More

    Mitsubishi eK X EV เพิ่มออปชันเสริมสบายขายญี่ปุ่นเริ่ม 599,000 บาท

    ทำตลาดมาเกือบ 2 ปี สำหรับเก๋งท้ายตัดพลังอีวีอย่าง Mitsubishi eK X EV จนขายดีและได้รับการตอบรับอย่างดีจากชาวญี่ปุ่นและล่าสุดเปิดตัวรุ่นปี 2024

    Mitsubishi

    รุ่น MY2024 ภายนอกยังคงเดิมทั้ง กระจังหน้าโครเมี่ยมสไตล์ Advanced Dynamic Shield พร้อมไฟหน้า 3-mask-type LED พร้อมไฟตัดหมอกหน้าทรงเหลี่ยม LED พร้อมล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้วพร้อมยางขนาด 155/65 R14 และล้ออัลลอย 15 นิ้ว พร้อมยาง 165/55 R15 ราวหลังคา และไฟท้ายแนวตั้ง LED จุดเด่นอยู่ที่น้ำหนักเบาคล่องตัวสะดวกสบายกับมิติตัวรถมาตั้งแต่ 3,395 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,475 มิลลิเมตร ความสูง 1,655 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,495 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 145 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,060 กับ 1,080 กิโลกรัม รัศมีวงเลี้ยว 4.8 เมตร

    mitsubishiภายในมีการเพิ่มออปชันด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ในรถยนต์ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับสตรมมิ่งออนไลน์ เพลง เกม ฯลฯ โดยไม่ต้องกังวล หากต้องการใช้บริการนี้ คุณจะต้องลงทะเบียน ผ่านแอปพลิเคชัน “MITSUBISHI CONNECT” และมีค่าใช้จ่ายเรื่องสัญญาการใช้บริการเสริมแบบชำระเงินแยกต่างหากกับ “docomo in Car Connect” ของ NTT Docomo ผู้ใช้สามารถเลือกระยะเวลาการใช้งานได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ในแอป “MITSUBISHI CONNECT” เพิ่มฟังก์ชันควบคุมระยะไกลได้หลากหลายโดยใช้แอปสมาร์ทโฟน และเพิ่มฟังก์ชันล็อก/ปลดล็อกประตูระยะไกลปรับปรุงใช้งานได้ทันใจขึ้น นอกเหนือจากฟังก์ชันที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น การเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศจากระยะไกล) การค้นหาตำแหน่งที่จอดรถ

    Mitsubishiพร้อมออปชันเดิมทั้งมาตรวัดดิจิตอลแบบสี LCD 7 นิ้ว พร้อมข้อมูลในมาตรวัดทั้ง สถานะแบตเตอรี่ ข้อมูลค่าไฟฟ้า และการนำทาง ใหม่จอระบบบันเทิงขนาดใหญ่ 9 นิ้วเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple Car Play ไร้สายและ Android Auto เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ เบาะนั่งสบายสี่ที่นั่งพร้อมพื้นที่วางของมากถึง 107 ลิตรแถมเบาะหลังพบัได้ 50:50 และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน เบรกมือไฟฟ้า และ Auto Hold

    ขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 20 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ  MM48 AC synchronous motor กำลังสูงสุด 64 แรงม้าที่ 2,302-10,455 รอบต่อนาที แรงบิด 195 นิวตันเมตรที่ 0-2,302 รอบต่อนาที ความเร็วสูงสุด 124 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 180 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTC ความดันของกระแสไฟฟ้า 350 V พร้อมโหมดการขับขี่สามโหมดทั้ง Normal Sport และ ECO ชาร์จได้ 2 แบบ ระบบชาร์จปกติ AC ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงสำหรับการชาร์จแบตเต็ม 100%  ส่วนระบบ Quick charge DC  CHAdeMO จะใช้เวลาประมาณ 40 นาทีสำหรับชาร์จ 80% ทำให้สะดวกทั้งการชาร์จข้ามคืนในที่พักอาศัย และการชาร์จที่นอกบ้าน

    พร้อมระบบ MI-PILOT (My Pilot / Mitsubishi Intelligent-PILOT) ขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ใช้ได้ทั้งขับขี่บนถนนเลนเดียวจนถึงเดินทางบนทางด่วน พร้อมออปชันความปลอดภัยทั้ง กระจกมองหลังอัจฉริยะ กระจกมองหลังอัจฉริยะ INTELLIGENT REAR VIEW MIRROR (IRVM) ความละเอียดสูงที่ติดอยู่ที่กระจกด้านหลังรถ ทำให้มองเห็นภาพถนนข้างนอกด้านหลังรถ ช่วยให้วิสัยทัศน์ดี คมชัด ไม่ว่าจะมีอะไรมาบัง

    Mitsubishi

    กล้องรอบคันในตัว Around View Monitor ผ่านจอสัมผัสในรุ่น P  กระจกมองหลังอัตโนมัติพร้อมกล้องมองหลังในรุ่น G เตือนการชนด้านหน้าตรง ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD) พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว Forward Collision Mitigation System (FCM) สัญญาณเตือนจุดอับสายตาพร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน ปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)  ช่วยเตือนลดความเสี่ยงการชน Misapplication collision prevention assist (EAPM) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane departure warning system (LDW) ควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane departure prevention support function (LDP) เตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ sway alarm (DAA) อ่านป้ายจราจร sign recognition system (TSR) เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Leading vehicle start notification (LCDN)

    เทคโนโลยีช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ  (Vehicle Dynamic Control – VDC) ถุงลมนิรภัย SRS รอบคัน เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts) ระบบเบรก ABS, EBD และ BA และไฟเบรกดวงที่สามพร้อมไฟ LED สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ในรุ่นปี 2024 เพิ่มฟังก์ชันความปลอดภัยทั้ง สัญญาณไฟแจ้งเตือนที่จะทำงานอัตโนมัติ เมื่อมีการเบรกฉุกเฉินหรือเบรกกะทันหัน Emergency Stop Signal (ESS)

    Mitsubishi

    Mitsubishi eK X EV MY2024 เพิ่มสีใหม่ทั้งสีทูโทน 2 สี เช่นสีเขียวหลังคาสีขาว Ash Green Metallic x White Solid, สีชมพูหลังคาดำ Lilac Pink Metallic x Black Mica และโมโนโทนสีเขียว Ash Green Metallic รวมกับสีเดิมทั้งทูโทน 5 สีและโมโนโทน 5 สี รวมกันเป็น 10 สี ในราคา 2,568,500 – 3,131,700 yen หรือราว 599,000-729,000 บาท ผลิตที่เดียวกับ Nissan Sakura ที่โรงงาน Mitsubishi’s Mizushima Plant ในเมือง Kurashiki ซึ่งเป็นโรงงานที่ Nissan กับ Mitsubishi ร่วมทุกกันพัฒนารถ Keicar ภายใต้ชื่อบริษัท NMKV

     

    ที่มา Carwatch

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts