More

    Mitsubishi XPANDER Cross HEV สายลุยพลังรักษ์โลก 946,000 บาท

    นอกจากนี้ Mitsubishi Motors เปิดตัวอีกรุ่นในตระกูล XPANDER กับมาดยกสูงตัวหล่อ Mitsubishi XPANDER Cross HEV อย่างเป็นทางการในไทย

    Mitsubishi

    ภายนอกเหมือนเดิมเพิ่มเติม ด้วยตราสัญลักษณ์ HEV ที่กระจังหน้ากับด้านท้าย กับตราสัญลักษณ์ Hybrid EV ที่ใต้กระจกมองข้างทรงสปูน ล้ออัลลอยลายเดิมเติมขลิบสีน้ำเงินนอกนั้นเหมือนเดิมทั้ง กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สไตล์ Dynamic Shield แตกต่างจากเวอร์ชันปกติ พร้อมไฟหน้า LED รูปตัว T Sideways-T ซึ่งรวมถึงไฟตัดหมอกหน้า LED  ไฟ LED DRL ที่อยู่บนไฟหน้า ครอบทับด้วยการ์ดเสริมกันชนหน้าสไตล์ลุยและคิ้วชายล่างกันชนหน้าสามช่องเช่นเดิม

    คิ้วขอบล้อ คิ้วชายล่าง ฝาท้ายดีไซน์ใหม่พร้อมไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED กลมกลืนกับกันชนหลังใหม่เสริมครอบทับด้วยการ์ดเสริม และออปชันประจำรถที่ขาดไม่ได้ทั้ง กระจกมองข้างทรงสปูน ราวหลังคา เสาอากาศครีบฉลาม แถมยังปรับระยะโอเวอร์แฮงค์หน้าและหลังออกไปอีก 95 มิลลิเมตร พิเศษด้วยการตกแต่งกระจังหน้า กันชนหน้าและหลัง แผงตกแต่งข้างประตู และซุ้มล้อแบบ “ครอสดีไซน์” (CROSS Design) สุดเท่ไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ยังเพิ่มความเฉียบคมของรูปลักษณ์ภายนอกด้วยหลังคาสีดำและราวหลังคาสีดำ

    มิติตัวรถในส่วนความสูงจากใต้ท้องรถลดลงเป็น 205 มิลลิเมตร  ระยะโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าและหลังปรับยาวขึ้น 75 มิลลิเมตร และ 45 มิลลิเมตร ส่วนอย่างอื่นเช่นเดิมตั้งแต่ความยาว 4,595 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,790 มิลลิเมตร ความสูง 1,750 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมันลดลงเหลือ 40 ลิตร

    Mitsubishi

    ภายในคงเดิมในแบบ Horizontal Axis กว้างขวางโปร่งสบายด้วยเบาะนั่งมาพร้อมคุณสมบัติกันความร้อนหรือ Heat Guard โดยโทนสีภายในใช้โทนเข้มหรูหรายิ่งขึ้นด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์หุ้มและมีการเย็บตะเข็บจริงสำหรับที่พักแขน แผงประตูข้างพร้อมช่องเก็บของทั้งคอนโซลกลางซ่อนที่ใส่ทิชชู่ มีถาดเก็บของแบบเปิดขนาดใหญ่ที่พักแขนสามารถเก็บขวดน้ำได้ถึง 600 มล.

    ช่อง USB 2 ช่องสำหรับเบาะตอนที่สองแบบ Type-A และType-C พร้อมช่องจ่ายกระแส ไฟ DC 12 โวลต์ เครื่องปรับอากาศดิจิตอลพร้อมฟังก์ชัน Max Cool มีแยกส่วนสำหรับด้านหลังที่มีแผ่นกรองอากาศ PM 2.5  เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Holdกระจกมองหลังแบบตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ และระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ใหม่!!มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว  ความชัดสูงพร้อมแสดงผลการจ่ายไฟและชาร์จไฟของระบบไฮบริด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์ใหม่ และหัวเกียร์อัตโนมัติดีไซน์ใหม่ Electric Shift แบบ Shift-by-Wire

    Mitsubishiขุมพลังใหม่แบบ Mitsubishi e:Motion กับเบนซินใหม่ MIVEC ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A92 95 แรงม้าที่ 5,100 รอบต่อนาที แรงบิด 134 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 116 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร พ่วงแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนตอบสนองด้วยอัตราเร่งรวดเร็วและทรงพลังเน้นทั้งความเงียบที่มากขึ้นและประหยัด

    พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 7 โหมด 7 DRIVE MODE ปรับโหมดการขับขี่เพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับทุกจุดหมายอย่างไร้กังวลท้ัง NORMAL (ถนนทั่วไป), WET (ถนนเปียก), GRAVEL (ถนนลูกรัง), TARMAC (ถนนลาดยาง), MUD (ถนนโคลน),CHARGE (โหมดการชาร์จ), EV PRIORITY (โหมดพลังงานไฟฟ้า 100%) ช่วงล่างติดตั้งเหล็กกันโคลงและเหล็กค้ำหัวโช้คเพิ่มความแข็งแกร่ง

    เพิ่มความนุ่มนวลทุกการขับขี่และเพิ่มระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและขวา ออกแบบให้สามารถเรียกแรงบิดให้กระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หรือที่เรียกว่า Active Yaw Control (AYC) ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนให้เข้าโค้งได้กระชับแม่นยำ ปลอดภัยกว่าด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกของล้อหน้าด้านซ้ายและด้านขวา เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งและรักษาเสถียรภาพการขับขี่ได้ดีบนถนนที่เปียกลื่น

    Mitsubishiความปลอดภัยยังให้พื้นฐานเดิมๆทั้ง ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) ป้องกันการลื่นไถล (TCL) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) กระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) เสริมแรงเบรก (BA) ไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ/ผู้โดยสารตอนหน้า และกล้องมองภาพด้านหลัง

    MitsubishiMitsubishi XPANDER Cross HEV มีสีตัวถังมีให้เลือก 5 สี โดยมีสีเขียว (Green Bronze Metallic) พร้อมด้วยสีขาว (White Diamond) สีดำ Jet Black Mica สีเงิน (Blade Silver) สีเทา (Graphite Gray) ในราคาพิเศษถึงวันที่ 7 เมษายนเพียง 946,000 บาท (ราคาปกติ 961,000 บาท)  ประกอบในประเทศ พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ตร้า แคร์ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านสามารถครอบครองและขับขี่รถทั้งสองรุ่นใหม่นี้โดยไม่ต้องกังวล ได้แก่

    • การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
    • แพ็กเกจบำรุงรักษานาน 5 ปี
    • ฟรีค่าแรงสำหรับการเช็คระยะตลอด 5 ปี
    • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี
    • พร้อมกับประกันภัยชั้น 1 ฟรีหนึ่งปี

    เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นในระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด บริษัทฯ จึงขยายการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฮบริด ยาวนานถึง 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทางและขยายการรับประกันพิเศษสำหรับแบตเตอรี่ขับเคลื่อนไฮบริดในปีที่ 6-10 โดยไม่จำกัดระยะทาง

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts