More

    Toyota Grand Highlander เอสยูวีขยายความสุขนั่งตอนสามได้ 3 ที่นั่ง

    ปกติรถเอสยูวีสามตอน 7 หรือ 8 ที่นั่ง จะมีที่นั่งตอนสุดท้ายที่นั่งได้แค่สองคน อาจทำให้มีความสบายระดับหนึ่ง Toyota จึงแก้ปัญหา

    Toyota

    ด้วยการเปิดตัว Toyota Grand Highlander เอสยูวีที่ยกพื้นฐานมาจากรุ่น Highlander มาขยายความใหญ่และความยาวของตัวถังให้นั่งสบายขึ้นหน้าตาอาจต่างกันตั้งแต่ ชุดกันชนหน้าออกแบบให้กระจังหน้าทรงสามเหลี่ยมกับช่องระบายอากาศทรงเจ็ดเหลี่ยมออกแบบอย่างลงตัว พร้อมไฟหน้า Projector แบบ LED เรียวมากกว่าเดิมพร้อมไฟ LED-strip Daytime Running Lights (DRL) ไฟตัดหมอก LED ตำแหน่งสูงกว่าในชุดกันชนหน้า

    ล้ออัลลอยลายขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R20 และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/65R18 ให้เลือก ไฟท้าย LED ดีไซน์คนละแบบออกมาเป็นแนวนอน พร้อมกันชนหลังดีไซน์บึกบึนมีคิ้วเสริมสีเงินในชุดกันชนหลัง

    Toyota

    ภายในดีไซน์คนละอย่างกับ Toyota Highlander แถมมีความพิเศษตรงที่เบาะนั่งตอนสุดท้ายนั่งได้ถึง 3 ที่นั่ง กับที่นั่งตอนที่สองมีให้เลือกทั้งแบบ 2 ที่นั่ง Captain Seat และ 3 ที่นั่งมาตรฐาน โดยรวมเลือกได้ทั้งแบบ 7 กับ 8 ที่นั่ง กับที่วางแก้ว 13 จุด และช่องเสียบ USB 7 จุด เรียกว่าจุใจจัดเต็มเลยทีเดียว โดยเบาะนั่งตอนสองกับตอนสุดท้ายพับลงจะมีพื้นที่มากถึง 2,775 ลิตร (มากกว่า Highlander 396 ลิตร) เบาะนั่งคนขับคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางสำหรับคนขับและ 8 ทิศทางสำหรับคนนั่ง

    หุ้มหนังหรูแบบ Ultrasuede พร้อมลายไม้ตกแต่งสีเข้ม และวัสดุหนังสัมผัสที่แผงคอนโซลหน้า กับ แผงประตูพร้อมออปชันเดิมจากรุ่น Highlander ทั้ง มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมปรับเปลี่ยนสีของมาตรวัดสี่โหมดทั้งโหมด Casual, Smart, Tough และ Sporty จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิง Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto

    ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า power tailgate พร้อมระบบ kick-sensor เหวี่ยงเท้าไปยังใต้กันชนหลังเพื่อเปิดประตูท้าย ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย จอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้า head-up display และ ระบบอุ่นเบาะ กระจกมองหลังแบบดิจิตอล ช่องเสียบปลั๊ก 1,500 W

    Toyota

     

    ขุมพลังแรงด้วย Dynamic Force Engine ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบในรหัส T24A-FTS ให้กำลังถึง 269 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Direct Shift เช่นเดิมพร้อมให้เลือกในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic Torque Vectoring AWD

    พร้อมเบนซิน Dynamic Force Engine Hybrid 2.5 ลิตร (รหัส A25A-FXS) ให้กำลังถึง 189 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 237 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังแบบ 5NM และแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal ทำงานร่วมกันได้กำลังสูงถึง 367 แรงม้า แรงบิด 542 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT ขับเคลื่อน 4ล้อ AWD แบบ Electronic On-Demand

    Toyota

    Toyota Grand Highlander มีทั้งรุ่นเริ่มต้น XLE, Limited และ Platinum ผลิตที่ โรงงานในเมืองพรินซ์ตัน รัฐอินเดียนา โดยจะเปิดราคาในช่วงกลางปีนี้ตั้งแต่ มิถุนายน ที่สหรัฐอเมริกา

    ที่มา Carscoops

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts