จัดเต็มส่งท้ายปี! “Triumph Motorcycles” ส่งไฮไลต์รถจักรยานยนต์โมเดิร์น คลาสสิก “Bonneville Stealth Edition” “Scrambler 1200 X” “Speed 400” และ “Scrambler 400 X” เผยโฉมจริงครั้งแรกในงาน “Motor Expo 2023”
กรุงเทพฯ 29 พฤศจิกายน 2566 – ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่รถจักรยานยนต์เซกเมนต์ โมเดิร์น คลาสสิก ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ล่าสุดจัดเต็มส่งท้ายปีสำหรับงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023” ด้วยการเปิดตัว “บอนเนวิลล์ สเตลท์ อิดิชัน” (Bonneville Stealth Edition) ทั้งหมด 8 รุ่นที่มาพร้อมการคัสตอมสีรูปแบบใหม่สุดโดดเด่น รวมถึงเอาใจคนชอบรถโมเดิร์น คลาสสิกที่ชอบลุยด้วยการเปิดตัว “สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์” (Scrambler 1200 X) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ถูกสร้างมาเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ขับขี่ได้ทั้งบนท้องถนน และเส้นทางต่าง ๆ นอกจากนี้พบกับไฮไลต์! เผยโฉม “สปีด 400” (Speed 400) และ “สแครมเบลอร์ 400 เอ็กซ์” (Scrambler 400 X) สองรถจักรยานยนต์ที่สร้างปรากฏการณ์ช็อคตลาดและเป็นที่รอคอย ซึ่งทั้งหมดขนมาให้ยลโฉมอย่างใกล้ชิดพร้อมเปิดรับจองภายในงาน พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นสำหรับรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ เช่น รับข้อเสนอทางการเงินสูงสุด 150,000 บาท ไม่พอ! ยังมีส่วนลด 50% สำหรับแอคเซสเซอรีเพื่อการเดินทางสำหรับรถจักรยานยนต์หลากหลายรุ่น และส่วนลดคอลเลคชันเสื้อผ้าสูงสุด 50% เฉพาะภายในงาน พบกันได้ที่งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40” หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 ณ บูธไทรอัมพ์ G13 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 – วันที่ 11 ธันวาคม 2566
นายชินศักดิ์ กิตติอมรกุล ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 ครั้งนี้ ไทรอัมพ์ ได้จัดเต็มสำหรับแฟน ๆ ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์เซกเมนต์ โมเดิร์น คลาสสิก (Modern Classics) เริ่มต้นด้วยการเปิดตัว “บอนเนวิลล์ สเตลท์ อิดิชัน” (Stealth Editions) รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ทั้งหมด 8 รุ่น มาตรฐาน EURO 5 ประกอบไปด้วย บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์ เรด สเตลท์ อิดิชัน (Bonneville Speedmaster Red Stealth Edition) ที่มาในสีแดงเข้ม ต่อด้วยรถจักรยานยนต์สไตล์ Stripped-back อย่าง บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ เพอร์เพิล สเตลท์ อิดิชัน (Bonneville Bobber Purple Stealth Edition) ในสีม่วงเข้ม ขณะที่ บอนเนวิลล์ ที 100 บลู สเตลท์ อิดิชัน (Bonneville T100 Blue Stealth Edition) และ บอนเนวิลล์ ที 120 บลู สเตลท์ อิดิชัน (Bonneville T120 Blue Stealth Edition) มาพร้อมสีน้ำเงินสุดโดดเด่น สำหรับรุ่นขวัญใจมหาชนอย่าง สปีด ทวิน 1200 เรด สเตลท์ อิดิชัน (Speed Twin 1200 Red Stealth Edition) มาในสีแดงเร้าใจ ส่วน สปีด ทวิน 900 กรีน สเตลท์ อิดิชัน (Speed Twin 900 Green Stealth Edition) สุดโฉบเฉี่ยวมาในสีเขียว ส่วน สแครมเบลอร์ 900 ออเรนจ์ สเตลท์ อิดิชัน (Scrambler 900 Orange Stealth Edition) ถูกตกแต่งด้วยสีส้มสะดุดตา ปิดท้ายด้วย บอนเนวิลล์ ที 120 แบล็ค สเตลท์ อิดิชัน (Bonneville T120 Black Stealth Edition) มาพร้อมรูปลักษณ์ที่พิเศษแตกต่างจากรุ่นอื่นในคอลเลคชัน ด้วยสีเงินด้านให้ความรู้สึกน่าค้นหา
โดยรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ สเตลท์ อิดิชัน แต่ละรุ่นข้างต้นมาพร้อมการออกแบบถังน้ำมันอันเป็นเอกลักษณ์ เผยให้เห็นการทำสีด้วยมืออันน่าทึ่ง และโดดเด่นยิ่งขึ้นยามอยู่ในแสงไฟ ซึ่งจะเผยให้เห็นสีสันอันเด่นชัด รวมทั้งขั้นตอนการลงสีเริ่มต้นจากการทาสีรองพื้นเมทัลลิก สี ‘Silver Ice’ ซึ่งให้ความรู้สึกราวกับกระจกเงาบนตัวถัง ตามด้วยการลงสี ‘Sapphire Black’ ไล่ระดับจากเข้มไปอ่อนตามลายเส้น และในขั้นตอนสุดท้ายแลกเกอร์สีใสจะถูกทาทับหลายชั้น เพื่อให้ได้การเคลือบทับที่หนาและมันเงา ตลอดจนการไล่เรียงจากสีดำแบบกราไฟท์ไปสู่สีสันที่สดใส ซึ่งดูมีชีวิตชีวาทันทีเมื่ออยู่ในแสงสว่าง พร้อมให้เฉดสีและโทนสีที่แตกต่างออกไปตามสภาพแวดล้อม และองศาการมอง ซึ่งการลงสีด้วยมือแต่ละครั้งจะมีรายละเอียดที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้รถจักรยานยนต์ทุกคันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง ซึ่งทั้ง 8 รุ่น จะมาพร้อมระยะเวลาการวางจำหน่ายเพียง 1 ปี เท่านั้น
พร้อมกันนี้ยังเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ “สแครมเบลอร์ 1200 เอ็กซ์” (Scrambler 1200 X) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น พร้อมการยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นทั้งในด้านประสิทธิภาพ และสไตล์แบบฉบับสแครมเบลอร์อย่างแท้จริง เริ่มต้นด้วยความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 820 มม. สามารถปรับลดให้อยู่ที่ 795 มม. เมื่อใช้อุปกรณ์เสริมเบาะนั่งแบบต่ำ โดยมาพร้อมเครื่องยนต์สูบคู่บอนเนวิลล์ 1200 ซีซี ให้พละกำลัง 90 แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 110 นิวตันเมตร ที่ 4,250 รอบต่อนาที ด้านคุณลักษณะเฉพาะระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น ระบบกันสะเทือนใหม่ โช้ค Marzocchi™ USD และ RSU ขนาด 45 มม.พร้อมกระปุกน้ำมันแยก และการปรับพรีโหลด ที่ถูกปรับให้เหมาะสมสำหรับการขับขี่บนถนน ขณะเดียวกันเทคโนโลยีขับขี่ขั้นสูงอัดแน่นทั้งระบบ Optimised Cornering ABS และระบบ Optimised Cornering Traction Control มีโหมดขับขี่ 5 โหมด ได้แก่ Sport, Road, Rain, Off-Road และ Rider Configurable รวมทั้งแผงหน้าปัดมัลติฟังก์ชันพร้อมจอแสดงผล TFT ในตัว มีไฟ LED ทั้งคัน รวมถึงไฟหน้า DRL อันเป็นเอกลักษณ์ มีช่องชาร์จไฟ USB รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่สามารถติดตั้งเพิ่มเพื่อเชื่อมต่อกับรถจักรยานยนต์ ในการนำทางแบบ Turn-by-turn การใช้งานควบคุมโทรศัพท์ และการฟังเพลง ตลอดจนมีอุปกรณ์เสริมของแท้มากกว่า 70 รายการให้เลือก เพื่อสร้างรถจักรยานยนต์ในสไตล์ของผู้ขับขี่ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเดินทางท่องเที่ยวที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ Scrambler 1200 X มาพร้อมความคุ้มค่าด้วยการรับประกันคุณภาพ Triumph Warranty 2 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง รวมถึงความคุ้มค่าของช่วงเวลาการเข้ารับบริการเช็คระยะที่สูงถึง 16,000 กิโลเมตร หรือ 12 เดือน ตลอดจนฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง (Triumph Roadside Assistance) เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยมีให้เลือก 3 โทนสี ได้แก่สี Carnival Red สี Ash Grey และสี Sapphire Black
นอกจากนี้ ภายในบูธไทรอัมพ์ที่มาในคอนเซปต์ The British Premium Lifestyle พร้อมให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์หลากหลายไฮไลต์ อาทิ ครั้งแรกในไทย! ของการเผยโฉมคันจริงของ “สปีด 400” (Speed 400) และ “สแครมเบลอร์ 400 เอ็กซ์” (Scrambler 400 X) ที่ทุกคนเฝ้ารอคอย ซึ่งพร้อมให้ได้มาสัมผัสและยลโฉมอย่างใกล้ชิดและจับจองเป็นเจ้าของ รวมทั้งยังสามารถเพลิดเพลินไปกับกองทัพรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์กว่า 20 คัน ที่มาพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษให้เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ในฝัน เช่น ข้อเสนอทางการเงินสูงสุด 150,000 บาท อีกทั้งพบส่วนลด 50%
ส่วนแอคเซสเซอรีเพื่อการเดินทางสำหรับรถจักรยานยนต์ที่ขนมาให้เลือกเสริมลุคแบบครบครัน และส่วนลดเสื้อผ้าสูงสุดถึง 50% เฉพาะภายในงานเท่านั้น พบกันได้ที่งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40” หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 ณ บูธไทรอัมพ์ G13 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 จนถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2566 นายชินศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับรายละเอียดดูได้ที่เว็บไซต์ triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก TriumphMotorcyclesThailand