นอกจาก Mercedes-AMG GLE 53 4MATIC+ ยังมีอีกรุ่นที่เข้าร่วมแคมเปญ Chinese New Year นั่นคือ Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive
Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive ยนตรกรรมเอสยูวีที่พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ ขับเคลื่อนอย่างมีสไตล์ และท้าทายทุกเส้นทางภายนอกให้อารมณ์สปอร์ตในทุกมิติ
ด้วยดีไซน์แบบ Exclusive Body Styling พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่มีความโดดเด่นในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ LED High-Performance ที่ทั้งส่องสว่างอย่างโดดเด่นและให้โทนสีของไฟที่คล้ายคลึงกับแสงธรรมชาติดูสบายตา
กระจังหน้า Diamond-Pattern Grille พร้อมตราโลโก้สามห่วงใหม่ ชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศที่ใหญ่ออกแบบเสริมความดุดันให้กับรถได้ ราวหลังคา บันไดข้างสเตนเลสดีไซน์สปอร์ต กระจกมองข้างปรับระดับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟส่องสว่างใต้กระจกมองข้างแสดงผลเป็นตราสัญลักษณ์ตราดาว ปิดประตูสุญญากาศแบบ Power Closing ตลอดจนความแข็งแกร่งของส่วนท้ายที่บ่งบอกถึงความโดดเด่นในการออกแบบที่มีความโฉบเฉี่ยวด้านท้ายไฟท้าย LED โคมใหม่ พร้อมระบบเปิด–ปิด บานประตูท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ HANDS–FREE ACCESS ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 275/50 R20
ตัวรถมาในรหัส W 167 มิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,924 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,010 มิลลิเมตร ความสูง 1,795 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,995 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,655 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 65 ลิตร
ภายในโดดเด่นน่าหลงใหลตั้งแต่แรกเห็น พร้อมให้คุณข้ามทุกขีดจำกัดแห่งการควบคุมที่เหนือกว่า กับครั้งแรกของระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่เชื่อมโยงคุณเข้ากับเทคโนโลยีอันชาญฉลาดเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว โดยพัฒนามาจากนวัตกรรม AI ให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกควบคุมด้วยระบบที่หลากหลายและตอบสนองได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพสั่งการด้วยเสียงที่สามารถจดจำข้อมูลและเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานต่าง ๆ ของผู้ขับขี่เพื่อแจ้งเตือน หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานให้ง่ายและเหมาะสมที่สุด
พร้อมจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit ขนาด 12.35 นิ้วจำนวน 2 จอต่อเนื่องกัน สามารถเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลของหน้าจอเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการขับขี่ที่หลากหลาย และมอบความสะดวกสบายด้วยระบบสัมผัสสำหรับหน้าจอแสดงผลข้อมูลส่วนกลาง เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple CarPlay™ & Android Auto) ช่อง USB Type C 5 ตำแหน่ง
ควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง NAPPA สามก้าน พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control มีระบบแผนที่นําทางแบบ Hard–disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ พร้อมสภาพการจราจร Live traffic Information ระบบควบคุุมอุุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซนมีฟอกอากาศแบบ ENERGIZING AIR CONTROL พร้อมระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละอองขนาด PM2.5 ม่านบังแดดประตูหลัง ซ้าย–ขวา แผ่นปิดพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย
เบาะนั่งหุ้มหนังห้าที่นั่งแบบ ARTICO โดยคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจําสําหรับตําแหน่งที่นั่ง พวงมาลัย และกระจกมองข้าง เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับและพับเบาะได้ง่ายแบบ 40 : 20 : 40 ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้กว้างขึ้น ตั้งแต่ 490-1,915 ลิตร
ตอบรับไลฟ์สไตล์ได้ทุกรูปแบบเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิตแบบ Plug In Hybrid ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร รหัส OM654 พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์และอินเตอร์คูลเลอร์ แรงม้าสูงสุด 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชันที่ 3 ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้าสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 31.2 kWh โดยโหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งไกลสุด 100 กิโลเมตร
ให้อัตราเร่งที่พุ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC พร้อมทลายทุกข้อจำกัดในทุกเส้นทางและตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างไร้ขีดจำกัดเสียบชาร์จแบบ AC ที่มีกำลังในการชาร์จ 7.4 kWh จะใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 4 ชั่วโมง
มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำหน้าอย่างครบครัน อาทิ ช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist) ลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์คันอื่นในจุดอับสายตา เพื่อให้คุณอุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้นในการเปลี่ยนช่องจราจร ช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง (Active Lane Keeping Assist) แจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตูรถ (Exit Warning Function) ช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) รักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist)
ปกป้องก่อนเกิดเหตุ (PRE-SAFE® system) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) Electronic Traction System 4ETS สำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti – lock Braking System) ป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) เบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill -Start Assist ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light) รักษาระดับความเร็ว (Cruise control) และระบบจํากัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
เตือนเพื่อนํารถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator) ตรวจวัดแรงดันลมยางอัตโนมัติ (Tyre Pressure Loss Warning System) ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ช่วยการนํารถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist with PARKTRONIC) กล้องมองหลัง ถุงลมนิรภัยรอบคัน 10 ตำแหน่ง (คู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ด้านข้างคู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ม่านนิรภัย 4 ตำแหน่ง, หัวเข่าผู้ขับขี่ 1 ตำแหน่ง และ ด้านข้างผู้โดยสารด้านหลัง 1 ตำแหน่ง) เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด (5 ที่นั่ง)
ภายใต้โมเดลธุรกิจใหม่ Retail of the Future พลิกโฉมธุรกิจค้าปลีกของแบรนด์สู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ มาพร้อมราคาและข้อเสนออย่างเท่าเทียมกันในทุกแพลตฟอร์ม รวมไปถึงการที่ลูกค้าสามารถเลือกรถยนต์ทุกรุ่นที่ต้องการผ่านระบบคลังสินค้าส่วนกลางที่เชื่อมต่อกันทั่วประเทศอย่างไร้รอยต่อ มาพร้อมราคาใหม่ 4,360,000 บาท ลดลงจากเดิม 500,000 บาท (ราคาเดิม 4,860,000 บาท) พร้อมรับฟรี ประกันภัยชั้น 1 (MB Protection) นาน 1 ปี ถึง 30 เมษายน