More

    MG 5 PRO เก๋งสปอร์ตปรับโฉมเปิดราคาเริ่ม 629,900 บาท

    เรียกว่าเซอร์ไพรส์แฟนๆอีกรุ่นต่อจาก MG MAXUS 7 นั่นคือการปรับโฉมครั้งแรกในรอบสี่ปีของ MG 5 เก๋งซีดานสไตล์สปอร์ตในชื่อ MG5 PRO

    MGMG5 PRO ปรับจนดุดันขึ้นจากรุ่น MG 5 Scorpio ที่ขายในจีน เริ่มที่ กระจังหน้า 3 มิติ Black Chrome Gladius Grille Design แนวตั้ง 12 จุด ย้ายตราโลโก้ MG ไปอยู่ขอบกันชนหน้าส่วนบนรับกับกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้า LED และไฟ DRL แบบ LED รูปตัววาย ใหม่ในโคมเดียวกัน พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ล้ออัลลอยดีไซน์ใบพัด 5 ก้านทูโทนขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50R17

    กันชนหลังออกแบบใหม่ด้วยคิ้วทรงกลมคู่ซ้าย-ขวากับแผงทับทิมสีแดงซ้าย-ขวาใหม่ ท่อไอเสียหลอกๆคู่สองฝั่ง และสปอยเลอร์หลังสี Glossy Black พร้อมไฟท้าย LED พร้อมมิติตัวรถ ความยาว 4,675 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,842 มิลลิเมตร ความสูง 1,480 มิลลิเมตร ระยะความยาวฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 138 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร

    MG

    ภายในออกแบบในสไตล์สปอร์ตแต่ยังมีจุดเด่นในเรื่องความกว้าง ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางที่สุดในเซกเมนต์ มีพื้นที่เหนือศีรษะ (Headroom) ที่สูงโปร่ง ตกแต่งภายในลุคสปอร์ตสีดำเดินเส้นสายด้วยสีแดง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและฟังก์ชันที่ตอบไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว พร้อมหลังคาซันรูฟ

    ด้วยคอนโซลหน้าดีไซน์ 3D Diamond และคอนโซลกลางแบบ Driver-focus cockpit หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว กับ หน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย ลำโพง 6 จุด กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start

    MGระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล พร้อม กรองอากาศ PM 2.5 และระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ให้การขับขี่เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้นด้วย DIGITAL KEY สามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของคุณให้เป็นกุญแจรถได้ หรือจะเลือกแชร์ให้คนที่คุณไว้ใจถึง 5 คน และระบบควบคุมการทำงานของรถผ่านสมาร์ตโฟน

    เบาะหนังทรงสปอร์ตโอบรับสรีระ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ลำโพง 6 จุด กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start มีพื้นที่สัมภาระท้ายแบบไม่พับเบาะ 401 ลิตร

    MGขุมพลังคงเดิมด้วย 1.5 ลิตร เบนซิน รหัส 15S4C VTi – TECH 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้ทั้งประสบการณ์การขับขี่และความมั่นใจด้วยพวงมาลัยปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ คือ ในเมือง มาตรฐาน และสปอร์ต

    พวงมาลัยแบบ Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ด้วยระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลัง Torsion Beam ดิสก์เบรก 4 ล้อตกแต่งด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดง พร้อมความปลอดภัยทั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) กระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)  เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)

    เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) พร้อมป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System) ป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)

    MGช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)  ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)

    ความปลอดภัยพื้นฐานมาครบด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย  6 ตำแหน่ง ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) จุดยึดเบาะเด็กแบบISOFIX และไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (FOLLOW ME HOME LIGHT)

    MGMG5 PRO มีสีตัวถังให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีเขียว (Mineral Green) สีแดง (Scarlet Red) สีเหลือง (Nuclear Yellow) สีเทา (Metal Ash Grey) สีขาว (Arctic White) และสีดำ (Black Night) ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ความคุ้มครอง 1 ปีและ ชุดพรมปูพื้น โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ

    • รุ่น PRO D ราคา 629,900 บาท
    • รุ่น PRO X ราคา 669,900 บาท

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts