หลายคนคงจะทรมานไม่น้อยกับอาการ “ปวดหลัง” ไม่ว่าจะจากการนั่งทำงานนาน ๆ หรือจากการขับรถเป็นเวลานาน บางคนปวดมาก บางคนปวดน้อย มักเกิดจากการทำท่าทางซ้ำ ๆ ในท่าเดิม ๆ ทุกวัน เรามาลองหาวิธีบรรเทาอาการปวดหลังเวลาขับรถนาน ๆ เผื่ออาจจะช่วยให้คุณผ่อนคลายจากอาการเหล่านี้ได้กันดูครับ

9 วิธีจัดระเบียบท่านั่งให้เหมาะสมกับการขับรถที่ดี เพื่อลดอาการปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- นั่งให้แผ่นหลัง สะโพก และต้นขา ชิดเบาะมากที่สุด เพื่อให้เบาะโอบรับสรีระของร่างกาย ไม่ให้เราเกร็งขณะขับรถจนเกินไป
 - ปรับระยะห่างที่นั่ง ระยะที่เหมาะสมคือระยะที่เข่าของคุณจะงอเล็กน้อยเวลาเหยียบเบรกจนสุด นอกจากจะ ทำให้เหยียบเบรก หรือคันเร่งได้อย่างเต็มที่
 - ปรับความสูงของที่นั่ง เพื่อให้ได้ทัศนวิสัยที่ดี มองเห็นได้รอบรถ และมองเห็นกระจกแต่ละส่วนได้ชัดเจน ไม่ต้องชะเง้อให้ปวดคอไปอีก
 - ปรับเบาะที่นั่งเงยขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้สามารถเหยียบคันเร่ง หรือเบรกได้ง่ายขึ้น และให้เบาะนั่งรับกับต้นขาได้ดีขึ้น
 - ปรับพนักพิงให้ได้องศาที่เหมาะสม เพื่อสร้างระยะห่างจากพวงมาลัย ซึ่งจะช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น
 - ปรับเบาะรองศีรษะ ให้ตรงกับระดับความสูงของศีรษะของผู้ขับ และระยะห่างระหว่างศีรษะกับ เบาะรองศีรษะควรอยู่ที่ประมาณ 2 เซนติเมตร
 - จับพวงมาลัยที่ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกาเพราะเป็นตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับหัวไหล่ ลดอาการเมื่อยไหล่ และยังทำให้หมุนพวงมาลัยได้ง่าย ไม่หลุดมือ
 - ปรับองศาพวงมาลัย ให้อยู่ในองศาที่เมื่อจับพวงมาลัยแล้วรู้สึกถนัดมากที่สุด ไม่รู้สึกว่าต้องเอื้อม หรือเกร็งไหล่
 - ปรับระยะพวงมาลัย โดยก่อนปรับ ให้ลองยืดแขนไปพาดอยู่บนพวงมาลัยดู หากข้อมือไม่ได้อยู่บนพวงมาลัย ให้ปรับระยะพวงมาลัยจนตรงกับระยะข้อมือของเรา โดยที่ตัวยังแนบอยู่กับที่นั่ง เมื่อปรับได้ระยะที่ถูกต้องแล้ว แขนของเราจะงอเล็กน้อยเวลาจับพวงมาลัย ซึ่งทำให้ง่ายต่อการควบคุม
 

ท่านั่งที่ถูกต้องไม่ว่าจะขณะขับรถ หรือขณะทำงาน ก็สามารถช่วยลดและบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ ถ้าหากต้องเดินทางไกล ๆ ก็สามารถจอดรถแวะพักสักหน่อย เพื่อยืดเส้น ยืดสาย อย่าฝืนขับเป็นเวลานานเพื่ออาจจะส่งผลกระทบกับร่างกายในระยะยาวได้


                                    







