More

    Peugeot E-3008 อเนกประสงค์สุดเท่พลังอีวีจากฝรั่งเศสวิ่งไกล 700 กม.

    เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับเจเนอรชันที่สามของ Peugeot 3008 ที่ครั้งนี้มาพร้อมกับ Peugeot E-3008 เอสยูวีไฟฟ้าท้าชนคู่แข่ง

    PeugeotPeugeot 3008 และ Peugeot E-3008 เจนใหม่นี้มาในรหัส P64 ใหม่หมดครั้งแรกในรอบหกปี ดีไซน์ที่มีความคล้ายกับรุ่นพี่ Peugeot 408 และการออกแบบยกมรดกดีไซน์มาจาก 408 เริ่มที่กระจังหน้าแบบไร้กรอบพร้อมโลโก้สิงห์เขย่งขาเวอร์ชันใหม่ ล้ำสมัยเพิ่มความชัดเป็นเส้นครีบทอดยาวใต้ไฟหน้า Full LED Pixel ขนาบข้างด้วย DRL แนวตั้งคล้ายเขี้ยวสิงโต พร้อมโลโก้ 3008 บนฝากระโปรง หลังคารถเอนลาดลงมาสไตล์คูเป้รวมถึงออกแบบเสา C ให้เล็กลงและโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม ไฟท้าย Full LED ขนาดเล็กเรียวทันสมัยรับโลโก้ตัวอักษร Peugeot มีไฟเบรกดวงที่สามบนโลโก้ตัวอักษร กันชนท้ายสีทูโทนแนวดุแต่งด้วยลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำคาดกลางสีเงินในชุดกันชนหลัง ล้ออัลลอยลายเข้มขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 235/55R19 และใหญ่สุด 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R20

    ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม STLA Medium ใหญ่ขึ้นทุกมิติตั้งแต่ความยาว 4,542 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,895 มิลลิเมตร ความสูง 1,641 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,739 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 198 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 2,114-2,199 กิโลกรัม

    Peugeot

    ภายในสุดไฮเทคภายใต้คอนเซ็ปต์ i-Cockpit ด้วยคอนโซลหน้าสไตล์ Panoramic i-Cockpit กับจอโค้งขนาดใหญ่แนวนอน 21 นิ้ว ที่รวมการทำงานของมาตรวัดดิจิทัลกับจอสัมผัสรองรับระบบความบันเทิงในจอเดียวกันแต่ในรุ่น Allure ได้หน้าจอ 10 นิ้วสองจอโดยติดตั้งอยู่บนสุดของชุดแผงคอนโซลหน้า พร้อมลำโพง Focal® Premium Hi-Fi 10 ตำแหน่ง ถัดลงมาเป็นช่องแอร์ดีไซน์ล้ำทั้งฝั่งคนขับและตรงกลางช่องแนวนอนขนาดใหญ่รวมถึงจอแนวนอนควบคุมการทำงานของชุดจอสัมผัสด้านบน

    ออกแบบปุ่มฟังก์ชันให้ใกล้กับคนขับมากที่สุดหรือเรียกว่า i-Toggles ทั้งหมด 10 ปุ่ม สามารถกำหนดค่าให้เหมาะกับความต้องการและลดปุ่มที่ไม่จำเป็นออกไปอยู่ที่จอแทนเพื่อสร้างความเป็นมิตรให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าพร้อมกันนี้คันเกียร์อัตโนมัติก็มาเป็นแบบปุ่มเลื่อนขึ้น-ลงแทนคันเกียร์ ปุ่ม Push Start ใกล้ปุ่มคันเกียร์ ถัดลงมาเป็นที่วางชาร์จมือถือไร้สาย ไฟสร้างบรรยากาศ ambient LED lighting เลือกได้ 8 สี ช่องเก็บของ 17 จุด ที่เสียบชาร์จ USB ทั้ง Type-A และ Type-C ที่ขาดไม่ได้เลยคือพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้านแบบหัวตัดท้ายตัด

    Peugeotขุมพลังไฟฟ้าล้วนมีให้เลือกหลากหลายเริ่มที่รุ่น Electric 210 กับความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ Nickel-Manganese-Cobalt (NMC) 73 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Synchronous with permanent magnet ขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลังมากสุด 204 แรงม้าที่ 4,370-14,000 รอบต่อนาที แรงบิด 343 นิวตันเมตรที่ 250-4,370 รอบต่อนาที วิ่งไกลสุด 525 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 8.7 วินาที ด้านการชาร์จมีทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 160 kW ภายในเวลา 30 นาที และ ขาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 11 และ22 kW

    รุ่น Electric 230 กับความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ Nickel-Manganese-Cobalt (NMC) 98 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Synchronous with permanent magnet ขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลังมากสุด 231 แรงม้าที่ 4,740-14,000 รอบต่อนาที แรงบิด 343 นิวตันเมตรที่ 250-4,740 รอบต่อนาที วิ่งไกลสุด 700 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 8.9 วินาที ด้านการชาร์จมีทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 160 kW ภายในเวลา 27 นาที และ ขาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 11 และ22 kW

    รุ่น Electric 320 Dual Motor AWD กับความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ Nickel-Manganese-Cobalt (NMC) 73 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Synchronous with permanent magnet ขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กำลังมากสุด 204 แรงม้าที่ 4,370-14,000 รอบต่อนาที แรงบิด 343 นิวตันเมตรที่ 250-4,370 รอบต่อนาที สำหรับล้อหน้า และล้อหลังให้กำลังมากสุด 150แรงม้าที่ 4,760-14,000 รอบต่อนาที แรงบิด 166 นิวตันเมตรที่ 0-4,760 รอบต่อนาที เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้าสูงสุด 327 แรงม้า  วิ่งไกลสุด 525 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 6.4 วินาที ด้านการชาร์จมีทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 160 kW ภายในเวลา 30 นาที และ ขาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 11 และ 22 kW

    Peugeotทุกขนาดความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ single-speed gearbox พร้อมช่วงล่างอิสระสี่ล้อ เลือกโหมดการขับขี่ได้หลากหลาย ทั้ง Normal ECO Sport รวมถึงโหมด 4WD ในรุ่น Electric 320 Dual Motor AWD ซึ่งจะกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่เมื่อพื้นผิวถนนลื่นแต่ทำได้ที่ความเร็วสูงสุด 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นและยังสามารถใช้ V2L (Vehicle to Load) เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ รวมถึงระบบ 3-stage regenerative braking เลือกได้ทั้งแบบ Low Medium และ High

    ความปลอดภัยครบครันทั้งระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop and Go Adaptive cruise control with Stop and Go function, เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic emergency braking with collision warning Active, เตือนออกนอกเลน Active Lane Departure Warning, ช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping System,ช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Alert, เตือนมุมอับสายตา Blind spot monitoring, กล้องมองภาพขณะเดินหน้าและถอยจอดความคมชัดสูง High-definition parking aid cameras, ช่วยในการเปลี่ยนเลนกึ่งอัตโนมัติ Semi-automatic lane change จากการเปิดไฟเลี้ยวและกดปุ่ม “OK” บนพวงมาลัย, แสดงป้ายจราจรแบบดิจิตอล, ควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน Hill Descent Control, ป้องกันการลื่นไถล Advanced Traction Control รองรับการใช้งานพื้นถนน 3 รูปแบบ ได้แก่ หิมะ โคลน และ ทราย ทำงานร่วมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ PEUGEOT VisioPark 360° ที่ประกอบด้วยกล้อง 4 ตัว และเซนเซอร์ 12 จุดรอบคัน

    Peugeotด้าน Peugeot 3008 มีขุมพลังสันดาปเบนซินเทอร์โบ PureTech Hybrid 48 V ซึ่งเรียกว่า Mild Hybrid คาดว่ายกมาจากเจเนอเรชันที่สองกับ PureTech 130 1.2 ลิตร 3 สูบ EB2ADT 136 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,750 รอบ/นาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่คลัตช์คู่ 6 สปีด e-DCS6 พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า อินเวอร์เตอร์ และกล่อง ECU โดยทำงานภายใต้ Miller

    Mild Hybrid มีแบตเตอรี่ก้อนเล็กสุดมีความจุ 0.432 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กสุดแรงดัน 48 V เสริมพละกำลังขึ้นมาอีก 29 แรงม้า แรงบิด 55 นิวตันเมตรในขณะสตาร์ทรถและเร่งความเร็วโดยโหมดไฟฟ้า หรือ Electric สร้างความเร็วสูงสุด 145 กม./ชม. แต่ถ้าถอนคันเร่งจนรถหยุดนิ่งเครื่องยนต์จะดับโดยอัตโนมัติแล้วกลับมาติดอีกครั้งหลังหยุดรถไปได้สักพักเมื่อกดคันเร่งเพิ่มกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าจะสร้างพลังขึ้นอีก 12 แรงม้า และมีเสียงสังเคราะห์ Acoustic Vehicle Alerting System (AVAS) สำหรับความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. เพื่อเตือนให้คนเดินเท้าและขี่จักรยานระวังเป็นพิเศษ

    Peugeot E-3008 และ Peugeot 3008 มีสีทั้งหมดหกสีได้แก่ สีน้ำเงิน Obsession Blue ไฮไลท์ของสีนี้เปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีเขียวขึ้นอยู่กับแสงและมุมมอง, สีน้ำเงิน Ingaro Blue, สีขาว Okenite White, สีดำ Pearl Black, สีเทา Artense Grey และสีบอรนซ์เงิน Titanium Grey จะถูกสร้างขึ้นที่โรงงาน Stellantis ในเมืองโซโชซ์ ประเทศฝรั่งเศส ทยอยขายที่ยุโรปและประเทศอื่นๆตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2024 มีทั้งรุ่น Allure และรุ่น GT ส่วน Peugeot 5008 และ Peugeot e-5008 จะตามมาต้นปี 2024

     

    ที่มา Stellantis

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts