More

    MG MAXUS 7 อีวีสายหรูน้องเล็ก MAXUS 9 เปิดตัวที่ Motor Show

    เรียกว่าเซอร์ไพรส์แฟนๆสำหรับ MG ส่งรถใหม่มาไทยตลอดปี 2024 และเพื่อต้อนรับงาน Bangkok Motor Show 2024 ส่ง MG MAXUS 7 มาโชว์ในไทย MG

    MG MAXUS 7 เอ็มพีวีหรูน้องเล็ก MG MAXUS 9 นับเป็นรถเอ็มพีวีพลังไฟฟ้าล้วนรุ่นที่สอง นำพื้นฐานของ MAXUS MIFA 7 มาแปะตรา MG ด้วยความยาว 4,907 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,885 มิลลิเมตร ความสูง 1,756 มิลลิเมตร และฐานล้อ 2,975 มิลลิเมตร หน้าตาความหล่อแน่นอนว่าเน้นไปในรูปแบบสปอร์ตด้วย

    ชุดแถบไฟหน้า LED รมดำลากยาวที่คาดว่าเป็นไฟ DRL แบบ LED ยาวไปถึงไฟหน้าแนวตั้งสองฝั่ง ชุดกันชนหน้าชิ้นใหญ่ขึ้นรูปสีทูโทนดำ/สีเดียวกับตัวรถ กระจังหน้าทรงปิดทึบต้องเป็นรถอีวีล้วนและแปะตราโลโก้ตัวอักษร Maxus ที่ขอบฝากระโปรง

    MGด้านข้างเด่นด้วยราวหลังคาสีเงินดีไซน์เรียบเนียน กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถัง ด้านท้ายเรียบง่ายแต่สวยงามกับชุดไฟท้าย LED รมดำลากยาวไปถึงไฟท้ายดีไซน์แนวตั้งเลข 7 ตรงกลางของชุดแถบไฟติดตั้งตราโลโก้ตัวอักษร MG กันชนหลังดีไซน์กลมกลืนกับด้านหน้า และล้ออัลลอยลายเท่ดีไซน์แอโร่ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/55R18

    Maxus

    ภายใน 7 ที่นั่ง แบบ 2+2+3 พร้อมออปชันเด่นทั้ง จอสามจอที่บอกทั้งมาตรวัดความเร็วดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว จอสัมผัสตรงกลางขนาด 12.3 นิ้ว และด้านคนนั่ง 12.3 นิ้ว ชุดคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายหุ้มหนังสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้านหุ้มหนัง ช่องแอร์แนวนอนยาวใต้จอทั้งสาม ที่ชาร์จมือถือไร้สาย ปุ่มการทำงานของเครื่องปรับอากาศและระบบความบันเทิง ที่วางแก้วน้ำคู่ในชุดคอนโซลกลาง และลำโพงคุณภาพจาก JBL 8 จุด รองรับ Apple Car Play และ Android Auto พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-A และ Type-C  และช่องจ่ายไฟ AC Adaptor 220V

    Maxus

    ขุมพลังแน่นอนว่าเป็นอีวีล้วนมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่มีถึงสองทางเลือกเริ่มที่รุ่น Standard Range ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ternary lithium ขนาด 77 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 527 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC Standard Range ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ternary lithium ขนาด 90 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 605 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC

    ทั้งคู่ให้ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงชาร์จได้ทั้ง AC กระแสสลับ และ DC กระแสตรง พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมดทั้ง โหมด Normal, Eco และ Sport มี ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) รองรับ V2L และความปลอดภับรอบคันทั้ง ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ICA (Integrated Cruise System) ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)MG

    ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist) จำกัดความเร็ว SLIF (Speed Limit Reminder Function) ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA/ BSD/ RCTA/ DOW) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)

    เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake), ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold), ป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution), เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)

    ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control), ป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System), เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control) สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)

    Maxus

    ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ และ สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง

    MG MAXUS 7 เปิดตัวครั้งแรกในไทยและอาเซียนที่งาน Bangkok Motor Show ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-7 เมษายน คาดราคาจำหน่ายต่ำกว่า 2,000,000 บาท

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts