ออสเตรเลียเปิดราคาขายใหม่ Volkswagen Amarok MY2024 กระบะแกร่งที่พัฒนาร่วมกับ Ford จากค่าย Volkswagen Commercial Vehicles
Volkswagen Amarok เจนที่สองภายนอกเด่นด้วยเทคโนโลยีไฟหน้า แบบ LED และแบบ Matrix LED ที่ได้รับเทคโนโลยีจาก IQ.Light technology เป็นเทคโนโลยีการส่องสว่างที่ดีกว่าไฟ LED ทั่วไปรวมถึงให้ทั้งไฟหรี่ กับไฟสูงอัตโนมัติซึ่งปรับไม่รบกวนรถคันอื่นที่สวนมา และยังมีไฟ DRL LED รูปตัว C ในโคมเดียวกัน ขนาบข้างกับกระจังหน้าออกแบบเส้นสายเป็นหนึ่งเดียวกันชนหน้าทรงบึกบึนและยังมีไฟหน้า LED ดีไซน์แนวนนอนให้เลือก พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ในชุดกันชนหน้าออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น ดีไซน์ฝากระโปรงหน้ากับบังโคลนหน้าหลังที่ดุดันแข็งแกร่งเผยถึงเข้มความเข้มไม่เป็นรองใคร ทั้งคิ้วชายล่างมีทรงเว้า คิ้วขอบล้อทรง built-In เรียบเนียน
แม้กระทั่งชุดล้อและยางมีหลายขนาดให้เลือกตั้งแต่ขนาดขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 255/70 R17 ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/65R18 และขนาดใหญ่สุด 21 นิ้วพร้อมยาง 275/45R21 ด้านท้ายสื่อถึงความแข็งแกร่งด้วยโลโก้ VW วงกลมพร้อมตัวหนังสือ Amarok ขนาดใหญ่ดีไซน์ปั้มลงกระบะท้ายพ่วงด้วยโลโก้ V6 เข้ามาเพื่อจะบอกว่าคันนี้มีเครื่อง V6 ให้เลือกด้วย พร้อมไฟท้าย LED รูปตัว C แบบครึ่งเสี้ยว ตัวรถใหญ่พอๆกับฝาแฝด Ford Ranger เจนใหม่ ตั้งแต่ความยาว 5,350 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,910 มิลลิเมตร ความสูง 1,888 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,270 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 230 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร
ภายในหรูด้วยชุดจอสัมผัสแนวตั้งที่คล้ายกับแฝดผู้พี่ Ford Ranger เจนใหม่ โดยมีทั้งขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว แต่สามารถรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play ไร้สาย Android Auto รวมถึงควบคุมทุกสิ่งของตัวรถทั้งระบบปรับอากาศ ระบบนำทาง บริการสตรีมมิ่งออนไลน์ ระบบช่วยจอด ทางด้านปุ่มควบคุมใต้จอสัมผัสนั้นออกแบบให้ใช้งานง่ายและหรูหราด้วยปุ่มโทนสีดำสีเงินโครเมี่ยม ประกบกับช่องแอร์ขอบโครเมี่ยมในชุดแผงคอนโซลหน้าเรียบง่ายแฝงความเข้มด้วยวัสดุบุหนังสัมผัสและเดินด้ายส้มอันเป็นการบอกถึงความสปอร์ต ที่พร้อมจะสาดความโหดได้ทุกที่ทุกเส้นทางรวมถึงเครื่องเสียงคุณภาพ เบาะไฟฟ้าคนขับปรับได้ 10 ทิศทาง ห้องโดยสารด้านหลังในรุ่นสี่ประตูที่กว้างสบายนั่งได้สามคน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน มาตรวัดดิจิทัล 8 และขนาด 12.3 นิ้ว ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient lighting ปุ่ม Push Start แท่นชาร์จไฟไร้สาย กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา และปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ และช่องต่อ USB
ขุมพลังยกชุดจาก Ford Ranger เจนใหม่ตั้งแต่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 3.0 ลิตร Power Stroke รหัส AJD-V6 ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้าที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิด 600 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาทีและยังมีดีเซลขนาด 2.0 ลิตร แบบเดียวกับสเปกไทยตั้งแต่ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร YN2Q 210 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว High Power 2.0 ลิตร P02Q 170 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที และยังมีเบนซินเทอร์โบขนาด 2.3 ลิตร TSI 302 แรงม้าที่ 5,900 รอบต่อนาที แรงบิด 452 นิวตันเมตรที่ 3,350 รอบต่อนาที
มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ในรุ่น 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว High Power และ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด 10R80 เลือกได้แบบธรรมดาและ e-Shifter ในรุ่น 2.0 เทอร์โบคู่ 3.0 V6 และ 2.3 เบนซิน ให้เลือกเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Part-Time และขับเคลื่อนสี่ล้อ Full Time อัจฉริยะแบบเต็มเวลา 4Motion ลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร พร้อมโหมดการขับขี่ Terrain Management System ที่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้งโหมด Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery สองโหมดสำหรับลุยทั้งโหมด Sand และ Mud/Ruts พร้อมดิฟล็อกหลังแบบไฟฟ้า พร้อมระบบความปลอดภัยอาทิ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Fully Automated Park Assist)
ควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง เปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ, ช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB), เตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System), ช่วยควบคุมรถหลังจากชน , ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Alert), กล้องมองรอบคัน 360 องศา, ป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง ช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ เพิ่มออปชันใหม่ทุกรุ่นทั้ง trailer brake controller หรือ ควบคุมเบรกรถเทลเลอร์พ่วงท้าย และในรุ่น Core TDI405 เพิ่มพร้อมระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System – BLIS® with cross-traffic alert) จากเดิมที่มีให้ตั้งแต่รุ่นกลางไปจนถึงรุ่นท็อป
อุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ถุงลมนิรภัย 9 จุด รอบคัน กล้องมองรอบคัน 360 องศา, ป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD และดิสก์เบรก 4 ล้อ กับหน้าดิส์เบรกหลังดรัมเบรก ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System), ช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation) และ ควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control)
Volkswagen Amarok MY2024 ขายห้ารุ่นย่อยตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น CORE, LIFE, STYLE, Pan Americana และรุ่นท็อปสุด Aventura ผลิตที่โรงงาน Ford ในเมืองซิลเวอร์ตัน แอฟริกาใต้ แทนโรงงานเดิมที่อาร์เจนติน่า เปิดขายที่ออสเตรเลียด้วยราคาใหม่ปรับขึ้น เริ่ม 1 กุมภาพันธ์ เริ่ม $55,490- $82,990 เป็นราคาก่อนรวมค่า on-road costs หรือราว 1,305,000-1,955,000 บาท
ที่มา Carexpert