ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาตลาดรถเมืองไทยทำได้ลดลงอย่างต่อเนื่องรวม 271,567 คัน ลดลง 26.2% จากปัญหาของสถาบันการเงิน และหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังสูง
ประกอบด้วยรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 135,897 คัน ลดลง 20.3% รถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 218,524 คัน ลดลง 25.7% และรถกระบะขนาด 1 ตัน รวมรถ PPV 124,562 คัน ลดลง 40.1%
นอกจากสาเหตุเรื่องของความเข้มงวดของสถาบันการเงินแล้วยังมีปัจจัยรอบด้านที่จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมอาทิ การเติบโตของการบริโภคภาคเอกชน นโยบายของภาครัฐที่จะสนับสนุนการใช้จ่ายให้เร่งตัวขึ้นและในปีนี้ยอดขายรถในไทยอาจไม่ถึง 800,000 คัน
โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ค่ายรถยนต์พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อต้อนรับงาน Motor Expo ทั้งแบบเปิดตัวครั้งแรกเปิดตัวพร้อมราคาและส่งมอบทั้งสันดาปล้วนและไฟฟ้าเพื่อตอบทุกความต้องการทาง Car2Day จึงรวบรวมและคาดการณ์กับรถยนต์ที่จะเปิดตัวช่วงปลายปีนี้เริ่มที่
AION : HYPTEC HT
HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าประตูปีกนกคู่หลัง Gull Wing Door ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นจุดเด่นด้านการที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Tesla Model X สร้างจากแพลตฟอร์ม AEP 3.0 เตรียมเปิดตัวในไทย 19 กันยายน
BYD : SEALION 7 x DENZA D9
ค่ายนี้เตรียมส่งรถใหม่บุกเมืองไทยในปีนี้ถึง 5 รุ่น ทั้ง BYD ATTO 3 MY2024, BYD Dolphin CKD, BYD SEALION 6 CKD, BYD M6 ที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นาน
ล่าสุดตุลาคมนี้เตรียมพบกับเจ้าสิงโตทะเลอย่าง BYD SEALION 7 หรือ BYD SEA LION 07 จากตระกูล Ocean ตัวรถดีไซน์โดย Wolfgang Egger หัวหน้าฝ่ายออกแบบค่ายที่เคยฝากผลงานในอดีตกับค่าย AUDI สร้างจากแพลตฟอร์ม e-platform 3.0
ขุมพลังไฟฟ้าพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium iron phosphate (LFP) Blade Battery เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถเรียกว่า Cell To Body หรือ CTB เริ่มที่
รุ่นท็อป AWD Performance ขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่พร้อมความจุแบตเตอรี่ 82.5 kWhให้กำลังรวมสูงสุด 530 แรงม้า แรงบิด 670 นิวตันเมตรจากมอเตอร์คู่หน้าให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่หลัง 313 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 4.5 วินาที
ความเร็วสูงสุด 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุด 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC ส่วนระยะเวลาการชาร์จมาแบบกระแสตรง DC รองรับกำลังสูงสุด 150kW 10-80% ภายใน 25 นาที กับกระแสสลับ AC รองรับกำลังสูงสุด 11 kW
พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed พร้อมโหมดการขับขี่สามโหมดทั้ง Eco, Standard และ Sport มีระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) ใช้หัวชาร์จแบบ Type 2/CCS Combo ยังมีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด
ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ พร้อม ช่วงล่างแบบปีกนกคู่ด้านหน้า และ Multi-Link ด้านหลัง ช่วยควบคุมการขับขี่ได้อย่างแม่นยำและนุ่มนวล
อีกรุ่นในเครือ BYD กับ DENZA D9 เอ็มพีวีหรูที่ลุ้นกันว่าในเวอร์ชันไทยนั้นจะเป็นขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดหรือไฟฟ้าล้วน
CHANGAN : AVATR 11 x DEEPAL E07
ปลายปีนี้ได้เห็นแบรนด์ลูกแบรนด์ที่ 3 ต่อจาก LUMIN อย่าง AVATR ประเดิมด้วย AVATR 11 เอสยูวีรูปทรงแบบท้ายลาด Coupe เสมือนเป็นการนำเอกลักษณ์สร้างความโดดเด่นโดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 กันยายน
พร้อมระบบเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ AC induction/asynchronous, Permanent magnet และชุดแบตเตอรี่แบบ Ternary Lithium Battery มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวและขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่
เริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังมีสองแบบดังนี้ รุ่น Standard Range จากความจุแบตเตอรี่ 90.38 kWh ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 600-630 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.6 วินาที
ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 25 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 15 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 10.5 ชั่วโมง
รุ่น Extended Range จากความจุแบตเตอรี่ 116.79 kWh ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 705-730 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.9 วินาที
ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 45 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 25 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 13.5 ชั่วโมง
รุ่น Standard Range ขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ จากความจุแบตเตอรี่ 90.38 kWh ให้กำลังรวม 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร จากมอเตอร์คู่หน้ากำลัง 265 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่หลัง 313 แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 555-580 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC
ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.98 วินาที ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 25 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 15 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 10.5 ชั่วโมง
รุ่น Extended Range ขับเคลื่อนสี่ล้อมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ จากความจุแบตเตอรี่ 116.79 kWh ให้กำลังรวม 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร จากมอเตอร์คู่หน้ากำลัง 265 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่หลัง 313 แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 680-700 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC
ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.5 วินาที ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 45 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 25 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 13.5 ชั่วโมง
ส่วนอีกรุ่นที่มาแน่นอนช่วงพฤศจิกายนที่งาน Motor Expo กับ DEEPAL E07 หรือ NEVO E07 รถสารพัดประโยชน์ด้วยหลังคารถท้ายลาดสไตล์คูเป้มีความโดดเด่นที่เป็นได้ทั้งรถเอสยูวีด้วยหลังคากระจกด้านหลัง สามารถเลื่อนสไลด์ เปิด-ปิด ได้ด้วยระบบไฟฟ้า สร้างจากแพลตฟอร์ม SDA
มาแบบไฟฟ้าล้วนทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวและคู่พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบไตรภาค หรือ Lithium-ion ternary battery ให้กำลัง 343 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 201 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวและรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังรวม 599 แรงม้า แบ่งเป็น 256 แรงม้า สำหรับมอเตอร์หน้าและ 343 แรงม้า สำหรับมอเตอร์หลัง ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีขุมพลัง EREV ใช้เครื่องยนต์ในการปั่นไฟคู่กับแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนพร้อมวิ่งไกลต่อการชาร์จมีหลายระดับทั้งแบบ BEV และ EREV ตั้งแต่ 551/651/701 และ 1,000 กิโลเมตร ด้วยเทคโนโลยีกระแสไฟฟ้าแรงดันสูง 800V
CHERY : JAECOO 7 PHEV
ไตรมาสสุดท้ายพบกับ JAECOO 7 นำพื้นฐานของ CHERY Explore 06 เปลี่ยนหน้าตาให้สมกับความเป็น JAECOO ด้วยแพลตฟอร์ม T1X Plug In Hybird เบนซินเทอร์โบ Kunpeng ขนาด 1.5 ลิตร รหัส SQRE4T15C ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,000 รอบต่อนาที
พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ Ternary lithium battery 18.3 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังสูงสุด 346 แรงม้า แรงบิด 525 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ 95 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามาตรฐาน NEDC และถ้าวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทำได้ 1,280 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ประะหยัดสุด 20.4 กิโลเมตรต่อลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 3-speed DHT มีโหมดการทำงาน 9 โหมด อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.9 วินาที ชาร์จได้สองรูปแบบทั้งกระแสสลับ AC และ กระแสตรง DC จาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 20 นาที
Ford : Mustang x Tremor Series
ม้าป่าเจเนอเรชันใหม่ กับ Ford Mustang เจนที่ 7 ใหม่หมดแต่ยังรักษาความคลาสสิกไว้เช่นเคยกับพลังเดิม V8 5.0 466 แรงม้า แรงบิด 569 นิวตันเมตร รวมถึงเบนซินเล็ก EcoBoost GTDi ขนาด 2.3 ลิตร 314 แรงม้า แรงบิด 476 นิวตันเมตร ทั้งสองขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รุ่น 10R80 SelectShift รุ่นเดียวกันที่ใช้ในกระบะ Ford Ranger เข้ามาทำตลาด
และอีกรุ่นที่ลุ้นกันว่าจะมาไทยหรือไม่กับ Ford Tremor Series ทั้ง Ford Ranger Tremor และ Ford Everest Tremor กับลุคดุน้องๆ Raptor เด่นด้วยช่วงล่างดุพร้อมโช้คอัพโมโนทิวบ์จาก Bilstein Position-Sensitive และยางขนาด 17 นิ้ว AT จาก General Grabber AT3 All-Terrain ส่งผลให้มีการขยายพื้นที่ด้านหน้าและหลังกว้างขึ้น 30 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถเพิ่มขึ้นเป็น 26 มิลลิเมตร
ด้านขุมพลังถ้ามาไทยจะใช้ขุมพลังไหนมาประจำการทั้งดีเซล V6 มาประจำการเป็นเทอร์โบเดี่ยวในตระกูล Lion ขนาด 3.0 ลิตร Power Stroke รหัส BFWS ที่ให้กำลังมากถึง 250 แรงม้าที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิด 600 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที
หรือดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร รหัส YN2S ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที พร้อม ไส้กรองเขม่าดีเซล (DPF) สามารถเติมน้ำยาบำบัดไอเสียดีเซล (DEF) หรือสารแอดบลู (AdBlue®)
ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด 10R80 แบบ e-Shifter พร้อมดิฟล็อกหลังไฟฟ้ากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time 4A ผสานกับโหมดการขับขี่แบบ Terrain Management System 6 โหมดทั้งโหมด Normal, โหมดประหยัด Eco, โหมดลากจูงและบรรทุก Tow/Haul, โหมดทางลื่น Slippery, โหมดทราย Sand, โหมดโคลน Mud/Ruts แล้วยังเพิ่มโหมดหิน Rock Crawl รวม 7 โหมด
GEELY : EX5
GEELY พร้อมลุยตลาดเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะ ZEEKR RIDDARA LEVC ประเดิมด้วยกับ GEELY EX5 เอสยูวีไฟฟ้าด้วยขุมพลังไฟฟ้าแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตAegis short blade แบบ LFP ด้วยความจุแบตเตอรี่ 49.52 kWh วิ่งไกลสุด 440 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC
และความจุแบตเตอรี่ 60.22 kWh วิ่งไกลสุด 530 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC โดยทั้ง 2 ความจุให้แรงม้าเท่ากันคือ 218 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 6.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาพร้อมเทคโนโลยีตัวถังแบตเตอรี่ CTB (Cell to body) กระจายน้ำหนักเพลาหน้าไปถึงหลัง 50:50 น้ำหนักลดลงและมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลงเพิ่มความแข็งแกร่งของรถ
โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ Galaxy 11 in 1 ที่มีส่วนประกอบหลัก 11 ชิ้นด้วยกัน เช่น มอเตอร์ ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ และรีดิวเซอร์ มีน้ำหนักเพียง 79.8 กิโลกรัม ปริมาณ 72 ลิตร ชาร์จทั้งกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 20 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 10-100% ภายใน 7.5 และ 9 ชั่วโมง
Honda : HR-V e:HEV Minor Change
ส่งภาพ Official ยั่วน้ำลายพร้อมเปิดรับจองสิทธ์แล้วสำหรับ Honda HR-V e:HEV รุ่นปรับโฉมลุคใหม่เอสยูวียอดนิยมปรับสไตล์ปรับความเท่ทั้งกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตใหม่ ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยสีใหม่ และสีภายนอกใหม่ สีกากีแซนด์ (มุก) พร้อมหลังคาสีดำทูโทน และอัปความคุ้มค่า น่าเป็นเจ้าของยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเติมหลากหลายฟังก์ชัน อาทิ ใหม่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
พร้อมพลัง e:HEV 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว รหัส LEB-H5 ให้กำลัง สูงถึง 108 แรงม้าที่ 6,000-6,400 รอบต่อนาที แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบต่อนาที ผสมผสานกันทำงานมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กำลังรวมสูงสุด 131 แรงม้าที่ 4,000-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า E-CVT เปิดตัวและราคาในวันที่ 28 พฤศจิกายน
Hyundai : IONIQ 5 N x Palisade
IONIQ 5 N มาไทยภายในปีนี้ ด้วยชุดแต่ง N รอบคัน แบบสีดำขลิบสีแดง มาพร้อมพลังอีวีมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าให้กำลัง 226 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง 383 แรงม้า โดยให้กำลังรวม 609 แรงม้า แรงบิด 740 นิวตันเมตร
เพิ่มพลังโหดเข้าไปถึง 650 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร ถ้าเปิดใช้โหมด N Grin Boost ส่งผลให้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.4 วินาที
ก่อนทะยานไปสู่ความเร็วสูงสุด 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมความจุแบตเตอรี่ 84 kWh ด้วยกำลังการชาร์จมากสุด 350 kW สามารถชาร์จเร็ว DC จาก 10-80% ในเวลา 18 นาที ปลุกอารมณ์ซิ่งขับขี่แบบรถขับหลังกับฟังก์ชัน N Drift Optimizer พร้อมฟังก์ชัน Torque Kick Drift เปิดตัว 26 กันยายน
และอีกรุ่นกับ Hyundai Palisade เอสยูวีไซซ์ใหญ่หรูสบาย 3 แถวมาพร้อมขุมพลังเดียวกับ Hyundai STARIA ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร CRDi รหัส D4HB กำลังสูงสุด 200 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 440 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC All-Wheel-Drive (AWD) โดยมาไทยช่วงต้นเดือนพฤศิจกายน
ISUZU : D-MAX MY2025
ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดรถในไทยทรุดลงอย่างต่อเนื่องทำให้กลุ่มตลาดรถปิกอัพพลอยได้รับผลกระทบไปด้วยงานนี้ ISUZU สู้ไม่ถอยเตรียมเผยรุ่นปรับปรุงใหม่ MY2025 สำหรับปิกอัพยอดนิยมอย่าง ISUZU D-MAX ผ่านมาตรฐาน EURO 5 ในช่วงตุลาคม จะเพิ่มออปขันเพิ่มรุ่นย่อยหรือลดรุ่นย่อยบนเรือนร่างเด่น
LEAPMOTOR : C10
การกลับมาอีกครั้งของตำนานธุรกิจยานยนต์ในไทยอย่างกลุ่มพระนครยนตการ หรือ PNA Group ที่คว้าสิทธิ์เป็นผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยของแบรนด์ LEAPMOTOR จากกลุ่ม STELLANTIS ประเดิมรุ่นแรกกับ LEAPMOTOR C10 ด้วยพลังอีวีล้วนขับเคลื่อนล้อหลัง ตัวรถมีขนาดใกล้เคียงกับ TEALA MODEL Y
พร้อมกับแพลตฟอร์ม Silicon Carbide แรงดันสูง 800V ขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังรหัส TZ220XY008 ให้กำลังเท่ากัน 218 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 69.9 kWh วิ่งไกลสุด 420 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.29 วินาที
ชาร์จกระแสตรง DC 30-80% รองรับการชาร์จสูงสุด 84 kW ภายใน 30 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC 30-80% รองรับการชาร์จสูงสุด 6 kW ภายใน 5 ชั่วโมง คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single speed Gearbox พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง Easy/Sport/Custom และ Chill
ระบบเบรกเพื่อชาร์จไฟกลับ Braking Energy Regeneration System พร้อมฟังก์ชันการปล่อยไฟฟ้าภายนอก V2L (Vehicle to Load) และ ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ
Mitsubishi : X Force HEV
อีกหนึ่งรุ่นของค่ายทรีไดมอนด์ที่ลุ้นกันว่าจะมาช่วงปลายปีนี้หรือไม่กับ Mitsubishi X Force Sub Compact SUV พร้อมแนวคิด Best-suited buddy for an exciting life หรือคู่หูที่จะให้ความตื่นเต้นความเร้าใจตลอดการเดินทาง ด้วยพลัง Hybrid MIVEC แบบ e:MOTION ประจำการ
ด้วยเบนซินขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A92 95 แรงม้า แรงบิด 134 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 116 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร พ่วงแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนตอบสนองด้วยอัตราเร่งรวดเร็วและทรงพลังเน้นทั้งความเงียบที่มากขึ้นและประหยัด
พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 7 โหมด 7 DRIVE MODE ปรับโหมดการขับขี่เพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับทุกจุดหมายอย่างไร้กังวลท้ัง NORMAL (ถนนทั่วไป), WET (ถนนเปียก), GRAVEL (ถนนลูกรัง), TARMAC (ถนนลาดยาง), MUD (ถนนโคลน),CHARGE (โหมดการชาร์จ), EV PRIORITY (โหมดพลังงานไฟฟ้า 100%)
มีระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและขวาออกแบบให้สามารถเรียกแรงบิดให้กระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือที่เรียกว่า Active Yaw Control (AYC)
Nissan : SERENA x TERRA EURO5
ปลายปีนี้ปีนี้เตรียมพบกับ Nissan TERRA ที่คาดว่าจะเป็นปรับพลังเทอร์โบคู่ 2.3 ลิตร 190 แรงม้า มาตรฐานใหม่ EURO5 รวมถึงการมาของเอ็มพีวีสายครอบครัวที่รอคอยกับ Nissan Serena ด้วยขุมพลังเปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้าด้วยเครื่องยนต์เบนซิน e-Power รหัส HR14Dde ที่พัฒนาจาก HR12DE มาขยายความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชักยาวขึ้นเป็น 78.0 x 100.0 มิลลิเมตร (เดิม 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร)
ขนาด 1.4 ลิตร ให้กำลังถึงให้กำลังถึง 98 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 123 นิวตันเมตรที่ 5,600 รอบต่อนาทีในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้ารุ่น EM 57 Synchronous Motor และแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ขนาด 1.769 kWh โดยเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมสูงสุด 163 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมระบบ e-Pedal
RIDDARA : RD6
กระบะรุ่นใหม่ในเครือ GEELY ได้เปิดไลน์การผลิตตั้งแต่ปีกลายเพื่อทำตลาดทั่วโลกทั้งแบบพวงมาลัยซ้ายและขวากับ RIDDARA RD6 หน้าตาเดียวกับ RADAR RD6 ที่ขายจีน เพียงแต่เปลี่ยนโลโก้เป็นแบรนด์ บนขอบฝากระโปรงในร่างกระบะไร้กระดูกหรือ Unibody จากพื้นฐาน Sustainable Experience Architecture (SEA)
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิด 384 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.3 วินาที
โดยแบ่งเป็นรุ่นความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แบบ LFP 63 kWh และ 73 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จตามมาตรฐาน NEDC 385 กิโลเมตร สำหรับรุ่น 63 kWh RWD และ 450 กิโลเมตรสำหรับรุ่น 73 kWh RWD ชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 30 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังสูงสุด 7 kW 20-100% ภายใน 7.9 ชั่วโมง
และรุ่นความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP 73 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยล้อหน้าให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร ล้อหลังให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิด 384 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 428 แรงม้า แรงบิด 595 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จตามมาตรฐาน NEDC 423 กิโลเมตร ชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 32 นาที
ชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังสูงสุด 7 kW 20-100% ภายใน 11 ชั่วโมง พร้อมช่วงล่างอิสระสี่ล้อ โดยมาไทยตุลาคมนี้
Toyota : Camry x Corolla ALTIS GR Sport Minor Change
10 ตุลาคมนี้ค่ายรถสามห่วงทุ่มสุดตัวกับการเปิดตัว Toyota Camry เจเนอเรชันที่ 9 ใหม่หมดทั้งคันด้วยฟูลไฮบริดเบนซิน Dynamic Force Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร VVT-IE รหัส A25A-FXS ให้กำลังถึง 188 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,200-5,200 รอบต่อนาทีในภาคเครื่องยนต์
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวขับเคลื่อนล้อหน้าเพลาหน้า Permanent Magnet Synchronous Motor รุ่น 1VM โดยให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 208 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุแบตเตอรี่ 251.6 V ความจุไฟฟ้า 2.4 Ah (0.6 kWh)
เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมถึง 231 แรงม้าจับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Sequential Shift โหมดการขับขี่ Drive Mode Select (DMS) ให้เลือกทั้ง Sport, Eco, Normal และ EV ประหยัดน้ำมัน 19.61 กิโลเมตรต่อลิดร
รวมถึงการปรับโฉมของ Toyota Corolla ALTIS GR Sport รวมถึงรุ่นปรับปรุงใหม่ MY2025 ของ ALTIS รุ่นปกติลุ้นกันว่าเครื่อง 1.6 ลิตรจะถูกตัดออกจากสารระบบหรือไม่
Volvo : EX90
หลังเผยโฉมแบบ Sneak Preview ที่งาน Motor Expo 2022 และต้องเลื่อนเปิดตัวไปในปี 2023 ปีนี้คงได้พบกับ Volvo EX90 เอสยูวีไฟฟ้า ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม Scalable Product Architecture (SPA2) ดีไซน์ล้ำหน้ากว่ารุ่นอื่นๆของ Volvo ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.29
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ให้ความจุแบต lithium-ion ขนาดใหญ่ 111 kWh แรงสุด 408 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร และมีรุ่นแรง Performance 517 แรงม้า แรงบิด 910 นิวตันเมตร
วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 600 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 4.9 วินาที สามารถชาร์จกระแสตรง DC 10-80 % ภายใน 30 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 250 kW และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 11 kW
พร้อมระบบ LiDAR หรือ Light Detection and Ranging ระบบตรวจจับวัดระยะทางของวัตถุและคนเดิน โดยการใช้แสงเลเซอร์ไปกระทบกับวัตถุแล้วคำนวณระยะทางด้วยระยะเวลาทำงานได้เร็ว ประกอบด้วย รวมถึงกล้องแปดตัว เรดาร์ 5 ตัว เซนเซอร์อัลตราโซนิก 16 ตัว และเซนเซอร์ของระบบ LiDAR ตรวจจับคนเดินถนนด้วยระยะไกลสูงสุด 250 เมตร
WULING : Cloud EV
เวอร์ชันพวงมาลัยขวาด้วยรูปร่างหน้าตาคล้ายกับต้นฉบับ BAOJUN Cloud EV เปลี่ยนตรามาเป็นแบรนด์ WULING คล้ายๆกับรุ่น AIR EV พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุแบตเตอรี่ lithium-iron phosphate 50.6 kWh ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร
ให้ระยะทางไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งได้ 460 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จสองรูปแบบเริ่มที่กระแสสลับ AC กำลังชาร์จสูงสุด 8.8 kW สามารถชาร์จ 20-100% ได้ 7 ชั่วโมงและชาร์จกระแสตรง DC 30-80% ภายในเวลา 30 นาทีได้พบกันปลายปีนี้
XPENG : X9
ลักชัวรีแวนสายหรูมาพร้อม มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลังถึง 320 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร จากความจุแบตเตอรี่ lithium iron phosphate (LFP) 84.5 และ 101.5 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ได้ 610 และ 702 กิโลเมตร หรือ 580 และ 675 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อกับความจุแบตเตอรี่ NMC 101.5 kWh ให้กำลังรวมถึง 503 แรงม้า แรงงบิด 640 นิวตันเมตรจากมอเตอร์คู่หน้า 320 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่หลัง 184 แรงม้า แรงบิด 190 นิวตันเมตร
วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ได้ 640 กิโลเมตร หรือ 610 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และชาร์จเร็ว DC 10 นาที วิ่งได้ไกลอีก 300 กิโลเมตร รุ่นนี้ยังมีระบบเลี้ยวล้อหลังและระบบกันสะเทือนแบบถุงลมมาตรฐานพบกันไตรมาส 4
ZEEKR : 009
ZEEKR 009 เอ็มพีวีหรูขุมพลังไฟฟ้าจากสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ 400 โวลต์ ด้วยรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อให้กำลังรวม 603 แรงม้า แรงบิดรวม 693 นิวตันเมตร มาพร้อมกับความจุแบตเตอรี่ Lithium Nickel ternary จาก CATL ขนาด 116 kWh ให้ระยะทางไกลสุด 582 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP
สามารถชาร์จกระแสตรง DC ระดับ 10-80% รองรับกำลังการชาร์จ 150 kW ภายในเวลา 30 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC การชาร์จสูงสุด 6 kW โดยให้อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง Comfort, Economy, Sports, Personalized, Snow และ One Pedal มาพร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ และโช้คถุงลม Air Suspension สามารถลดความสูงของตัวรถได้ ชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ในขณะชะลอตัว Braking Energy Regeneration และรองรับ V2L สามารถจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้ พบกัน 23 กันยายน