GWM MALAYSIA เปิดตัวรุ่นใหม่ HAVAL H6 HEV เอสยูวีพลังฟูลไฮบริด และเป็นรุ่นที่ประกอบจากมาเลเซียเพื่อขายมาเลเซียไม่ได้นำเข้าจากประเทศไทยแต่อย่างใด
ภายนอก Exterior
HAVAL H6 HEV มาเลเซียเปิดตัวด้วยหน้าตาเดียวกับไทยโดดเด่นด้วยโลโก้ตัวอักษรใหม่ทั้งหน้าและหลัง คิ้วสีดำทรงเท่คั่นระหว่างบริเวณบังโคลนหน้ากับประตูคู่หน้าและล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตสีดำเข้มขนาด 19 นิ้ว 225/55R19 นอกนั้นเหมือนกับเวอร์ชันไทยตั้งแต่ กระจังหน้าทรง Star Matrix ขนาดใหญ่โครเมียมดุดันไฟหน้า Intelligent LED Headlamp ดีไซน์ล้ำสมัย
เติมเต็มความหรูหราด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟสุดหรู ขนาด 1.2 เมตร ราวหลังคาทรงบิ๊วอินน์ สีเงิน กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูดึงก้าน ด้านท้ายมีไฟท้าย LED Taillight Strip เป็นแนวยาวพาดจากซ้ายจรดขวามาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED มองเห็นได้ชัดเจน
ติดตั้งประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยให้การเปิดประตูด้านท้ายรถในขณะถือสัมภาระง่ายยิ่งขึ้น ตัวรถสร้างจากแพลต์ฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะและมิติตัวรถตั้งแต่
- ความยาว 4,683 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,886 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,720 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,738 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 175 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,720 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 61 ลิตร
ภายใน Interior
ภายในมาภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” ที่มีชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss ช่วยเติมสีสันและความหรูหราให้กับห้องโดยสาร รวมไปถึงการเชื่อมต่อหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว
เต็มอิ่มกับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, JOOX และ Navigator บอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า ลำโพง 8 จุดรอบคันพร้อม Treble Woofer และ DTS
พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบกรองอากาศ PM 2.5 Wireless Charger กุญแจ Smart Key ระบบ Push Start และประตูท้ายที่สามารถเปิด – ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า และระบบ Kick Sensor อีกทั้งยังมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย แผงมาตรวัดดิจิตอลลอยตัว HD Multi Information Display 10.25 นิ้ว จอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ครบครัน
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านพร้อม Paddle Shift กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เปิดประตูพร้อมสตาร์ทเครื่องได้สะดวกและง่ายกว่า เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางในส่วนคนขับ และไฟฟ้า 4 ทิศทางในส่วนคนนั่ง เบาะหลังพร้อมที่เท้าแขนกลาง อีกระดับของความสบายด้วยช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ตกแต่งด้วยสีทูโทนดำ-เทา เบาะหลังยังพับได้ 40/60
ช่องเสียบ USB สร้างบรรยากาศอบอุ่นภายในห้องโดยสารด้วยไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร Ambient Light ฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions)ทั้ง การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) และ GWM Application: ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชั่นของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ
สมรรถนะ Performance
ขุมพลังมาพร้อมเบนซิน 1.5 Turbo GW4B15D GDIT EVO 150 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาทีจับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้าที่ 300 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร
เร้าใจยิ่งขึ้นด้วยโหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้งโหมด ECO, Normal, Sport, Snow ช่วงล่างปรับแต่งใหม่เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ที่มาพร้อมความสบายสำหรับผู้โดยสารตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว
บนพื้นฐานระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงและหลังแบบอิสระมัลติลิงก์พร้อมเหล็กกันโคลง ทั้งคู่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ 2 DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า
ความปลอดภัย Safety
มาพร้อมช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย ADAS ประกอบด้วยเรดาห์หน้า-หลังรวมกัน 12 จุด (หน้า 6 จุด หลัง 6 จุด) มาครบทั้ง
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Breaking (AEB)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก Auto Emergency Breaking + Intersection (AEBI)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ Low Speed Emergency Breaking (LSEB)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ Adaptive Cruise Control (ACC) with Intelligent Cornering
- ควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Cruise Assist (ICA)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ Traffic Jam Assist (TJA)
- ช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ Lane Change Assist (LCA)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Braking (RCTB)
- ตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน Emergency Lane Keeping (ELK)
- ช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Detection (BSD)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA)
- ช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน Lane Center Keeping (LCK)
- จดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR)
- ช่วยเตือนการเปิดประตู Door Opening Warning (DOW)
- ช่วยหลีกเลี่ยงการชนจากรถคันอื่นที่เคลื่อนที่ใกล้เข้ามาจากด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW)
- ช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 Secondary Collision Mitigation (SCM)
- ช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง Integration Auto Parking (IAP)
- ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากทางด้านข้าง Wisdom Dodge
- ช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ Drive Monitoring system (DFM)
- ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง Wide Vehicle Detection System (WDS)
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
พร้อมความปลอดภัยมาตรฐานทั้งระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ป้องกันการลื่นไถล Traction Control (TCS) ควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Control (VSC) ควบคุมการเบรครถยนต์ขณะเข้าโค้ง Cornering Brake Control (CBC) ป้องกันการพลิกคว่ำ Roll Over Mitigation (RMI) ช่วยลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC)
ช่วยออกตัวบนทางชัน Hill Start Assist (HSA) ตรวจความดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS) ถุงลมนิรภัย 6 จุดรอบคัน ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ ไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home)
HAVAL H6 HEV ประกอบมาเลเซียที่โรงงาน EP Manufacturing Berhad (EPMB) เมืองเปโกห์ รัฐมะละกาคาดมีกำลังการผลิต 10,000 คันต่อปีในช่วงเฟสแรก และ 300,000 คันในช่วงเฟสสองถ้ามีการขยายโรงงาน ในราคา RM 139,800 หรือราว 1,085,000 บาท มีสีภายนอกด้วยกันถึง 5 สีทั้ง สีเขียว Energy Green สีขาว Hamilton White สีดำ Sun Black สีเทา Crayon Grey สีบอรนซ์เงิน Ayers Silver
ที่มาภาพ Aurizn
