ล่าสุดค่าย GWM จัดโปรโมชันต้อนรับงาน Motor Show 2025 กับ HAVAL JOLION SPORT น้องสิงโตแต่งเข้มจากโรงงานครั้งนี้ลดสูงสุด 90,000 บาท
HAVAL JOLION SPORT มาในราคา 709,000 บาท (ราคาเดิม 799,000 บาท) พร้อมข้อเสนอพิเศษ ให้เลือกถึง 3 แคมเปญเริ่มที่
แคมเปญที่ 1 ซื้อสดหรือจัดไฟแนนซ์รับส่วนลดเงินสด 90,000 บาท รับดอกเบี้ย 2.15% ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาท ขายในราคา 709,000 บาท
แคมเปญที่ 2 รับส่วนลดเงินสด 50,000 บาท รับดอกเบี้ยพิเศษ 0% ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 55,000 บาท ขายในราคา 749,000 บาท
แคมเปญที่ 3 ซื้อสดหรือจัดไฟแนนซ์รับส่วนลดเงินสด 60,000 บาท รับดอกเบี้ย 2.15% ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาท และฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุดไม่เกิน 10 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) (GWM Pro Service Inclusive – GPSI) รวมมูลค่า 33,000 บาท ขายในราคา 739,000 บาท
ทั้ง 3 แคมเปญที่เลือกรับของแถมดังนี้
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท
- ฟรี น้ำมันรถยนต์ มูลค่ารวมสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ณ วันส่งมอบรถยนต์
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท
- ฟรี โปรแกรมบำรุงรักษารถ GWM Pro Service Inclusive – GPSI ฟรี 5 ปี รวมมูลค่า 33,000 บาท
- ฟรี รับประกันคุณภาพรถใหม่ นาน 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี ประกันแบตเตอรี่ไฮบริด นาน 8 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรี กรอบป้ายทะเบียนและพรม GWM มูลค่ารวม 1,450 บาท
รวมมูลค่าข้อเสนอสุดพิเศษสูงสุดกว่า 140,000 บาท ถึง 6 เมษายน 2568
หล่อเท่เข้มด้วยดีไซน์แบบ ALL-BLACK ดุดันมากขึ้น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ บ่งบอกตัวตน ในทุกช่วงเวลาของชีวิตตั้งแต่ กระจังหน้า Black Symmetric ดีไซน์ใหม่สีดำล้วน โดดเด่นด้วยโลโก้ HAVAL ใหม่ ดิฟฟิวเซอร์ ดีไซน์ใหม่ สปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม
ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว สีดำล้วน พร้อมยาง 225/55 R18 อุปกรณ์ตกแต่งแบบ ALL BLACK เช่น กระจกมองข้าง คิ้วกรอบป้ายทะเบียนท้าย และ Roof Rail เพื่อเพิ่มความเท่ และสปอร์ตยิ่งขึ้น
พร้อมออปชันเดิมไฟหน้า Full LED พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ล้ำสมัย ไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลังแบบ LED เสาอากาศแบบ shark fin เข้าทรงกับดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์สปอร์ต กระจกมองข้างปรับพับด้วยไฟฟ้าและพับอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ
ภายในมาพร้อมภายใต้แนวคิด “Futuristic” กว้างขวาง สะดวกสบาย ตกแต่งแบบ ALL-BLACK ตัดด้วยเส้นสายสีเงิน เพิ่มอารมณ์ความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นพร้อมการเชื่อมต่อของหน้าจอทั้ง 2 ทั้ง
หน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto, Bluetooth และ MP3 ให้คุณเพลิดเพลินกับการขับขี่ด้วยลำโพงจำนวน 6 ตัว มาพร้อมระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถและหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา
เกียร์แบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss เท่ทุกจังหวะการขับขี่กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพื่อความสะดวกสบายในการเปิดประตู หรือ สตาร์ทเครื่องยนต์ ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและหลัง และช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ
เบาะหนังสังเคราะห์ดีไซน์สปอร์ต ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โอบกระชับ เบาะคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง เพื่อช่วยจัดท่านั่งให้สบายและอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิสัยทัศน์ได้ดีที่สุด พื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ เบาะที่นั่งด้านหลังสามารถพับลงได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย
ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์เพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร แผงควบคุมที่คอนโซลกลาง พร้อมที่พักแขนและที่วางแก้วน้ำพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง อีกระดับของความสบาย
ขับขี่เหนือระดับขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะด้วยเบนซินรหัส GW4G15H 1.5 ลิตร 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 125 นิวตันเมตรที่ 4,400-5,200 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังมากสุด 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร
ทำงานร่วมกันจะได้พลังมากสุด 190 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้ สร้างการขับเคลื่อนอย่างทรงพลังและประหยัดน้ำมันด้วยโหมดการขับขี่ทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) Sport 3) ECO 4) สภาพถนนลื่น
พร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะอันล้ำสมัยอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CC) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ตามความเร็วที่กำหนด ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้ขับได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น กล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง เพื่อช่วยเพิ่มมุมมองในการถอยหลังให้ชัดขึ้น
ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง เพื่อปกป้องผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ในกรณีที่ถุงลมนิรภัยทำงาน ประตูจะถูกปลดล็อกโดยอัตโนมัติ และรถยนต์จะโทรติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน พร้อมทั้งสามารถส่งตำแหน่งเพื่อขอความช่วยเหลือได้ ช่วยลงทางลาดชัน (HDC) และช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) ตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง
ช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) เมื่อผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วเฉลี่ยเกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต่อเนื่องมากกว่า 4 ชั่วโมง ระบบจะแจ้งเตือนและแนะนำให้หยุดพัก ระบบจะเตือนด้วยภาพและเสียงนาน 20 วินาที ทุกๆ 10 นาที ระบบไฟกระพริบเมื่อเบรกรถกระทันหัน (ESS)
ช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) พยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 3 จุด Auto Break Hold ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่นหยุดอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด ควบคุุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (VSS) ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS)
HAVAL JOLION Sport มีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ (Sun Black) สีเทา (Ayers Gray) สีขาว (Hamilton White) และสีแดง (Burgundy Red) โดยสีรถภายในเป็นสีดำสีเดียว
