สาวกสามห่วงที่รอคอยการมาของ Toyota C-HR เจเนอเรชันที่ 2 ได้สมใจสิ้นสุดการรอคอยเสียที เมื่อ Toyota ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า
เตรียมที่จะเปิดตัว Toyota C-HR เจนที่ 2 ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้กับดีไซน์ที่หล่อด้วยไฟหน้า Full LED 4 ดวง รูปตัว C พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าเป็นทรงห้าเหลี่ยมมีช่องระบายอากาศ กันชนหน้าดีไซน์แปลกตาพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED คิ้วขอบล้อดีไซน์เข้ากันกับตัวถัง มีที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถัง ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED แนวยาวติดตราตัวอักษร Toyota C-HR รับกับกันชนหลังทรงสปอร์ต สปอยเลอร์หลังดีไซน์เล่นระดับ
ล้ออัลลอยลายหรู และที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวและที่เปิดประตูคู่หลังกลับมาเป็นแบบเดียวกันตามหลักสากล ภายในถึงไม่มีภาพแต่มีความเป็นไปได้ว่า มาตรวัดกับจอสัมผัสในชุดแผงคอนโซลหน้าจะแยกกัน สองจอโดยสร้างจากแพลตฟอร์ม TNGA-C ขนาดตัวรถจะอยู่คั่นกลางระหว่าง Toyota Yaris Cross ที่เล็กกว่า C-HR และ Toyota Corolla Cross ที่ใหญ่กว่า C-HR เล็กน้อย
ขุมพลังยืนยันแล้วว่าจะทำตลาดด้วย Plug In Hybrid ใช้ขุมพลังเบนซิน Dynamic Force Hybrid 2.0 ลิตร M20A-FXS พร้อมระบบฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection ควบคุมการเปิด-ปิด วาล์วไอดี VVT-iE electric variable valve timing 151 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาทีแรงบิด 190 นิวตันเมตรที่ 4,400- 5,200 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า 163 แรงม้า พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ขึ้น 13.6 kWh ทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 223 แรงม้า วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 69-94 กม. โดยรุ่นเสียบปลั๊กนี้ทาง Toyota เคลมว่าถ้าเติมน้ำมันเต็มถังและชาร์จไฟเต็มจะทำให้วิ่งไกลสุดรวม 1,250 กม.แถมมี Vehicle-2-Load (V2L) สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ 1,500 W โดยจะเป็นรุ่นที่สามต่อจาก Toyota RAV4 และ Toyota Prius
ส่วนบางประเทศอาจมีเบนซินล้วน กับ Hybrid เป็นขุมพลัง Dynamic Force ขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อคาดว่าอาจนำมาจาก Toyota Prius เจเนอเรชันใหม่ เริ่มที่เบนซิน Dynamic Force Hybrid 2.0 ลิตร M20A-FXS พร้อมระบบฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection ควบคุมการเปิด-ปิด วาล์วไอดี VVT-iE electric variable valve timing 151 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาทีแรงบิด 190 นิวตันเมตรที่ 4,400- 5,200 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า กำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตรและ มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังให้กำลังมากถึง 41 แรงม้า ในรุ่น E-Four พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 196 แรงม้า
เบนซินล้วน Dynamic Force 2.0 M20A-FKS 171 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 202 นิวตันเมตรที่ 4,400- 4,800 รอบ/นาที ฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาล์วไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม paddle shift
26 มิถุนายนนี้ Toyota C-HR เจนที่สองนี้จะสปอร์ตจะเท่กว่าและเทคโนโลยีจะล้ำสมัยกว่าเดิมหรือไม่โดยขายจริงสิ้นปีนี้ที่กลุ่มประเทศโซนยุโรป ส่วนออสเตรเลียมาต้นปีหน้า และรุ่นนี้จะประกอบที่โรงงาน Toyota ประเทศตุรกี
ที่มา Motor 1