กลับมาอีกครั้งกับงานแสดงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยิ่งใหญ่สุดในอาเซียนและของโลกกับงาน Bangkok Interantional Motor Show 2025
มาในธีม The Talk of Sensuous Automotive หรือ สนทนาภาษายานยนต์ ซึ่งสื่อถึงปรัชญาการออกแบบยานยนต์ที่เน้นการสื่อสารถึงอารมณ์ ความรู้สึก และแรงบันดาลใจ ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในพื้นที่อิมแพ็คชาเลนเจอร์เต็มฮออล์ และ อิมแพ็คฟอรัมฮออล์ 4 พื้นที่กว่า 76,000 ตารางเมตร ให้เป็นงานจัดแสดงยานยนต์ระดับโลก
สำหรับปีนี้มีค่ายรถยนต์มากกว่า 54 แบรนด์ ทั้งจาก เอเชีย อเมริกา และยุโรปกว่า 41 บริษัท เข้าร่วมงานในครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของค่ายรถและมั่นใจต่อแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยและครั้งนี้ค่ายรถยนต์หลายค่ายการเผยโฉมรถรุ่นใหม่ เพื่อตอบทุกความต้องการทาง Car2Day จึงรวบรวมและคาดการณ์กับรถยนต์ที่จะเปิดตัวภายในงาน เริ่มด้วย
AION : UT, GAC M8
AION UT มินิคาร์อีวีดีไซน์คล้ายกับ MINI Cooper พื้นฐานแพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP 3.0 มีสีภายนอกทั้งหมด 6 สี ทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน
พร้อมขุมพลังไฟฟ้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟส สำหรับสเปกไทยอาจมาด้วยระยะทางวิ่งไกล 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC) และยังแนะนำ GAC M8
BMW : BMW M5 Touring
ปีนี้ค่ายบีเอ็มดับเบิลยูใจปล้ำเผยรถใหม่ถึง 11 รุ่นโดยเกือบทั้งหมดเปิดตัวและเปิดราคาเป็นที่เรียบร้อยแต่มีบางรุ่นที่เตรียมเปิดตัวแต่ยังไม่เผยราคาโดยใช้งานนี้เปิดราคาเริ่มที่ BMW M5 Touring เป็นเอสเตทแรงขั้นเทพรหัส G99 พกพลังปลั๊กอินไฮบริดเทอร์โบคู่ V8 มากถึง 727 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร
อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ภายใน 3.6 วินาที แถมให้ความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในโหมดไฟฟ้าล้วนและวิ่งไกลสุด 61-67 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP)มีะระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive จับตาว่าราคาครั้งนี้จะมากว่ารุ่นซีดานหรือเท่ากับในราคา 12.999 ล้านบาทหรือไม่ต้องติดตาม
รวมถึงการเปิดราคารุ่นต่างๆของค่ายทั้ง BMW 330e M Sport LCI 2, BMW 530e Inspiring, BMW M4 Competition M xDrive Coupe และ BMW M3 Competition M xDrive Touring และรถใหม่ที่เปิดตัวไปแล้วทั้ง BMW M340i xDrive LCI 2, BMW M2, BMW 4 Series M Sport ท้้ง Coupé และ Convertible, BMW M440i xDrive Coupé และ BMW X3
BYD : ATTO 2, SEAL 5 DM-i, BAO 8, SHARK 6, DENZA Z9

มาไทยแน่แต่จะมาโชว์พร้อมขายหรือโชว์เฉยๆในงานต้องติดตามกับ BYD ATTO 2 เอสยูวีอีวีรุ่นเล็กที่เอา BYD YUAN UP จากจีนแปะตรา BYD ขายทั่วโลก สร้างจากพื้นฐาน BYD’s e-platform 3.0 พร้อมพลังอีวี 177 แรงม้า วิ่งไกลสุด 367 กิโลเมตร (NEDC)
รวมถึงการแนะนำขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่กับ BYD SEAL 5 DM-i หรือ BYD KING DM-i หรือ BYD Destroyer 05 DM-iเก๋งคอมแพ็คพลังปลั๊กอินไฮบริดที่เคยเห็นทดสอบพรางตัวใจกลางกรุงเทพฯ
เบนซิน Plug In Hybrid DM-i super hybrid ขนาด 1.5 ลิตร BYD472QA ให้กำลัง 110 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 135 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า Permanent magnet synchronous ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 25.64 กิโลเมตรต่อลิตร
โดยมี 2 ทางเลือกเริ่มที่รุ่นวิ่งไกลอีวี 55 กิโลเมตรให้พลังมอเตอร์ไฟฟ้า 180 แรงม้า แรงบิด 316 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 8.3 kWh อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 7.9 วินาที เมื่อทำงานร่วมกันจะได้ความแรง 212 แรงม้า แรงบิด 324 นิวตันเมตรโดยให้ระยะทางไกลสุดในการวิ่งโหมดไฟฟ้าเพียวๆ 55 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และวิ่งไกลทั้งระบบ 1,175 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC
รุ่นวิ่งไกลอีวี 120 กิโลเมตร ให้พลังมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 197 แรงม้า แรงบิด 325 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.3 kWh เมื่อทำงานร่วมกันจะได้ความแรง 238 แรงม้า แรงบิด 324 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 7.3 วินาที โดยให้ระยะทางไกลสุดในการวิ่งโหมดไฟฟ้าเพียวๆ 120 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และวิ่งไกลทั้งระบบ 1,412 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC หรือ 1,200 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT มีโหมดการขับขี่ 4 โหมดทั้ง EV+HEV/SPORT+ECO+NORMAL รองรับการชาร์จแบบกระแสตรง DC รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 17 Kw รองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ AC ที่ 3.3 kW และรองรับระบบ VTOL
และการเผยโฉมครั้งแรกของ BAO 8 เอสยูวีทรง Land Rover พกพลังปลั๊กอินไฮบริด 2.0 ลิตรเทอร์โบ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่กับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 36.8 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้พลังสูงสุด 748 แรงม้า แรงบิด 760 นิวตันเมตร วิ่งไกลทั้งระบบ 1,200 กิโลเมตร และวิ่งไฟฟ้า 125 กิโลเมตรเข้ามาโชว์ด้วย รวมถึงรุ่นอื่นๆทั้ง BYD ATTO3 MY25 ประกอบไทย, BYD SHARK6, และ DENZA Z9
DEEPAL : S05
เอสยูวีน้องเล็กรุ่นใหม่มีสองขุมพลังให้เลือกเริ่มที่เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตขนาดความจุแบต 56.12 kWh ให้กำลังมากถึง 238 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร วิ่งไกล 510 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จ DC 3C 30-80% ภายใน 15 นาที และชาร์จ AC ได้
มีขุมพลัง REEV กับเบนซิน 1.5 ลิตร รหัส JL469Q1 ให้กำลังในภาคเครื่องยนต์ 98 แรงม้า พร้อมความจุแบเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 27.28 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร
วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 200 กิโลเมตร (CLTC) วิ่งไกลทั้งหมด 1,234 กิโลเมตร (CLTC) ความเร็วสูงสุด 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งความเร็ว 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 7.9 วินาที ภายใต้การชาร์จเร็ว DC ใช้เวลา 20 นาทีในการชาร์จแบตเตอรี่จาก 30-80% และชาร์จ AC ได้
โดยเป็นรุ่นแรกของค่ายที่ตั้งไลน์การผลิตที่จังหวัดระยองคาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตช่วงกลางปี 2025 หลังจากที่โรงงานแล้วเสร็จต้นปี 2025 และจะเปิดตัวพร้อมขายที่งานนี้ด้วย
FORD : Everest Sport Special Edition
พีพีวีรุ่นย่อยใหม่มาขายแบบไม่จำนวนจำกัด ตกแต่งเพิ่มเติมทั้ง ตัวอักษร EVEREST สีดำบนฝากระโปรงหน้า ชุดแต่งภายนอกสีดำสปอร์ตทั้งกระจังหน้า ราวหลังคา กระจกมองข้าง ที่เปิดประตู ช่องระบายอากาศข้างบังโคลนหน้า สปอยเลอร์หลัง พร้อมหลังคาดำและล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สีดำด้าน ก้านสีแดงสลับสีดำ พร้อมยางขนาด 255/55 R20 ลายเดียวกับ Ranger Stormtrak กับขุมพลังดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร 170 แรงม้า ในราคา 1,619,000 บาท
พร้อมกับ Ford Ranger Sport กระบะ 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมราคาพิเศษ 1,049,000 บาท และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
GWM : GWM HAVAL H6 Minor Change, GWM TANK 300 Diesel
หลังปรับโครงสร้างขององค์กรในไทยจนเรียบร้อยแล้วเตรียมที่จะเปิดตัวรุ่นใหม่ในปีนี้แบบ Non Stop เริ่มกันที่ GWM HAVAL H6 รุ่นปรับโฉมปรับครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปีหลังจากปรับโฉมครั้งแรกเมื่อปี 2022 ปรับโฉมทั้งภายนอกและภายในใหม่มาครบทั้งฟูลไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดวิ่งไกลสุดในโหมด EV ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งถึง 150 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC) คาดค่าตัว 9 แสน-1.2 ล้านบาท
ด้านเอสยูวี GWM TANK 300 เพิ่มหัวใจใหม่กับดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.4 ลิตร ให้กำลังถึง 184 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตรจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Intelligent electronically controlled four-wheel drive (two-speed)+MLOCK มาพร้อมโหมดการขับขี่ 9 โหมด ได้แก่ โหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) และโหมดการขับขี่แบบออฟโรด ได้แก่ โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตราทดเกียร์ต่ำ (4L) โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นหิน โหมดพื้นทราย โหมดภูเขา โหมดพื้นหลุมบ่อ และโหมดผู้เชี่ยวชาญ
ส่วนรุ่น 2WD มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด สามารถลากจูงได้ 3,500 กิโลกรัม ลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตรเข้ามาตีตลาดเจ้าใหญ่แดนปลาดิบและกล้ารับประกัน 8 ปี 1,000,000 กิโลเมตร คาดค่าตัวเริ่ม 1 ล้าน-1.3 ล้านบาท
GEELY : STAR Wish
GEOME XINGYUAN หรืออีกชื่อ GEELY STAR WISH เก๋งอีวีขนาดเล็กทรง Hatchback ขับหน้าวิ่งไกล 410 กิโลเมตร (CLTC) ลุ้นว่าคันนี้จะเปิดตัวพร้อมราคาหรือไม่ต้องติดตาม
Honda : e:N1 CBU From China
หลังจากเปิดตัวและประกอบไทยมาครบ 420 คันจนปิดการประกอบไปเน้นขายกลุ่มรถเช่า กลุ่มองค์กร ครั้งนี้จับตาเแล้วว่า Honda e:N1 จะนำเข้าจากจีนเพื่อมาขายปลีกให้กับแฟนๆที่สนใจหรือไม่ด้วยการนำพื้นฐานมาจาก Honda HR-V แปลงกายเป็นไฟฟ้าล้วนจากแพลตฟอร์ม e:N Architecture F
พร้อมขุมพลังไฟฟ้าล้วนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าถึงสามตัวและแบตเตอรี่ lithium มีความจุ 68.8 kWh 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งมากกว่า 412 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 485 กิโลเมตร (NEDC)
ขับเคลื่อนล้อหน้าให้ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 7.6 วินาที ชาร์จได้สองรูปแบบทั้งชาร์จกระแสตรง DC CCS2 กำลังสูงสุด 78 kW 0-80% ภายใน 46 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC Type 2 กำลังสูงสุด 11 kW 10-80% ภายในเวลา 6.45 ชั่วโมงและระบบความปลอดภัย Honda SENSING
Hyundai : KONA N-Line, CRETA N-Line, STARIA Elite Plus
รุ่นที่ 2 ต่อจาก IONIQ 5 N-Line นั่นคือ Hyundai Kona Electric N-Line แบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้ามีความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 64.8 kWh ให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 444 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 522 กิโลเมตร (NEDC)
มีระบบ One Pedal ที่ใช้คันเร่งและเบรกที่แป้นเดียว และ Vehicle-to-Load (V2L) สามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆได้จากรถคันเดียวและรุ่นย่อยใหม่ Hyundai STRAIA Elite Plus และ CRETA N-Line
ISUZU : Dragon MAX
จากตำนานมังกรทอง ISUZU Faster Z รหัส TFR ที่อึดถึกทนมากว่า 30 ปี ผสมกับความทันสมัยของขุมพลัง 2.2 Ddi MAX FORCE ปรับพลังใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 220 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร และแต่งหล่อทั้งคันคันแรกและคันเดียวในโลกในชื่อ ISUZU DRAGON MAX
JY AIR : JY AIR PLUS MAX
ปัจจุบัน JY AIR ขายไทย 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่น JY AIR STANDARD แบตเตอรี่ 51 kWh 201 แรงม้า ระยะทางสูงสุด 430 กิโลเมตรชาร์จด่วน 30 นาที จาก 30% ถึง 80%
รุ่น JY AIR PLUS มาพร้มอแบตเตอรี่ 64 kWh พละกำลัง 214 แรงม้า ระยะทางสูงสุด 520 กิโลเมตร ชาร์จด่วน 21 นาที และหลังคาพาโนรามาขนาด 2.072 ตารางเมตรในราคาเริ่มต้น 759,000-869,000 บาท ในงานจะมีการแนะนำรุ่นใหม่ JY AIR PLUS MAX โดยจะเปิตตัวและราคาในงานฯ
Mazda : 6e , MX-5 35th Anniversary
และการโชว์ตัวครั้งแรกในไทยกับ Mazda 6e Global Product บุกตลาดทั่วโลกนอกจากทำตลาดบ้านเกิดโดยผลิตที่โรงงานของ CHANGAN เมืองหนางจิง ประเทศจีน ที่จะขายไทยปลายปีนี้
รุ่นพิเศษ Mazda MX-5 RF 35th Anniversary ด้วยสีภายนอกรถมาแบบสีแดง Artisan Red Premium Metallic” ซึ่งเป็นสีพิเศษสีที่ 4 ที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคนิคการพ่นสีเฉพาะตัวของมาสด้าที่เรียกว่า “TAKUMINURI” พร้อมหลังคาผ้าใบสีพิเศษสีแทนอ่อนๆทำให้รถคันนี้เกิดความพรีเมียมสุขุมมากขึ้น พร้อมป้ายรุ่นพิเศษ 35 ปี กับรันนัมเบอร์ลำดับการผลิตบริเวณบังโคลนหลัง
ภายในหรูด้วยโทนสีแทนอ่อนๆด้วยวัสดุหุ้มหนังคุณภาพพร้อมหัวหมอนปักโลโก้ 35 ปี และการตกแต่งโทนสีแทนอ่อนๆกับสีดำติดตั้งทั้งแผงคอนโซลหน้าแผงประตูพร้อมวงแหวนช่องแอร์สีเงินขอบสีแดง Artisan Red Premium Metallic พร้อมพรมปูพื้นมีแผ่นป้ายพิเศษที่เคลือบด้วยเส้นขนแมว
Mercedes-Benz : Mercedes-AMG G63, Mercedes-AMG GT63 4MATIC+, Mercedes-AMG SL55 4MATIC+
ค่ายตราดาวปีนี้ขนรถแรงจาก Mercedes-AMG ถึง 3 รุ่นที่พกพลัง V8 4.0 ลิตร รหัส M177 มากันทั้ง 3 รุ่นไม่ว่าจะเป็น Mercedes-AMG G63, Mercedes-AMG GT63 4MATIC+, Mercedes-AMG SL55 4MATIC+ โดยเปิดราคาและรับจองได้ที่งาน
Mitsubishi : X FORCE HEV, XPANDER HEV PLAY
Mitsubishi X FORCE HEV Sub Compact SUV พร้อมแนวคิด Best-suited buddy for an exciting life หรือคู่หูที่จะให้ความตื่นเต้นความเร้าใจตลอดการเดินทางด้วยพลัง Hybrid MIVEC แบบ e:MOTION ประจำการ พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 7 โหมด 7 DRIVE MODE ปรับโหมดการขับขี่เพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับทุกจุดหมายอย่างไร้กังวล
มีระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและขวาออกแบบให้สามารถเรียกแรงบิดให้กระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือที่เรียกว่า Active Yaw Control (AYC) ครั้งนี้เปิดขายและรับจองในงานนี้ด้วยและรุ่นพิเศษ Mitsubishi XPANDER HEV PLAY
MG : IM6, S5 EV
ปีนี้ค่ายรถยนต์ MG รุกหนักกับตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกที่หลากหลายเริ่มที่ MG IM6 เอสยูวีมิดไซซ์พลังอีวีล้วนที่มากันถึง 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่น Premium ขับเคลื่อนล้อหลัง 295 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.9 วินาที แบตเตอรี่ขนาดความจุ 75 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 400 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 550 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC)
และรุ่น Performance AWD เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อให้พละกำลังสูงสุด 787 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 802 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.48 วินาที ทำความเร็วสูงสุดมากกว่า 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบตเตอรี่ขนาดความจุ 100 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 875 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 634 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC) พร้อมช่วงล่างถุงลมอัตโนมัติ (Intelligent Air Suspension) สามารถปรับสูง-ต่ำได้ 3 ระดับ
พร้อมกับการเปิดตัวครั้งแรกในงานกับ MG S5 EV เอสยูวีอีวีประกอบไทยมาแทน MG ZS EV ด้วยพลังขับเคลื่อนล้อหลังวิ่งไกล 416-550 กิโลเมตร (NEDC) สร้างจากแพลตฟอร์มไฟฟ้าล้วน MSP (Modular Scalable Platform) เปิดราคาในงาน
MINI : John Cooper Works ACEMAN
แฟนๆชาวมินิได้เฮกันเพราะปีนี้มีรถใหม่ 5 รุ่นครั้งแรกในงานที่เปิดตัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันสันดาปมาหมดทั้ง MINI Cooper Convertible S MINI John Cooper Works ทั้ง HATCH 3 ประตู กับ Convertible เวอร์ชันไฟฟ้าทั้ง MINI John Cooper Works Electric และ MINI John Cooper Works ACEMAN
Nissan : Serena e:Power C28
กลับมาบุกตลาดเอ็มพีวีอีกครั้งหลังหายไปนานสำหรับ Nissan Serena รหัส C27 พลัง Mild Hybrid จนมียอดจองล้นหลามและเตรียมส่งมอบตั้งแต่ปีนี้ส่วนกลางปีนี้พบกับ Nissan Serena e:Power รหัส C28 ด้วยขุมพลังเปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้าด้วยเครื่องยนต์เบนซิน e-Power รหัส HR14Dde
ขนาด 1.4 ลิตร 98 แรงม้า แรงบิด 123 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้ารุ่น EM 57 Synchronous Motor และแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ขนาด 1.769 kWh โดยเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร พร้อมระบบ e-Pedal มาโชว์และคาดว่าจะเปิดราคาด้วย
OMODA x JAECOO : JAECOO 7 SHS
ปีนี้ค่าย OMODA JAECOO รุกหนักส่งรถใหม่ ด้วย JAECOO 7 SHS นำพื้นฐานของ CHERY Explore 06 เปลี่ยนหน้าตาให้สมกับความเป็น JAECOO ด้วยแพลตฟอร์ม T1X พร้อมพลังปลั๊กอินไฮบริด 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ Ternary lithium battery 18.3 kWh
เมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังสูงสุด 374 แรงม้า แรงบิด 525 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ 106 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามาตรฐาน NEDC และถ้าวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทำได้ 1,300 กิโลเมตรตามาตรฐาน NEDC คาดว่านำเข้าจากมาเลเซียและเปิดราคาทันงาน Bangkok Motor Show 2025
RIDDARA : RD6 MY2025
ปีนี้ค่ายรถ RIDDARA เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่อีก 2 รุ่นทั้ง RIDDARA RD6 MY2025 ทั้ง รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 86kWh ซึ่งให้ระยะทางในการขับขี่ที่สูงถึง 503 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ระยะทางไกลได้มากขึ้นและยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายระดับ SUV พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันของรถกระบะ พร้อมการันตีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถกระบะสันดาปทั่วไป ทำให้ผู้ใช้งานรถกระบะในประเทศไทยได้รับทางเลือกการเดินทางที่คุ้มค่าและประหยัดมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้จะเปิดตัวหลังคาซันรูฟ (Sunroof) เป็นตัวเลือ พิเศษ สำหรับ RIDDARA RD6 รุ่น 86kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบเอาท์ดอร์ได้อย่างลงตัว โดยจะเปิดเผยราคารถรุ่นใหม่พร้อมกันภายในงาน พร้อมการันตีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่น้อยกว่ารถกระบะสันดาปทั่วไป ทำให้ผู้ใช้งานรถกระบะในประเทศไทยได้รับทางเลือกการเดินทางที่คุ้มค่าและประหยัดมากยิ่งขึ้น
Suzuki : eVITARA, FRONX
หลังจากที่ Suzuki ตัดสินใจปิดไลน์ผลิตในไทยภายในปีนี้ พร้อมขายรถนำเข้ารุ่นใหม่จากกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียนและเอเชียไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อินเดีย ถึง 2 รุ่นสอดคล้องกับทิศทางและนโยบายการรักษาความเป็นกลางทางคาร์บอนแต่ละรุ่นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้าและสามารถแข่งขันได้ในอนาคต
เริ่มที่ Suzuki e VITARA พกขุมพลังไฟฟ้าติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (LFP) ขนาด 49 kWh ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิด 189 นิวตันเมตรในรุ่น Standard 2WD
มาที่รุ่น Extended 2WD ขยับความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 61 kWh ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า แรงบิด 189 นิวตันเมตร และรุ่น Performance 4WD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ “ALLGRIP-e” ทีมี eAxles คู่ทั้งล้อหน้าและล้อหลังพร้อมล็อกเฟืองท้าย Limited Slip Differential พร้อมโหมด TRAIL
ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 61 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดรวม 300 นิวตันเมตรแบ่งเป็นมอเตอร์ล้อหน้า 174 แรงม้า และมอเตอร์ล้อหลัง 65 แรงม้า คาดว่าวิ่งไกลสุด 243 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 286 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC
ตามมาด้วย Suzuki FRONX เอสยูวีที่กำลังไปได้สวยกับตลาดต่างประเทศกับเบนซิน Mild Hybrid SHVS ขนาด 1.5 ลิตร ส่งกำลังด้วย เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พ่วงด้วยแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน 12V ครั้งนี้ขยายความจุใหญ่ขึ้นเป็น 10 Ah หรือ 0.12 kWh จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ISG WA06A
ช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ถึง 3 แรงม้า แรงบิด 60 นิวตันเมตร เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ประหยัดน้ำมัน 20.2-21.3 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐาน JC08 ความปลอดภัยจัดเต็มกับ Suzuki Safety Support
Volvo : XC90 Minor Change
หลังจากเปิดตัว Volvo EX90 จนได้รับการตอบรับอย่างดีและพร้อมส่งมอบปีนี้ทางด้านขุมพลังสันดาปลูกผสมปลั๊กอินไฮบริดยังจำหน่ายต่อไปไม่ยกเลิกทำให้ปีนี้ได้พบกับ Volvo XC90 ไมเนอร์เชนจ์ปรับทั้งภายนอกและภายในและยังขายกับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดเช่นเดิมแบบ Drive-E AWD Plug-In Hybrid T8
ที่มีพละกำลังแรงถึง 462 แรงม้า เรียกพลังจากแรงบิดสูงถึง 709 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.3 วินาที การชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ไกลสุดในโหมด Pure mode โหมดไฟฟ้าอย่างเดียววิ่งได้ไกลสุด 76.7 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC เข้ามาโชว์
ZEEKR : 7X, 001 FR
ZEEKR 7X เอสยูวีไฟฟ้าหรูมาพร้อมความสามารถลากจูงได้ถึง 2,000 กิโลกรัม แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตแบบ LFP Golden Battery จากทาง VREMT และแบบ ternary NMC จาก CATL-GEELY จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1-speed direct-drive จากสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าแรงสูง 800V โดยมีหลากหลายขนาดความจุแบตเตอรี่และความแรงดังนี้
- รุ่น Premium RWD มอตเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังมาพร้อมความจุแบตเตอรี่ความจุแบตเตอรี่ 75 kWh ให้กำลัง 421 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP Golden Battery จากทาง VREMT อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 6 วินาที วิ่งไกลสุด 480 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP หรือ 565 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จทั้งแบบ DC สูงสุด 480 kW 10-80% ชาร์จได้ภายใน 13 นาที และชาร์จช้า AC
- รุ่น Long Range RWD มอตเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังมาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 100 kWh ให้กำลัง 421 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ ternary NMC จาก CATL-GEELY อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 6 วินาที วิ่งไกลสุด 615 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 724 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จทั้งแบบ DC สูงสุด 480 kW 10-80% ชาร์จได้ภายใน 16 นาที และชาร์จช้า AC
- รุ่น Performance AWD มอตเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 100 kWh ให้กำลังรวม 639 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร จากมอเตอร์ล้อหน้า 224 แรงม้า และมอเตอร์ล้อหลัง 422 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ ternary NMC จาก CATL-GEELY อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 3.8 วินาที วิ่งไกลสุด 543 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 639 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จทั้งแบบ DC สูงสุด 480 kW 10-80% ชาร์จได้ภายใน 16 นาที และชาร์จช้า AC
สำหรับงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 46 หรือ Bangkok Motor Show 2025 จัดขึ้นที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และอิมแพค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน โดยเปิดให้เข้าชมงานเวลาตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. ในวันธรรมดา และเวลา 11:00 -22.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ราคาบัตรเข้าชมงาน 100 บาท แฟนๆที่รักและหลงเสน่ห์โลกยานยนต์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง