More

    iCAR V23 อีวีร่างจำแลง Land Rover จ่อขายไทยแปะตรา JAECOO

    iCAR ค่ายรถลุยพลังไฟฟ้าล้วนในเครือ CHERY เปิดตัวสายลุยรุ่นเล็กต่อจาก iCAR 03 และ iCAR 03T กับ iCAR V23 

    iCAR

    iCAR V23 เอสยูวีทรงกล่อง BOXY ที่การออกแบบไปคล้ายกับ Land Rover DEFENDER ผสมกับ Toyota FJ CRUISER แถมเป็นลุยรุ่นเล็กที่ชอบความคล่องตัวกว่ารุ่นพี่ iCAR 03 และ iCAR 03T

    เริ่มที่ไฟหน้า LED Matrix Adaptive ทรงกลมพร้อมไฟ DRL แบบ LED 2 เส้นในโคมเดียวกัน และเส้นนแนวนอนขอบไฟหน้า พร้อมกระจังหน้าทรงทึบสีดำคาดเส้นแนวนอนสีเดียวกับตัวรถติดตรา iCAR กันชนหน้าใหม่แนวนนอนกลมกลืนกับชุดบังโคลนหน้าพร้อมไฟเลี้ยว LED

    ด้านข้างมีความคล้ายกับ Land Rover Defender ดีไซน์เสา A-D เน้นความเหลี่ยมและหนักแน่นสร้างความโดดเด่นและดุดันให้กับตัวรถทรงกล่องสุดเท่ด้วย ช่องระบายอากาศแนวตั้งสีดำติดที่บังโคลนหน้าซ้าย-ขวา กระจกมองข้างทรงตั้ง ที่เปิดประตแบบยกก้าน คิ้วขอบล้อทรง 4 เหลี่ยมดุดัน และเสา C กับ D มาในทรงทึบไม่มีกระจก

    ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED ขนาดเล็กแนวนอน พร้อมฝาท้ายเปิดบานใหญ่แบบเปิดด้านข้างและปิดด้วยระบบดูดไฟฟ้า กันชนหลังใหม่สีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟถอย LED พร้อมกล่องขนาดเล็กลงเก็บสัมภาระในตำแหน่งเดียวกับที่ห้อยยางอะไหล่สไตล์รถลุยยุค 90 และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 255/55 R19 และขนาดใหญ่ 21 นิ้ว พร้อมยาง 265/45R21

    ตัวรถมีขนาดเล็กกว่ารุ่นพี่ iCAR 03 และ iCAR 03T แม้จะอยู่ในพิกัดไซซ์คอมแพ็ค จากแพลตฟอร์ม i-MS Platform โดยโครงสร้างตัวรถแบบเหล็กและอะลูมีเนียม ตั้งแต่

    • ความยาว  4,220 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,915 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,845 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,735 มิลลิเมตร
    • น้ำหนัก 1,710-1,825 กิโลกรัม
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 200-210 มิลลิเมตร

    iCARภายในยกงานดีไซน์มาจากรุ่น 03 และ 03T ปรับคลุกเคล้าเข้ากันคล้าย Range Rover เริ่มที่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน เปลี่ยนมาใช้โลโก้ตัวอักษรแทนตัว i ออกแบบหนังสัมผัสใหม่รูปตัวยูที่แผงคอนโซลหน้าทรงถึกสี่เหลี่ยมพร้อมออปชันเด่นทั้ง มาตรวัดดิจิทัล LCD รวมในจอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.4 นิ้วชัดแบบ 2.5 K ประมวลแม่นยำด้วยชิฟ Qualcomm Snapdragon 8155 อัพเดททั้งเฟิร์มแวร์และซอฟท์แวร์อัตโนมัติผ่านระบบออนไลน์ (OTA-Over The Air) ช่วยให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยตลอดเวลา และทำให้ผู้ขับได้ใช้สิ่งที่ใหม่และทันสมัยก่อนใคร

    iCAR

    ห้องโดยสารนั่งสบายมาพร้อมกับเบาะนั่งฟังก์ชันเพิ่มเติมมากมายระดับเฟิร์สคลาสที่ช่วยเพิ่มความสะดวกอาทิ ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะที่นั่ง (Memory seat) ระบบรองน่องปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (4-Way Electric Leg support) และระบบปรับอุณหภูมิของเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าของรถ ที่สามารถช่วยระบายอากาศเพิ่มความสบายขณะขับขี่ในทุกสภาพอากาศ รองรับการขับขี่ออฟโรดด้วยวัสดุภายในที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและให้ความรู้สึกสบายสำหรับผู้ขับขี่

    ภายในส่วนกลางบริเวณที่พักแขน (Armrest) ที่มีพื้นที่จัดเก็บของภายในมากมาย พร้อมทั้งยังถูกออกแบบมาให้ช่วยลดความรู้สึกของระยะห่างระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าอีกด้วย แผงประตูยังมีการออกแบบที่กระชับมั่นคง ด้วยมือจับประตูทรงเรียบหรู สวิตช์กระจกอิเล็กทรอนิกส์และมือจับประตูภายในที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความปลอดภัยไปพร้อมกับความฉลาดล้ำของผู้ขับขี่รุ่นใหม่

    พร้อมลำโพง 7 จุดรอบคัน กุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC (NFC Card) มีกล่องเก็บของด้านท้ายความจุ 90 ลิตร และเมื่อพับเบาะแบบ 50/50 มีพื้นที่ 744 ลิตร และโทนสีภายใน 3 สีทั้ง สีขาว สีเขียวทหาร และสีเทาเข้ม

    iCAR

    ขุมพลังประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Qida Permanent magnet Motor พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP จาก CATL ความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จได้ทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 80 จาก 30%-80% ในเวลาเพียง 0.5 ชั่วโมง และกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW

    มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว รุ่น Standard Range ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 59.93 kWh ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 401 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 387 กิโลเมตร (NEDC) รุ่น Long Range ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 81.76 kWh ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 550 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 531 กิโลเมตร (NEDC) พร้อมโหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport

    รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่เพิ่มมอเตอร์ล้อหน้าเข้ามา 75 แรงม้า แรงบิด 112 นิวตันเมตร ผสมกับมอเตอร์ล้อหลัง 136 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกัน ให้กำลังรวม 211 แรงม้า แรงบิด 292 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสุด 501 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 483 กิโลเมตร (์NEDC) พร้อมโหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport, Snow ,Mud, Sand ในระบบ iWD intelligent electric 4-wheel drive 6 โหมด

    มีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ 3.3 kW และระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) ให้ความมั่นใจปีนป่ายเกาะถนนดีด้วยปีนป่ายแบบชิวๆเพราะคันนี้มีมุมเงย (มุมไต่) หรือ approach angle 39-41 องศา และมุมจากหรือ departure angle 35 องศา พร้อม ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS)

    เตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ FCW & AEB (Front Forward Collision Warning & Autonomous Emergency Brake) เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (TRAFFIC JAM ASSIST) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring)

    iCAR

    ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) ช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (EMERGENCY LANE KEEPING ASSIST) อ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition) เตือนก่อนเปิดประตูรถ DOW (Door Open Warning)

    ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go เตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน จำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISL (Intelligent Speed Limter)

    ช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) กล้องมองภาพรอบคัน ถุงลมนิรภัยรอบคันพร้อมถุงลมนิรภัยคั่นกลางระหว่างเบาะหน้ากับใต้เข่าคนขับ

    iCAR

    iCAR V23 ขายจีน 5 รุ่นย่อยในราคา 109,800-149,800 YUAN หรือราว 504,000-685,000 บาท และมีสีภายนอก 9 สี และจะเป็นว่าที่รุ่นใหม่ขายไทยแปะตรา JAECOO เร็วๆนี้

     

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts