ไลฟ์สไตล์การเดินทางของแต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งบางคนอาจจะต้องเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ หรือบางคนก็ใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือบางคนไม่ได้ออกนอกบ้าน ทำงานอยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่แต่มีรถยนต์จอดอยู่บ้านเฉยๆ หรือบางบ้านมีรถยนต์หลายคัน ทำให้ต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรถ วันนี้ เราเลยจะมาแชร์ปัญหาของ รถยนต์ไม่ค่อยได้ขับ ว่ามีอะไรบ้าง พร้อมบอกเทคนิคและวิธีดูแลรักษารถที่จอดไว้นานว่าต้องทำยังไง
ปัญหาของ รถยนต์ไม่ค่อยได้ขับ มีอะไรบ้าง?
- รถสตาร์ทไม่ติด ปัญหาหนักอกหนักใจใครหลายคนที่จอดรถทิ้งไว้นาน ๆ แต่พอจะกลับมาใช้อีกครั้งกลับสตาร์ทไม่ติด ซึ่งส่วนใหญ่สาเหตุมักมาจากแบตเตอรี่หรือมอเตอร์สตาร์ทรถยนต์ที่เสื่อมสภาพ จนทำให้ไม่สามารถสตาร์ทรถได้
- น้ำมันเสื่อม หลายคนอาจเข้าใจว่าน้ำมันเมื่อเติมเข้าไปในเครื่องยนต์แล้วสามารถใช้งานได้ยาว ๆ แต่ที่จริงแล้วน้ำมันที่เติมเข้าไปแต่ไม่ได้ใช้งานหรือไม่มีการเคลื่อนไหว จะก่อให้เกิดแบคทีเรียและเชื้อราต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ และส่งผลให้เกิดปัญหาภายในเครื่องยนต์อื่น ๆ ตามมาได้
- ยางรถยนต์เสื่อม แน่นอนว่ารถที่ไม่ค่อยได้ขับและต้องจอดแน่นิ่งไว้ที่เดิมนาน ๆ จะทำให้หน้ายางด้านที่รับน้ำหนักหรือสัมผัสกับพื้นเสื่อมสภาพเร็วมากขึ้น และหากจอดรถไว้กลางแจ้งที่พื้นได้รับความร้อนจากแสงแดดตรง ๆ ก็จะยิ่งทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วมากขึ้นไปอีก
- สภาพรถยนต์เสื่อมโทรม ถือเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านที่ไม่มีหลังคาที่จอดรถ ทำให้รถที่ไม่ค่อยได้ขับจะต้องจอดทิ้งไว้กลางแจ้ง เจอทั้งแดด ลม และฝน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ค่อย ๆ เสื่อมโทรมลงเรื่อย ๆ ทั้งสีตัวรถ ฟิล์มกรองแสง พวงมาลัย คอนโซล และเบาะรถยนต์
- สัตว์เข้าไปทำรัง รถที่จอดเอาไว้นาน ๆ คือ ที่อยู่อาศัยชั้นดีของสัตว์ชนิดต่าง ๆ อย่างหนูหรืองู เนื่องจากช่วงล่างรถยนต์เต็มไปด้วยซอกหลืบจำนวนมาก และด้วยความที่รถไม่ค่อยได้ขับจึงทำให้เครื่องยนต์ไม่มีความร้อน ไม่สั่นสะเทือน และไม่เสียงดัง จึงทำให้หนูและงูชอบเข้าไปทำรังนั่นเอง
วิธีดูแลรักษารถจอดไว้นาน มีอะไรบ้าง?
- ทำความสะอาดรถยนต์
การจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้มีฝุ่นและคราบน้ำมาเกาะติดกับตัวรถ หากปล่อยทิ้งไว้จะทำความสะอาดยาก รวมถึงขี้นกและยางต้นไม้ที่มีความเป็นกรด ถ้าไม่รีบทำความสะอาด ก็จะทำให้สีรถบริเวณนั้นเพี้ยนได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรหมั่นทำความสะอาดรถอยู่เสมอและควรหาผ้าคลุมรถยนต์มาใช้ จะได้ไม่ต้องล้างรถบ่อย ๆ แถมยังช่วยรักษาสีรถยนต์ได้อีกด้วย
- ควรสตาร์ทรถเป็นระยะ
เพื่อเป็นการปลุกและกระตุ้นการทำงานของเครื่องยนต์ จึงจำเป็นต้องสตาร์ทรถเป็นระยะ ๆ ประมาณสัปดาห์ละครั้งหรือทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อให้ระบบของเหลวในรถยนต์หมุนเวียน ทั้งน้ำมันเครื่องและน้ำมันเชื้อเพลิง แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม ซึ่งเป็นพลังงานสำคัญของระบบอิเล็กทรอนิกส์ภายในรถ อย่างวิทยุและสัญญาณกันขโมย เป็นต้น
- จอดรถในที่ที่เหมาะสม
ถ้าใครมีรถเป็นของตัวเอง แต่รู้ตัวว่าไม่ค่อยได้ขับรถบ่อย ๆ ต้องจอดแช่ทิ้งไว้ที่บ้านนาน แนะนำให้หาที่จอดรถดี ๆ ร่ม ๆ หน่อย เพื่อให้รถยนต์อยู่ห่างจากแสงแดด ฝน และความชื้น แต่ก็ไม่ควรนำไปจอดใต้ต้นไม้ที่ถึงแม้แดดจะไม่ส่อง แต่ก็มีโอกาสที่กิ่งไม้จะหล่นลงมาใส่รถ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายได้เหมือนกัน
- คอยเช็กแบตเตอรี่รถยนต์
เมื่อไรก็ตามที่รู้ว่าจะไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน เพราะต้องกลับต่างจังหวัดหรือไปเที่ยวต่างประเทศนาน ๆ แนะนำให้ถอดขั้วลบแบตเตอรี่ออก เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่คายประจุไฟฟ้าออกมา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตหมดได้แม้ไม่ได้ใช้งานรถยนต์ แต่หลังจากถอดแล้วควรเอาผ้ามาพันบริเวณขั้วลบเอาไว้ เพื่อป้องกันปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร
- ตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์
ถ้าไม่อยากให้ยางรถยนต์เสื่อมเร็ว ให้คอยเช็กและเติมลมยางให้ได้ระดับความดันมาตรฐานอยู่เสมอ เพื่อรักษารูปทรงยางให้เหมือนเดิม แต่หากรู้ตัวว่าจะต้องจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ ให้เติมลมยางมากกว่าปกติประมาณ 2-3 PSI และต้องคอยสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อเคลื่อนรถบ้าง โดยอาจจะขับวนรอบ ๆ หมู่บ้าน เพื่อป้องกันปัญหายางแบนเฉพาะจุดนั่นเอง
- เช็กระบบของเหลวในรถยนต์
ตรวจเช็กของเหลวต่าง ๆ ในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ และน้ำในหม้อน้ำ ให้มีปริมาณสูงสุด เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ข้างในแห้งและเป็นสนิม และต้องไม่ลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง รวมถึงเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เต็ม เพราะถ้าข้างในมีอากาศจะทำให้เกิดความชื้นและก่อให้เกิดสนิมได้
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาสำคัญ ๆ ของรถที่ไม่ค่อยได้ขับ รวมถึงวิธีดูแลรักษารถที่จอดไว้นาน ๆ เพื่อยืดสภาพรถยนต์ให้สามารถใช้งานได้นานมากขึ้น ส่วนใครที่สนใจสมัครหรือต่อประกันภัยรถยนต์ แต่ยังต้องการสอบถามเบี้ยประกัน รวมถึงรายละเอียดความคุ้มครองทั้งหมด ก็สามารถให้ตรีเพชรอินชัวรันส์เซอร์วิสเป็นผู้ดูแลในการเลือกแบบประกันภัยรถยนต์ที่ตรงใจคุณมากที่สุด เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้
