More

    Koenigsegg Jesko Sadair’s Spear ไฮเปอร์คาร์ที่ดิบที่สุดเท่าที่เคยมีมา 30 คันยังไม่พอ!!

    Koenigsegg กำลังจะเผยโฉม “Sadair’s Spear” ซึ่งเป็น Jesko เจเนอเรชันที่สาม ที่ต่อยอดมาจากรุ่น Jesko Attack ที่เน้นบนสนามแข่ง และ Jesko Absolut ที่เน้นความเร็วสูงสุด

    Koenigsegg Jesko Sadair's Spear

    เจ้า Sadair’s Spear จะเป็น เวอร์ชันที่โหดและดิบยิ่งกว่า Jesko Attack เข้าไปอีก! คืออัปเกรดมาเพื่อให้มัน วิ่งบนสนามแข่งได้เร็วขึ้นไปอีกขั้น แต่ที่พีคคือ ยังคงสามารถวิ่งบนถนนสาธารณะได้อย่างถูกกฎหมาย นี่แหละคือความสุดยอด!

    แล้วชื่อ “Sadair’s Spear” มาจากไหน? ต้องย้อนไปถึง Jesko von Koenigsegg คุณพ่อของ Christian von Koenigsegg ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และเป็นนักแข่งม้าตัวยง และม้าที่เขาขี่ในการแข่งขันครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1976 นั่นก็คือม้าที่ชื่อว่า “Sadair’s Spear” นั่นเอง

    Sadair’s Spear: Jesko ที่สุดของความดุดัน

    ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ชื่อ “Jesko” โดยตรง แต่ชื่อรุ่นพื้นฐานของมันก็ยังคงเป็นการแสดงความเคารพที่คุณ Christian von Koenigsegg มีต่อคุณพ่อของเขา ในโอกาสวันเกิดครบรอบ 80 ปีของคุณพ่อ ซึ่งถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Jesko Attack ด้วยชุดแอโร่ที่ดุดันยิ่งกว่าเดิม เห็นได้ชัดจาก ปีกหลังแบบ Active Double-Blade ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

    นอกจากนี้ Koenigsegg ยังได้ขยายส่วนท้ายของไฮเปอร์คาร์คันนี้ให้ยาวขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ และปรับดีไซน์ช่องดักอากาศใหม่เพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้นอีกด้วย

    หัวใจของ Sadair’s Spear ยังคงเป็นเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 5.0 ลิตรตัวเดิม แต่ได้รับการปรับจูนใหม่ให้มีกำลังเพิ่มขึ้นอีก 20 แรงม้า รวมเป็น 1,300 แรงม้า เมื่อใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปกติ แต่ถ้าเติมเชื้อเพลิง E85 กำลังจะพุ่งขึ้นไปอีก 25 แรงม้า เมื่อเทียบกับ Jesko รุ่นปกติ ทำให้รีดพลังได้มหาศาลถึง 1,625 แรงม้า!

    Koenigsegg ยังคงโชว์ความมหัศจรรย์ด้วยการ ลดน้ำหนักลงได้ประมาณ 35 กิโลกรัม โดยการถอดวัสดุซับเสียงบางส่วนออก พร้อมทั้งติดตั้งชิ้นส่วนภายในและชิ้นส่วนกลไกที่เบาลง ผลลัพธ์คือ น้ำหนักรถเปล่า (Dry weight) เหลือเพียง 1,320 กิโลกรัม เท่านั้น ล้อคาร์บอนไฟเบอร์ลายกังหัน 7 ก้าน สุดเท่ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Jesko ที่ดุดันที่สุดคันนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดน้ำหนัก การเสริมกำลังและลดไขมันนี้เอง ทำให้รถคันนี้สามารถ ทำเวลาต่อรอบที่สนาม Gotland Ring ได้เร็วขึ้นถึง 1.1 วินาที เมื่อเทียบกับ Jesko Attack!

    ล้อยางมีขนาดกว้างกว่าเดิม โดยมีขนาด 275/35/20 ที่ล้อหน้า และ 335/30/21 ที่ล้อหลัง ซึ่ง Koenigsegg ติดตั้งยาง Michelin Pilot Cup 2 มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ถ้ายังไม่จุใจ ลูกค้าสามารถอัปเกรดเป็นยาง Cup 2 R ที่ยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นไปอีกได้ เบรกคาร์บอนเซรามิกก็ได้รับการปรับปรุงด้วยผ้าเบรกที่ดีขึ้น เพื่อพลังการหยุดรถที่เหนือกว่า

    ส่วนภายในห้องโดยสารก็ได้รับการตกแต่งให้ดูสปอร์ตและดุดันกว่า Jesko “ธรรมดา” และยังสามารถติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด ได้ในบางตลาด แน่นอนว่าการถอดวัสดุซับเสียงออกไปประมาณ 2.6 กิโลกรัม เพื่อลดน้ำหนัก ย่อมทำให้เสียงภายในห้องโดยสารดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    ถึงแม้จะเน้นความดิบและสมรรถนะสูง แต่ Sadair’s Spear ก็ ไม่ได้ทิ้งความสะดวกสบายไปเสียหมด ยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายและช่องเชื่อมต่อ USB แม้ว่าฟีเจอร์เหล่านี้อาจจะไม่ได้มีความสำคัญมากนักสำหรับลูกค้าในกลุ่มไฮเปอร์คาร์ระดับนี้ก็ตาม

    อยากได้สักคันใช่ไหม? น่าเสียดาย! เพราะ Sadair’s Spear ถูกขายหมดไปแล้ว! Koenigsegg นำรถคันนี้ไปโชว์แบบลับๆ และเพียงชั่วพริบตาเดียวก็มีผู้สนใจเข้ามาจับจองจนหมดทั้ง 30 คันที่ผลิตออกมา

    Source: Motor1

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts