หลังจากเปิดตัวที่ไทยเมื่อปีกลายล่าสุดออสเตรเลียเปิดตัว LOTUS ELETRE เอสยูวีไฟฟ้าจากค่ายดอกบัวผยองเดชแห่งเมืองผู้ดี
ออกแบบสปอร์ตเด่นด้วยหลังคาเพรียวลงสไตล์รถคูเป้ ไฟหน้า LED ทรงบูมเมอแรง พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์โค้งมน กระจกมองข้างขนาดเล็กสามารถดูได้จากกล้องมองภาพในรถ โดยรวมแล้วดูดุดันเท่ไม่แพ้ค่ายรถอื่นๆ รวมถึงล้อดีไซน์ล้ำอนาคตมีตั้งแต่ขนาด 20 นิ้วพร้อมยางหน้า 255/50R20 และยางหลัง 285/45R20
มีขนาด 22 นิ้ว ลาย 5 ก้านและลาย 10 ก้านในเฉดสีเทาพร้อมทำผิวแบบ Diamond-turned พร้อมยางหน้าขนาด 275/40R22 และยางหลังขนาด 315/35R22 จากค่าย Pirelli P Zero และยังมีขนาด 23 นิ้ว ลาย 5 ก้าน พร้อมทำผิวแบบ Diamond-turned พร้อมยางหน้าขนาด 275/35R23 และยางหลังขนาด 315/30R23 ให้เลือกเป็นออปชันเสริม หลังคาพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ก็มีให้
ตัวรถเป็นเอสยูวีทรงสปอร์ตทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียมมีมิติตัวรถที่ใหญ่โดดเด่นตั้งแต่ ความยาว 5,103 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,135 มิลลิเมตร ความสูง 1,630 และ 1,636 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,019 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 187 และ 194 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 187 และ 194 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,490 2,520 และ 2,640 กิโลกรัม ความจุสัมภาระด้านหน้า 46 ลิตร จากโครงสร้างแบบโมดูลาร์ Electric Premium Architecture (EPA)
ภายในออกแบบหรูหราตามสไตล์ Lotus ล้ำสมัยทั้งวัสดุหนังและสังเคราะห์ที่นำมาใช้การตัดเย็บสีสันที่หรูสง่าด้วยดีไซน์เบาะนั่งทรงสปอร์ต 4 และ 5 ที่นั่ง โดยมีพื้นที่ด้านหลัง 611 ลิตรในแบบ 4 ที่นั่ง และ 688 ลิตรในแบบ 5 ที่นั่งและยังพับเบาะได้มีพื้นที่มากถึง 1,532 ลิตร พร้อมฟังก์ชันการใช้งานไม่ว่าจะเป็น จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.1 นิ้ว OLED พร้อมลำโพงคุณภาพจาก KEF ให้เลือกตั้งแต่ 15 จุด กำลังขับ 1,380 วัตต์ และมากสุด 23 จุด กำลังขับ 2,160 วัตต์ ให้ระบบเสียงสามิติที่ละเอียดมาก มาตรวัดดิจิทัลที่มีขนาดเล็ก 12.6 นิ้วทั้งสองฝั่งคนขับและคนนั่ง และจอหลังขนาด 8 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 4 ก้านทรงล้ำอนาคต ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ambient Light ช่องเก็บของหลากจุดที่หยิบวางง่ายดาย จอแสดงข้อมูลบนคอนโซลหน้า Heads Up Display ขนาด 29 นิ้ว
ขุมพลังไฟฟ้าที่ประจำการในสปอร์ตเอสยูวีคันนี้มีความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion 112 kWh ขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent magnet แต่มีความแรงถึงสองรุ่นเวอร์ชันเริ่มที่ รุ่น ELETRE และรุ่น ELETRE S ให้ความแรงสูงสุด 612 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 258 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 4.5 วินาที 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ต่ำกว่า 2 วินาที วิ่งไกลสุด 600 กิโลเมตรต่อชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed
รุ่น ELETRE R ให้ความแรงสูงสุด 918 แรงม้า แรงบิด 985 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 2.95 วินาที 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ต่ำกว่า 1.9 วินาที วิ่งไกลสุด 490 กิโลเมตรต่อชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed ที่ล้อหน้าและ Two Speed ที่ล้อหลัง
การชาร์จไฟด้วยกำลังไฟแบบกระแสตรง DC สูงสุด 350 KW ชาร์จ 10-80 % ในเวลาสั้นๆเพียง 20 นาที สามารถวิ่งไกลสุดได้ 400 กิโลเมตร และชาร์จแบบกระแสสลับ AC ด้วยกำลังไฟสูงสุด 22 kW ชาร์จ 0-100% ในเวลา 5.8 ชั่วโมง พร้อมเทคโนโลยีไฟฟ้าแรงดันสูง 800V
ช่วงล่างแบบถุงลมที่สามารถปรับระดับความสูงตัวรถได้อัตโนมัติแถมมีเลี้ยวสี่ล้อ มีโหมดการขับขี่มากมายทั้ง Tour Mode Range Mode Sport Mode Off-Road Individual Mode และ Track Mode ความปลอดภัย Lotus ยังให้ความสำคัญด้วยระบบความปลอดภัย LIDAR ผ่านเรดาห์ 6 จุด กล้องรอบคันความชัดสูง HD ความละเอียด 8 MP ทั้งหมด 7 จุด เซนเซอร์อัลตร้าโซนิก 12 จุด พร้อม ADAS กับฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
ควบคุมความเร็วและระยะห่างแบบแปรผัน Intelligent Adaptive Cruise Control (ACC) เตือนการชนด้านหน้า Collision Mitigation Support Front (CMSF) อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Information (TSI) เตือนมุมอับขณะเปิดประตู Door Open Warning (DOW) เตือนมุมอับขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) เตือนมุมอับด้านหน้ารถ Front Cross Traffic Alert (FCTA) ช่วยเปลี่ยนเลน Lane Change Assist (LCA)
ตรวจจับเด็กบริเวณเบาะนั่ง Children Presence Detection (CPD) เตือนและช่วยให้รถเข้าไปในเลน Lane Keep Aid with Lane Departure Warning / Prevention (LKA+) เบรกฉุกเฉิน Parking Emergency Brake (PEB) เตือนการชนด้านหลัง Collision Mitigation Support Rear (CMSR) ปุ่มโทรเรียกรถฉุกเฉิน Emergency Rescue Call (E-Call) และถุงลมนิรภัย 7 จุด
ขายออสเตรเลียสามรุ่นย่อยในราคาใหม่ลดลงเหลือ $189,990-$279,990 เป็นราคาไม่รวมค่า on-road หรือราว 4,599,000-6,779,000 บาท โดยรุ่น ELETRE S กับรุ่น ELETRE R พร้อมขายเดือนมิถุนายน ส่วนรุ่นเริ่มต้นรุ่น ELETRE จะผลิตช่วงไตรมาสที่สามของปี 2024 และส่งมอบตั้งแต่ปลายปีนี้
ที่มา Carexpert