ทำตลาดอย่างต่อเนื่องสำหรับ Land Rover ภายใต้การบริหาร อินช์เคป (ประเทศไทย) ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยล่าสุดกับ Land Rover Defender OCTA
สำหรับ Land Rover Defender OCTA ที่ขายในไทยเป็นรุ่น OCTA Edition One โดยนำพื้นฐานรุ่น 110 5 ประตูแต่งพร้อมท้าชน Mercedes-AMG G63 ที่พึ่งเปิดตัวในไทยเมื่อต้นปีนี้
โดดเด่นด้วยฝากระโปรงหน้าทรงนูนตรงกลาง พร้อมโลโก้ตัวหนังสือ Defender เพิ่มอรรถรสในการขับขี่มากขึ้นกระจังหน้าแนวนอนพร้อมโลโก้ Land Rover กันชนหน้าใหม่เสริมการ์ดเข้ากันดีกับกันชนโดยมีช่องระบายอากาศออกแบบใหญ่ขึ้นคาดเส้นสีดำติดตรา OCTA พร้อมตะขอสีเหลือง ไฟหน้า Matrix LED พร้อมไฟ signature DRL ในโคมเดียวกันและไฟตัดหมอกหน้า LED เข้ามาเสริมความสว่าง
ด้านข้างดุดันด้วยซุ้มล้อขยายใหญ่ขึ้นรองรับความกว้างของช่วงล้อที่ขยายขึ้นพร้อมช่องดักลมในชุดบังโคลนหน้าซ้าย-ขวา ติดตรา Defender หลังคารถ พร้อมช่องกระจกเล็กๆ Alpine Light Window ซ้าย-ขวา ตรงส่วนหลังคา ถอดแบบตำนานคลาสสิก ราวหลังคาสีดำทรงบิ๊วอิน หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ เสาอากาศครีบฉลาม กระจกมองข้างและที่เปิดประตู
ด้านหลังมาพร้อมไฟท้ายคู่ แนวตั้ง LED พร้อมไฟตัดหมอกหลัง กับไฟเบรกดวงที่ 3 ฝาท้ายประตูเปิดแบบบานใหญ่พร้อมเปิดปิดด้วยระบบสุญญากาศ ติดตั้งยางอะไหล่ห้อยบนฝาท้าย และกันชนหลังออกแบบให้ดุด้วยสีเดียวกับตัวรถ พร้อมตะขอลากรถคู่สีเหลือง ท่อไอเสีย 4 ท่อมัดคู่ 2 ฝั่ง
โดยรุ่น OCTA Edition One ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ครีบระบายอากาศบนฝากระโปรง และช่องดักลมตรงบังโคลนหน้าและล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว Style 1086, Diamond Turned Satin Dark Tint wheels with Satin Black contrast พร้อมยาง All-Terrain 275/60R20 จาก BF Goodrich รุ่น Trail-Terrain T/A
ตัวรถมาในรหัส L663 ในร่าง 5 ประตูทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสอันเป็นเอกลักษณ์รุ่น 110 ตัวถังแบบ Monocoque ความยาวตัวรถเป็น 4,813 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,064 มิลลิเมตร ความสูง 1,995 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,023 มืลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 250 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,510 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 90 ลิตร
ภายในต่างจากรุ่น Defender ปกติอย่างสิ้นเชิงด้วยโทนสีภายในสีน้ำตาลกากี/สีดำ Khaki/Ebony perforated Ultrafabrics™ with Khaki/Ebony interior ด้วยเบาะนั่งทรงสปอร์ตปีกเบาะรองรับสรีระและพนักพิงศีรษะในตัว พร้อมการตกแต่งแบบแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ Chopped Carbon Fibre สวิตช์ควบคุมตกแต่งโครเมียม Moonlight Chrome ดีไซน์ล้ำสมัย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 4 ก้านดีไซน์จับกระชับมือพร้อมก้านเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift เรืองแสง
พร้อมออปชันมาตรฐานทั้งจอสัมผัส 11.4 นิ้ว Pivi-Pro เทคโนโลยีอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติแบบ Over The Air จึงมีการอัปเดตอยู่เสมอ ลำโพงจาก Meridian มากถึง 23 จุด พร้อมลำโพงฝังที่พนักพิงศีรษะ ช่องเสียบชาร์จ USB-C เพื่อชาร์จอุปกรณ์ขณะเดินทางช่วยให้ผู้โดยสารแถว 2 มีความสะดวกสบายมากขึ้น เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาและหลังแบบ 3 โซนหรือ Three Zone Climate Control
พร้อมระบบฟอกอากาศในห้องโดยสาร (Cabin Air Purification Plus) ผสานรวมเทคโนโลยี Nanoe TMX สำหรับการลดสารก่อภูมิแพ้ และการกำจัดเชื้อโรค เพื่อช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์และไวรัสจำนวนมาก นอกจากนี้ระบบจัดการ CO2 และการกรองอากาศ PM2.5 ในห้องโดยสารยังช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมในห้องโดยสารให้ดีขึ้น โดยตรวจสอบอากาศภายในและภายนอก และปรับให้เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่าผู้โดยสารจะได้สัมผัสกับคุณภาพอากาศที่ดีที่สุด
ที่ชาร์จมือถือไร้สาย จอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้า Interactive Driver Display และมาตรวัดความเร็วสี LCD ขนาด 12.3 นิ้ว เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง ห้องโดยสารที่เป็น 2 แถว 5 ที่นั่ง พับในส่วนของตอนที่ 2 40:20:40 จะมีพื้นที่ 972 ลิตร
ขุมพลังเบนซินเทอร์โบคู่พลัง V8 P635 รหัส S68B44B จาก BMW ขนาด 4.4 ลิตร 635 แรงม้าที่ 5,855-7,000 รอบต่อนาที แรงบิด 750 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,855 รอบต่อนาที เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4 วินาที ท็อปสปีดอยู่ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มีความสามารถในการลากจูงได้ 3,500 กิโลกรัม พร้อมระบบ MHEV–Mild Hybrid จับคู่กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับที่มีกำลังไฟขนาดเล็ก 48 V และแบตเตอรี่แบบ lithium-ion battery รองรับแรงบิดมากถึง 1,400 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดของ ZF
สำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบบ Terrain Response 2 มีโหมดออฟโรดเลือกได้ตามเส้นทางที่แตกต่าง ถึง 6 โหมด ทั้ง โหมดการขับขี่ทางเรียบไฮเวย์ Normal Driving, โหมดลุยน้ำ WADE, โหมดลุยในทางโขดหิน Rock Crawl, โหมดลุยทางโคลนและแอ่งโคลน MUD And Ruts, โหมดลุยทางพื้นหญ้า-กรวด-หิมะ Grass- Gravel- Snow และโหมดลุยพื้นทราย Sand พร้อมเกียร์ฝาก 4WD แบบ twin-speed transfer box และ ล็อกเฟืองท้าย Differential Controls
พิเศษด้วยโหมด OCTA ขับขี่ออฟโรดที่เร้าใจที่สุด ระบบเบรกที่ปรับแต่งพิเศษสำหรับ พื้นถนนลูกรัง โหมด Dynamic ของเราได้รับการปรับแต่งอย่างเหมาะสมเพื่อมอบ ประสบการณ์การขับขี่บนท้องถนนที่เหนือระดับ มีระบบท่อไอเสียแบบแอคทีฟช่วยระบายความร้อนได้อย่างดีเยี่ยมในโหมด OCTA และสร้างเสียงคำรามอันทรงพลังให้กับรถ
ช่วงล่าง ถุงลมแบบ 6 Dynamics ทำงานโดยใช้ระบบกันสะเทือนแบบไฮดรอลิกเชื่อมโยงกันและถุงลมปรับระดับความสูง ช่วยให้ระบบนี้ทำงานได้อย่างชาญฉลาด ตอบสนองต่อสไตล์การขับขี่ได้อย่างแม่นยำ พร้อมคาลิปเปอร์แบบ 6 พ๊อต จาก Brembo สีทอง รัศมีวงเลี้ยว 12.84 เมตร
ลุยน้ำสูงสุด 1,000 มิลลิเมตร ลุยทุกรูปแบบตั้งแต่มุมไต่หรือมุมเงย Approach Angle 33 องศา มุมจาก Departure Angle 38.2 องศา และมุมคร่อม break-over angle 22.9 องศา ในเส้นทางปกติแต่ถ้าเส้นทาง Off Road ปรับความสูงใต้ท้องรถ 323 มิลลิเมตร ลุยทุกรูปแบบตั้งแต่มุมไต่หรือมุมเงย Approach Angle 40.2 องศา มุมจาก Departure Angle 42.8 องศา และมุมคร่อม break-over angle 29 องศา ปลอดภัยรอบคันทั้ง
พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้ขับรถอย่างปลอดภัยทั้ง ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติอัจฉริยะ ACC (Adaptive Cruise Control) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring) เตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ FCW & AEB (Front Forward Collision Warning & Autonomous Emergency Brake) อ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition)
เตือนภัยก่อนการชนด้านหลัง Rear Collision Monitor ช่วยเตือนขณะถอยหลัง Rear Traffic Monitor เตือนผู้ขับขี่เมื่อเกิดความเมื่อยล้า Driver Condition Monitor ช่วยลดหรือชะลอความเร็วแปรผัน Adaptive Speed Limiterตรวจสอบความลึกของน้ำขณะลุยน้ำแบบเรียลไทม์ Wade Sensing ตรวจวัดความดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS) กล้องมองภาพรอบคัน 3D Surround Camera
เบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมการทรงตัว Dynamic Stability Control (DSC) ป้องการลื่นไหล Electronic Traction Control (ETC) ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Launch Assist ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) ป้องกันการพลิกคว่ำ Roll Stability Control (RSC)
ควบคุมการเบรครถยนต์ขณะเข้าโค้ง Cornering Brake Control (CBC) ช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะพ่วง Trailer Stability Assist (TSA) ถุงลมนิรภัยรอบคัน รวมถุงลมนิรภัยคั่นกลางระหว่างเบาะหน้ากับใต้เข่าคนขับ Crash Unlock และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
Land Rover Defender OCTA Edition One นำเสนอในราคา 22,000,000 บาท สำหรับผู้ที่หลงใหลในดีเอ็นเอแห่งความแกร่งดุดัน ผสานภาพลักษณ์ที่หรูหราเหนือระดับ และสมรรถนะขั้นสูงสุดอย่างไร้ขีดจำกัด มาพร้อมสีเขียว Faroe Green
