More

    Volvo EX40 x EC40 ชื่อใหม่อีวีแดนไวกิ้งเพิ่มพลัง วิ่งไกลขึ้น 583 กม.

    จากนโยบายเน้นทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2030 ที่ผ่านมาเกิดความสับสนในการเรียกชื่อรุ่นทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเป็น Volvo EX40 และ Volvo EC40

    Volvo

    เหตุผลในการเปลี่ยนชื่อนั้นเพื่อให้แฟนๆจำง่ายและไม่มึนงงโดยชื่อ Volvo EX40 แทนชื่อเดิม Volvo XC40 Recharge และ Volvo EC40  แทนชื่อเดิม Volvo C40 Recharge เพื่อเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอกลุ่มรถไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบจากเดิมมีทั้ง EX30 EX90 และ EM90 ตัดชื่อ Recharge ออกไปทั้งในรุ่นไฟฟ้าและเสียบปลั๊ก โดยในรุ่นเสียบปลั๊ก Plug In Hybrid จะใช้ชื่อต่อท้ายว่า T6 กับ T8 ตามความแรงของแต่ละรุ่น เช่น Volvo S90 T8 และเวอร์ชันสันดาป Mild Hybrid จะใช้คำว่า B5 เช่น Volvo XC90 B5

    มากันที่ไฮไลต์หลักนั่นคือ Volvo EX40 และ Volvo EC40 เปลี่ยนชื่ออย่างเดียวไม่พอเพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยรุ่น Twin Motor Performance ด้วยขุมพลังไฟฟ้ามอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ รหัส E400V6 ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 82 kWh ให้แรงขึ้น วิ่งไกลขึ้นกว่าเดิมเพิ่มพลังเป็น 442 แรงม้า แรงบิดเป็น 670 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 583 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP สำหรับรุ่น EC40 และ 576 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP สำหรับ EX40 ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุดเท่าเดิม 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    การชาร์จเร็วแบบกระแสตรง DC รองรับกำลังไฟสูงสุด 200 kW (เดิม 150 kW ได้ 29 นาที) จาก 0-80% ในเวลา 28 นาที ชาร์จช้ากระแสสลับ AC ยังคงเดิมด้วย 0-100% ประมาณ 8 ชั่วโมง เครื่องชาร์จไฟฟ้าที่บ้านแบบมาตรฐาน (Wallbox EV Changer) ขนาด 11 กิโลวัตต์ และยังสามารถตั้งเวลาชาร์จไฟรถยนต์ได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชัน Volvo on Call สำหรับเจ้าของรถรุ่นปี 2024 ทั้ง XC40 Recharge และ C40 Recharge มีชุดเพิ่มพลัง Performance Software Pack สั่งเป็นออปชันเสริมเพิ่มเงิน

    Volvo

    ออปชันทั้งภายนอกและภายในทั้งสองรุ่นยังคงเดิมทั้งไฟหน้าทรงเอกลักษณ์ค้อน Thor’s Hammer แบบ pixel LED พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ไฟท้าย C Shaped แบบ LED กระจังหน้าโค้งเว้าพร้อมตราโลโก้ Volvo ขนาดใหญ่แบบ Iron mark ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์ 5-Spoke Black Diamond Cut พร้อมยางหน้า 235/50 R19 และยางหลัง 255/45 R19 ฝากระโปรงหน้าแปลงกายเป็นที่วางสัมภาระ 30 ลิตร

    ภายในเรียบง่ายด้วยชุดแผงคอนโซลหน้าในสไตล์ Topography Translucent Decor ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์ของเทือกเขาในประเทศสวีเดน ใส่ลูกเล่นซ้อนวัสดุที่แตกต่างกันถึง 3 เลเยอร์ ให้มุมมองสามมิติบนผิวสัมผัสที่เรืองแสงเพิ่มความโดดเด่นให้ห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยลวดลายภูมิประเทศกำหนดโทนสีภายใน เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุที่ปราศจากการใช้หนังสัตว์ทุกชนิด หลังคา Panoramic Glass Roof ให้มุมมองและความรู้สึกโล่งสบายในห้องโดยสารแต่ป้องกันความร้อนภายนอกได้สูงถึง 80%

    ติดตั้งระบบ Infotainment ขนาด 9 นิ้ว Volvo with Google Built in ที่ให้คุณใช้แอปอย่าง Google Maps, Google Assistant ซึ่งเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่านคำว่า “Hey Google” เพื่อควบคุมแอป อย่าง Sportify รวมทั้ง Google Play หรือจะควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Volvo Cars App บนสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ก็สามารถทำได้พร้อมระบบปฏิบัติการ Android สามารถอัปเดทผ่านทาง OTA (over-the-air) และ Apple Car Play ลำโพงระดับพรีเมียมจากแบรนด์ Harman Kardon รอบคัน 13 จุด แอมปลิไฟเออร์ 600 วัตต์ รวมซับวูฟเฟอร์และ Air-Ventilated ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย มาตรวัดอันทันสมัย แบบจอสี TFT ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว

    Volvo

     

    และจากความสำเร็จของ Volvo XC60 Black Edition สานต่อความเข้มด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศษ ฺBlack Edition ทั้งตระกูล 40 ไม่ว่าจะเป็น Volvo XC40  Volvo EX40  และ Volvo EC40 ตกแต่งเข้มทั้งคันด้วยตัวรถสีดำ ล้ออัลลอยดำเงา Onyx Black ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางหน้า 235/45 R20 และยางหลัง 255/40 R20 ในรุ่น EX40 และ EC40 และขนาดยางหน้าหลังเท่ากัน 245/45 R20 ในรุ่น XC40 กระจังหน้าพร้อมตราโลโก้ Volvo ขนาดใหญ่แบบ Iron mark ทึบสีดำ อักษรชื่อรุ่นสีดำเคลือบเงา และภายในโทนเข้มทั้งหมดด้วยเบาะนั่งผ้าชาร์โคล หรือ ไมโครเทค

    จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะมีส่วนให้ยอดขายทั่วโลกโตขึ้นหลังจากปีที่แล้วโตขึ้นถึง 16% โดยทำยอดได้ถึง 708,716 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 113,419 คัน เพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับปี  2022 ส่วนกลุ่มรถยนต์สันดาปและปลั๊กอินไฮบริดทำได้ 595,297 คัน โดยรุ่นใหม่พร้อมขายทั่วโลกเร็วๆนี้ส่วนเมืองไทยได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนชื่อและขายเร็วๆนี้

    Volvo

     

    ที่มา Volvo Cars

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts