หลังจากเปิดตัวและประกาศราคาสำหรับ WULING BINGUO EV เริ่ม 419,000 บาท สำหรับ 1 พันคันแรกและปลายปีนี้เตรียมเสริมรุ่นใหม่กับ WULING Cloud EV
WULING Cloud EV เวอร์ชันพวงมาลัยขวาด้วยรูปร่างหน้าตาคล้ายกับต้นฉบับ BAOJUN Cloud EV เปลี่ยนตรามาเป็นแบรนด์ WULING คล้ายๆกับรุ่น AIR EV
ภายนอก
หล่อหรูทั้งคันตั้งแต่แถบไฟ LED DRL แนวยาว ติดตั้งกล้องมองภาพด้านหน้าใต้โลโก้ มีไฟหน้า Projector แบบ LED ทรงหกเหลี่ยม พร้อมแถบแนวนอนโครเมียมในชุดโคมไฟหน้าด้านข้างสะท้อนรูปลักษณ์แห่งความทันสมัยด้วยหลังคารถที่ลาดลง กระจกตั้งแต่เสาเอไปจนถึงเสาซีขนาดใหญ่ด้วยสีดำเข้ม ล้อมกรอบโครเมียม กระจกมองข้างทรงสปูนติดไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวรถ ด้านท้ายมาพร้อมแถบไฟท้าย LED ดีไซน์เรียบง่ายแนวยาวเชื่อมไฟท้าย LED ซ้าย-ขวา กันชนหลังดีไซน์ลงตัวพร้อมแถบสีเงินใต้ป้ายทะเบียนและล้ออัลลอยห้าก้านทูโทนขนาดใหญ่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/55R18
ด้วยตัวรถมาในร่างเก๋งห้าประตูร่างเอ็มพีวีมีขนาดใหญ่โตใกล้เคียงกับคู่แข่ง BYD Dolphin ตั้งแต่ความยาว 4,295 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร ความสูง 1,652 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,495-1,615 กิโลกรัม
ภายใน
ล้ำสมัยกว่าเพื่อนร่วมค่ายสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นรถหรูยุมากขึ้นใหญ่ พร้อมการตกแต่งโทนดำเข้ม ผสมสีน้ำตาลอ่อนในชุดแผงคอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัส คิ้วขอบประตูกับลำโพงในชุดแผงประตูหุ้มหนัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังสองก้านทรงท้ายตัดที่ท้าวแขนในชุดคอนโซลเกียร์หุ้มหนัง จอมาตรวัดความเร็วพร้อมจอแสดงข้อมูล MID ขนาด 8.8 นิ้ว จอสัมผัสควบคุมระบบความบันเทิงและควบคุมตัวรถขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วแบบลอยตัว ลำโพง 6 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สาย และยังทันสมัยด้วยตรวจสอบการทำงานของรถผ่านแอป MyWuling+
ชุดเบาะนั่งหุ้มวัสดุกึ่งหน้งแท้ลายเดียวกับโซฟาชั้นดี Italian Bubble Sofa Style เด่นด้วยเบาะนั่งด้านหน้าปรับเอนได้ถึง 135 องศา ปรับด้วยระบบไฟฟ้าคู่หน้าด้านคนขับปรับ 6 ทิศทางและคนนั่ง 4 ทิศทาง เบาะหลังพับได้มีพื้นที่มากถึง 1,707 ลิตรแต่ถ้าไม่พับมีพื้นที่ 382 ลิตร เลยทีเดียว สร้างความอบอุ่นสบายตาด้วยไฟสร้างบรรยากาศภายในมากถึง 256 สี และไฟภายในแบบ LED ให้ความสว่างในยามค่ำคืนหรืออยู่ที่มืด และเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติกันฝุ่น PM 2.5
ขุมพลัง
เป็นแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุแบตเตอรี่ lithium-iron phosphate 50.6 kWh ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร ให้ระยะทางไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งได้ 460 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จสองรูปแบบเริ่มที่กระแสสลับ AC กำลังชาร์จสูงสุด 8.8 kW สามารถชาร์จ 20-100% ได้ 7 ชั่วโมงและชาร์จกระแสตรง DC 30-80% ภายในเวลา 30 นาทีโหมดการขับขี่เลือกได้ถึงสี่โหมดทั้ง ECO, ECO +, Sport, และ Normal และเกียร์อัตโนมัติ Single Reduction Gear พร้อมช่วงล่างหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังแบบทอร์ชันบีมร่วมกับคอยล์สปริง
ความปลอดภัย
มาครบทั้งที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัย 4 จุด เบรกมือไฟฟ้าและ Electric Parking Brake (EPB) with Auto Vehicle Hold (AVH) ควบคุมการทรงตัว Electronic Stability Control (ESC) ควบคุมความเร็วขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control (HHC) ตรวจวัดลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS) ดิสก์เบรกสี่ล้อ ISOFIX เสริมที่นั่งเด็ก สัญญาณกะระยะการจดอรถด้านหลัง Rear Parking Sensor และเตือนคนเดินข้ามถนน Pedestrian Sound Warning ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ประกอบด้วย
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- เตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Intelligent Driving Assistance (IDA)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking (AEB)
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- แจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า Safe Distance Warning (SDW)
- เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ Intelligent High Beam Assist (IHMA)
- Bend Cruise Assistance (BCA)
งานนี้คู่แข่งร่วมชาติเตรียมสะเทือนเพราะคันนี้ประกอบที่อินโดนีเซียเตรียมขายจริงตั้งแต่สิ้นเดือนพฤษภาคม โดยเปิดราคาเริ่มที่ 398,000,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย หรือราว 895,000 บาท ส่วนเมืองไทยทาง EV Primus เตรียมเผยตัวจริงปลายปีนี้คาดมาทันงาน Motor Expo 2024 และเตรียมส่งมอบตั้งแต่ต้นปี 2025