ในที่สุด Toyota เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับเอสยูวีพี่รองรุ่น 300 กับ Toyota land Cruiser 250 หรือ Toyota Land Cruiser Prado
รถทรงกล่องเจเนอเรชันที่ 5 รหัส 250 สานต่อความสำเร็จจากรหัส 150 ที่แซยิดมายาวนานกว่า 14 ปี ดีไซน์ภายนอกจับพื้นฐานของ Lexus GX เจเนอเรชันที่ 3 มาผสมกับความคลาสสิกของ Toyota Land Cruiser 40 Series และ Toyota FJ Cruiser เข้าไว้ด้วยกันอย่างเช่น
- กระจังหน้าพร้อมตราตัวอักษร Toyota
- ไฟหน้า LED 3 ดวงทันสมัย ส่วนขอบบนเป็นไฟ DRL แบบ LED หรือแบบทรงกลม LED แบบ Bi-PES type พร้อมไฟ DRL ล้อมกรอบไฟหน้าพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ในชุดกันชนหน้าทูโทน
- กระจกมองข้างแนวตั้งทรงสปูน
- ราวหลังคา บันไดข้างแบบกัดลาย เสาอากาศครีบฉลาม
- หลังคาซันรูฟที่เลือกได้ทั้งแบบธรรมดาและพาโนรามิกบานใหญ่
- ด้านท้ายคล้ายกับรุ่น 60 Series ตั้งแต่ไฟท้าย LED แนวตั้ง กรอบป้ายทะเบียนติดตรา Toyota พร้อมกันชนหลัง
- ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60R18 และ 265/70R18 และขนาดใหญ่ 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/55R20
ยังใช้พื้นฐาน TNGA-F body-on-frame โครงสร้างมีความแกร่งขึ้น +50% แพลตฟอร์มโดยรวมเพิ่มขึ้น +30% พร้อมตัวรถที่ขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับเจนที่แล้วโดยยาวกว่าเดิม 100 มม. กว้างกว่าเดิม 95 มม.สูงกว่าเดิม 20 มม. ฐานล้อยาวกว่า 60 มม.
- ความยาว 4,925 มม.
- ความกว้าง 1,980 มม.
- ความสูง 1,870 มม.
- ฐานล้อ 2,850 มม.
ภายในต้องเป็นแนวสามตอนเจ็ดที่นั่งและสองตอนห้าที่นั่งสามารถปรับและพับได้ตามความต้องการขนของได้อย่างจุใจโดยเบาะตอนที่สองพับได้แบบ 40/60 และตอนที่สามพับได้แบบ 50/50 ด้วยระบบไฟฟ้า
- มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID 12.3 นิ้ว
- จอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 กับ 10.1 นิ้ว รองรับความบันเทิงไร้สาย Apple Carplay และ Android Auto พร้อมช่องแอร์ใต้จอสัมผัส แถมมีลำโพงคุณภาพ 10 และ 21 จุดรอบคัน
- ที่เสียบชาร์จ USB-C 2 จุด USB-A 1 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สาย
- ที่วางแก้ว 13 จุด หัวเกียร์ดีไซน์กะทัดรัดจับกระชับพร้อมเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านติดตราอักษร Toyota
ด้านเครื่องยนต์มีหลายขนาดทั้งสันดาปล้วน, Mild Hybrid และ Full Hybrid ซึ่งจะขายตามแต่ละประเทศเริ่มที่
- เบนซินมีทั้งแบบ Full Hybrid ด้วย i-Force MAX Hybrid Engine 2.4 ลิตร T24A-FTS 279 แรงม้า 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 429 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดยให้กำลังรวม 330 แรงม้า แรงบิด 630 นิวตันเมตร สำหรับขายอเมริกาเหนือและจีน
- เบนซินเทอร์โบ i-Force Engine 2.4 ลิตร T24A-FTS 281 แรงม้า 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบ/นาที ทั้งสองขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift สำหรับกลุ่มประเทศตะวันออกลางและยุโรปตะวันออกและที่อื่นๆ
- เบนซินยอดนิยมที่ยกมาจากเจนที่แล้วขนาด 2.7 ลิตร Dual VVT-I 2TR-FE 163 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 246 นิวตันเมตรที่ 3,900 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ECT สำหรับกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกและญี่ปุ่น
- ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift สำหรับยุโรปตะวันตก-ตะวันออก ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง
- ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift พร้อม Mild Hybrid 48 V พ่วงแบตเตอรี่ก้อนเล็กสุดกับมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมพละกำลังโดยเฉพาะในช่วงออกตัวและจังหวะเร่งแซงให้ดีกว่าแต่ความประหยัดเพิ่มขึ้น สำหรับตลาดยุโรปตะวันตกและออสเตรเลีย ขายช่วงปี 2025
- เบนซินเทอร์โบคู่ 3.5 V6 V35A-FTS 415 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 650 นิวตันเมตรที่ 2,000-3,600 รอบ/นาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด Direct Shift-10AT สำหรับอเมริกาเหนือ
ทุกขนาดขุมพลังมาระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time ที่มีระบบ Multi-Terrain Select ตรวจพื้นถนนโดยมีโหมดลุยประกอบด้วย Auto, Dirt, Sand, Mud, Deep Snow และ Rock และ Crawl Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนเส้นทางโหด พร้อมปรับช่วงล่างใหม่รวมถึงสมรรถนะสามารถลุยได้ทั้งทางวิบากและทุกสภาพถนน รวมถึงปรับในส่วนพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ลดการกระตุกเมื่อขับบนถนนขรุขระ บังคับเลี้ยวแบบคมขึ้น เพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้น
รวมถึงการลุยทุกรูปแบบตั้งแต่มุมไต่หรือมุมเงย Approach Angle 31 องศา มุมจาก Departure Angle 23 องศา และมุมคร่อม break-over angle 23 องศา พร้อมระบบควบคุมเฟืองท้ายหน้าและหลัง (ออปชันเสริม) Differential Lock มีฟังก์ชัน Stabilizer Disconnect Mechanism (SDM) ปรับตัวกันโคลงให้เหมาะสมกับสถาการณ์การขับขี่แบบต่างๆและความปลอดภัยรอบคัน Toyota Safety Sense ทั้ง
- ระบบควบคุมระยะห่างและความเร็วแปรผันตามทุกช่วงความเร็วด้วยเรดาร์ DRCC (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-speed
- เตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติแบบตรวจจับคนข้ามถนนได้ Pre-Collision System (PCS) with Pedestrian Detection
- ช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA)
- ตรวจจับรถออกนอกเลน Lane Departure System (LDS)
- ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Centering
- ไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะและช่วยบังคับเลี้ยวฉุกเฉิน Auto High Beam (AHB)
- ช่วยอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA)
- ช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง Proactive Driving Assist (PDA)
- หักหลบพวงมาลัยอัตโนมัติกันคนเดินทางเท้าเดินข้ามถนนแบบทะเล่อทะล่า Emergency Steering Assist (ESA)
Toyota land Cruiser 250 หรือ Toyota Land Cruiser Prado ทยอยขายทั่วโลกเริ่มที่ญี่ปุ่นและยุโรปขายตั้งแต่ครึ่งปีแรกของปี 2024 ตามมาด้วยออสเตรเลียกลางปี 2024 และสหรัฐอเมริกาคาดขายช่วงเดียวกับญี่ปุ่นและยุโรป
ที่มา Carwatch