X ด้านท้ายดีไซน์แยบยลด้วยไฟท้าย LED รูปตัว C คล้าย Honda Civic ในชุดกันชนหลังมีครีบ 5 เส้นแนวยาวทรงสปอร์ตและล้ออัลลอยลวดลายพิเศษ
ทางด้าน Honda e:NS2 โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED สามดวงใหญ่ พร้อมไฟ Daytime LED เป็นรูปตัว H ลากยาว ประกบด้วยตรา H ในชุดกันชนหน้าแบบมีสเกิร์ตในตัว ไฟท้าย LED รูปตัว H พร้อมกันชนหลังมีครีบ 5 เส้นตรงกลางแบบสปอร์ตพร้อมสเกิร์ตในตัว เอสยูวีฃทั้งสองรุ่นมาในแนว Coupe SUV ด้วยดีไซน์หลังคาที่ลาดลงโดยมาในแบบรถ Fastback 5 ประตู ด้วยมิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,878-4,788 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,838 มิลลิเมตร ความสูง 1,570 มิลลิเมตร และฐานล้อ 2,735 มิลลิเมตร
ภายในยังไม่มีการเผยข้อมูลแต่มาพร้อมการเชื่อมต่อ Honda Connect 4.0 ทั้งสองรุ่นมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าล้วนที่ยกมาจาก Honda e:N1 เวอร์ชันไทยด้วยขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าถึงสามตัวและแบตเตอรี่ lithium มีความจุ 68.8 kWh 204 แรงม้าที่ 4,621-5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 310 นิวตันเมตรที่ 0-4,621 รอบต่อนาที วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งมากกว่า 412 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จได้สองรูปแบบทั้งชาร์จกระแสตรง DC CCS2 กำลังสูงสุด 78 kW 0-80% ภายใน 46 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC Type 2 กำลังสูงสุด 11 kW 10-80% ภายในเวลา 6.45 ชั่วโมงและระบบความปลอดภัย Honda SENSING
Honda e:NS2 ขายโดย Dongfeng Honda เตรียมเปิดตัวที่จีนช่วงเดือนเมษายนนี้ และ Honda e:NP2 ขายโดย GAC Honda ถึงไม่ได้ระบุช่วงการเปิดตัวแต่คาดว่าจะไล่เลี่ยกับการเปิดตัว Honda e:NP2 สอดรับกับนโยบายของ Honda ที่ตระหนักความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่านผลิตภัณฑ์และกิจกรรมภายในปี 2050 โดยรถ Honda ที่จำหน่ายในจีนหลังปี 2030 จะเน้นทั้ง e:HEV Full Hybrid, e:PHEV Plug In Hybrid และ BEV และภายในปี 2035 จะเน้นขาย BEV ล้วนของจีน และในปี 2040 เน้นขายรถ BEV ทั่วโลกอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเผยโฉมรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ Honda e:N Series อีก 10 รุ่น ภายในปี 2027 โดยทุกรุ่นจะผลิตที่เมืองจีน
ที่มา Carscoops