หลังจากโชว์ตัวเมื่อปีกลายสำหรับ Volvo EX90 เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นหรูที่พร้อมขายและพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วโลกแม้กระทั่งเมืองไทย
ล่าสุดพบเห็น Volvo EX90 2 คันเวอร์ชันพวงมาลัยขวาป้ายแเดงจอดอยู่หน้าโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์โดย 2 คันนี้จะเป็นรถผู้บริหารของ Volvo Car Thailand นั่นเอง
ภายนอกหล่อด้วยกระจังหน้าทรงทึบติดตราโลโก้ Iron Mark พร้อมขอบฝากระโปรงหน้าที่หนากว่าเดิม ไฟหน้า LED ใหม่ดีไซน์เอกลักษณ์ “ค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์” (Thor Hammer) ให้การส่องสว่างที่ชัดเจน และสบายตาด้วยไฟที่ปรับการทำงาน และความสว่างอัตโนมัติเพื่อป้องกันแสงไฟแยงตารถคันอื่น ติดตั้งสคูปเล็กๆบนหลังคาซึ่งเป็นการทำงานของระบบ LiDAR
กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเนียนกลมกลืนกับตัวถังรถแบบฟรัช (Flush) เรียบสนิทไปกับตัวถังช่วยลดแรงเสียดทานในขณะขับขี่ มีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ที่เคลือบด้วยสารป้องกันรังสีอินฟาเรดจึงช่วยสะท้อนความร้อน และป้องกันรังสียูวี ให้ความรู้สึกโล่งสบายในทุกพื้นที่นั่งโดยสาร
ไฟท้าย LED รูปตัวซี ดีไซน์เฉพาะตัวถูกจัดวางแบบ 3 เซ็กเม็นต์เรียบไปกับตัวรถให้สไตล์ที่โดดเด่น และร่วมสมัยอย่างลงตัว และเมื่อผู้ใช้งานเดินเข้าหรือออกห่างจากตัวรถ ไฟท้ายและไฟคู่หน้าก็พร้อมต้อนรับหรือส่งลาผู้ใช้ด้วยรูปแบบการกระพริบของดวงไฟที่มีเป็นเอกลักษณ์
ล้ออัลลอยทูโทนลายแอโร่ห้าก้านขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางหน้า 265/45R21 และยางหลัง 295/40R21 และมีขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางหน้า 225/50R20 และยางหลัง 285/45R20
ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม Scalable Product Architecture (SPA2) ดีไซน์ล้ำหน้ากว่ารุ่นอื่นๆของ Volvo ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.29 และยังมีการนำเหล็กรีไซเคิลราว 15% รีไซเคิลอลูมินั่มราว 25% รีไซเคิลพลาสติกและวัสดุชีวภาพราว 48 กิโลกรัม มาใช้เป็นส่วนประกอบของรถซึ่งเทียบสัดส่วนเป็น 15% ของพลาสติกที่ใช้ทั้งหมดในรถ ซึ่งเป็นปริมาณสูงที่สุดที่เคยนำมาใช้พร้อมมิติตัวรถตั้งแต่
- ความยาว 5,037 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,964 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,744 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,985 มิลลิเมตร
- ความสูงจากใต้ท้องรถ 212 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 2,811 กิโลกรัม
ภายในได้รับแรงบันดาลใจจากห้องนั่งเล่นสไตล์สแกนดิเนเวียนผสานความทันสมัยหรูหราและความโปร่งสบายเข้าไว้ด้วยกัน ตัวเบาะผลิตขึ้นจากวัสดุที่ไม่เพียงมีคุณภาพสูง แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง NORDICO ซึ่งทำขึ้นจากขวดพลาสติก PET รีไซเคิลและโพลิเมอร์จากแหล่งวัสดุชีวภาพในป่าจากประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ซึ่งการเลือกเอาวัสดุดังกล่าวมาใช้นับเป็นการมอบนิยามใหม่ของความพรีเมี่ยมในการออกแบบอย่างแท้จริง
แผงคอนโซลหน้าและประตูประดับด้วยแผงไม้ที่ได้รับการรับรองโดย FSC™ ว่ามาจากแหล่งกำเนิดที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยตัวไม้ถูกประกอบเข้ากับวัสดุตกแต่งที่เรืองแสงและมีไฟแต่งห้องโดยสารประดับรวมเป็นสามชั้นจึงช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นในรถเสริมบรรยากาศให้ห้องโดยสารภายเปรียบเสมือนอยู่ในบ้านสไตล์สแกนดิเนวียน
เบาะที่นั่งถูกออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์โดยตัวรถมาพร้อมตัวเลือกที่นั่งสูงสุด 7 ที่ โดยแถวที่สองยังมาพร้อมที่นั่งเสริมของเด็กหรือบูสเตอร์ (booster) เพื่อมอบความอุ่นใจในการเดินทางให้ทั้งครอบครัว ที่นั่งสามารถปรับตำแหน่งได้สูงสุดถึง 8 ทิศทาง พร้อมการปรับความกระชับของเบาะเพื่อรองรับเอวและสะโพก
ยังมาพร้อมตัวเลือกเบาะที่รองรับการนวดแลระบายอากาศที่นั่งแถวสองสามารถพับลงได้อย่างอิสระเพื่อการเข้าถึงที่นั่งของผู้โดยสารแถวสามได้อย่างสะดวกและยังมีที่เหลือพอสำหรับพักเท้าของผู้โดยสารแถวสามพร้อมที่วางแก้ว และพอร์ตชาร์จแบบ USB-C
ด้วยพื้นรถที่ราบจึงให้พื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งของและอุปกรณ์ต่างๆมาอย่างครบครันในตัวรถรวมถึงพื้นที่เก็บของด้านหลังขนาด 384 ลิตร เมื่อปรับที่นั่งของผู้โดยสารแถวสามให้ตั้งขึ้น นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของใต้ที่เก็บของด้านหลังขนาด 72 ลิตร และช่องเก็บของด้านหน้าหรือ FRUNK ขนาด 46 ลิตร
เครื่องเสียงอันทรงพลังและสมจริงในแบบที่ควรเป็นเพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงให้แก่ผู้ใช้รถผ่านลำโพงจากแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำ Bowers & Wilkins ที่ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi สมจริงในห้องโดยสารที่เงียบที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นการออกแบบวิศวะกรของวอลโว่ได้ทำงานร่วมกันกับ Bowers & Wilkins
เพื่อให้แน่ใจว่าทุกที่นั่งในห้องโดยสารจะได้รับฟังเสียงคุณภาพในแบบสามมิติที่สมจริงผ่านลำโพง 25 ตัวที่ติดตั้งอยู่ภายในรถโดยทุกตำแหน่งของการจัดวางลำโพงถูกออกแบบมาเป็นอย่างพิถีพิถันเพื่อนำเสนอพลัง และคุณภาพเสียงขนาด 1,610 วัตต์ที่คมชัดสมจริงตามต้นฉบับหรือ ‘True Sound.’
ระบบอินโฟเทนเม็นต์บนหน้าจอกลาง และหน้าจอสำหรับผู้ขับ รวมถึงปุ่มกดบนพวงมาลัย ถูกปรับปรุงให้เชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น ตอบสนองต่อการสั่งงานได้เร็วขึ้น และใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์มากกว่าที่เคยผ่านเทคโนโลยีที่ออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นสำคัญ
เริ่มต้นที่หน้าจอความเร็วขนาด 9 นิ้ว ซึ่งแสดงผลข้อมูลที่สำคัญสำหรับการขับขี่แบบเรียลไทม์ พร้อมองศามุมมองที่ปรับได้เองอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ขับสามารถมองเห็นหน้าจอได้ในทุกองศาของการหักเลี้ยวพวงมาลัย
จอสัมผัสแบบไร้ขอบขนาดใหญ่ 14.5 นิ้ว ให้การแสดงผลความละเอียดสูง ซึ่งติดตั้งอยู่กลางแผงแดชบอร์ดนำเสนอข้อมูลตั้งแต่การนำทาง ความบันเทิง อุณหภูมิ แอป โทรศัพท์ กล้องมองรอบคันเพื่อช่วยจอดและฟังก์ชันการควบคุมรถอื่นๆอีกมากมายไว้ในหน้าจอเดียวพร้อมรองรับการใช้งานแอปจากกูเกิ้ลอาทิ Google Assistant, Google Maps และอื่นๆจาก Google Play
นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สายที่จะเปิดให้ใช้งานในอนาคต ตัวหน้าจอยังมาพร้อมแถบฟังก์ชั่นสั่งงานที่ด้านล่างจอซึ่งจะเลือกฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องเพื่อปรากฎบนหน้าจออัตโนมัติตามความเหมาะสม และความถี่ของการใช้งาน
ตัวรถรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณระดับ 5G และความสามารถในการอัพเดทซอฟต์แวร์ของตัวรถแบบ Over-the Air เพื่อพัฒนา และปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวรถให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ชิปเอนกประสงค์ชั้นนำจาก NVIDIA ที่ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลขั้นสูงอย่าง ชิป NVIDIA DRIVE Orin system-on-a-chip (SoC) ช่วยควบคุมการทำงานของฟังก์ชั่นต่างๆในรถผ่านการเรียนรู้ข้อมูลและพฤติกรรมด้วย AI เพื่อช่วยในการควบคุมระบบความปลอดภัย และระบบช่วยในการขับขี่ เพื่อพัฒนาสู่นวัตกรรมการขับขี่แบบไร้คนขับแห่งอนาคต และเพื่อนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับสำหรับผู้ใช้รถวอลโว่
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ให้ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ 111 kWh ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 745 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC เลือกได้ 2 ความแรงเริ่มที่
รุ่น Twin Motor แรงสุด 408 แรงม้า แรงบิด 770 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ทำได้ 5.9 วินาที รุ่น Twin Performance 517 แรงม้า แรงบิด 910 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ทำได้ 4.9 วินาที
ทั้ง 2 รุ่น สามารถชาร์จกระแสตรง DC 10-80% ภายใน 30 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 250 kW เพิ่มระยะทางมากขึ้น 610 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟในการชาร์จสูงสุด 11 kW ภายใน 10 ชั่วโมงเพิ่มระยะได้อีก 41 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ความปลอดภัยเพื่อคุณและคนที่คุณรักนำเสนอนิยามความปลอดภัยบทใหม่ด้วยชุดเซนเซอร์ที่ล้ำสมัยอย่าง LiDAR (Light Detection and Ranging System) ซึ่งเป็นระบบตรวจจับแสงและวัดระยะวัตถุที่ติดตั้งอยู่บนหลังคาด้านหน้าของตัวรถ ทำงานโดยการส่งแสงเลเซอร์แบบ Pulse Wave ไปกระทบวัตถุหรือพื้นผิวต่างๆ เพื่อคำนวนระยะที่แม่นยำ โดย Lidarสามารถตรวจจับคนเดินเท้าที่ในระยะไกลถึง 250 เมตรจากหน้าตัวรถ
นอกเหนือจาก Lidar ตัวรถยังมีกล้อง 8 ตัว,เรดาห์ 5 ตัว และเซ็นเซอร์แบบอัลตร้าโซนิค 12 ตัวรอบคันเพื่อมอบมุมมอง 360 องศา แบบเรียลไทม์สำหรับผู้ขับขี่ผสานกับระบบความปลอดภัยในตัวรถเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้การทำงานของฟังก์ชั่นช่วยเหลือเพื่อการขับขี่อย่าง ระบบช่วยการขับขี่ Pilot Assist และ ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนเลน
Volvo EX90 ประกอบที่เมืองเฉิงตูประเทศจีนพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าชาวไทยที่จองไปตั้งแต่งาน Motor Expo 2024 เริ่มไตรมาสที่1ของปีนี้ ด้วยราคาจำหน่ายดังนี้
- รุ่น Twin Motor 7 seats ราคา 4,290,000 บาท
- รุ่น Ultra-Twin Performance 6 seats ราคา 4,890,000 บาท
- รุ่น Ultra-Twin Performance 7 seats ราคา 4,890,000 บาท
