ในขณะที่เมืองไทยค่าย CHERY พร้อมส่งรุ่นใหม่ให้ชาวไทยได้รู้จักหนึ่งในนั้นมี CHERY TIGGO 4 Hybrid หรือ TIGGO Cross Hybrid
CHERY TIGGO 4 Hybrid เอสยูวีร่างเล็ก หรืออีกชื่อ CHERY TIGGO CROSS Hybrid หรือ CHERY TIGGO 5X ในจีน เป็นการปรับโฉมครั้งที่ 3 ในร่างเจนนี้ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2017
หน้าตามาแนวรถจีนยุคใหม่
ตั้งแต่กระจังหน้าทรงแปดเหลี่ยมไส้ในรังผึ้งโครเมียมปะโลโก้ CHERY ขนาดใหญ่คู่กับไฟหน้า LED รับกับกันชนหน้าดีไซน์เด่นเล่นระดับพร้อมไฟ DRL แนวตั้งติดขอบกันชนหน้า ด้านข้างมาพร้อมราวหลังคารถทรงบิ๊วอิน หลังคาซันรูฟ ที่เปิดประตูดีไซน์ดึงก้านสีเดียวกับตัวถังรถ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวกรอบกระจกโครเมียม พร้อมไฟท้าย LED แนวยาวประดับด้วยตัวอักษร CHERY ประกบด้วยกันชนหลังทรงหรูพร้อมล้ออัลลอยเลือกได้ทั้งขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 215/60R17 ตัวรถมีมิติดังนี้
- ความยาว 4,330 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,830 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,655 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,604 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,494 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 51 ลิตร
ภายในยิ่งมองยิ่งล้ำอนาคต
กับคอนโซลหน้าพร้อมช่องแอร์ทรงเหลี่ยมดูหรูหรา เด่นด้วยจอคู่ 2 จอประกอบด้วยมาตรวัดความเร็วรถสีแบบ LCD 10.25 นิ้ว กับจอระบบความบันเทิงเชื่อมต่อการสื่อสารทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ขนาด 10.25 นิ้วรวมกัน 20.5 นิ้ว พร้อมลำโพง 4 ถึง 6 จุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงท้ายตัดปะตัวอักษร CHERY ดีไซน์เท่ลงตัว
คอนโซลกลางมาในแบบเชื่อมต่อติดกับคอนโซลหน้า มีแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนกำลัง 15 W ที่เก็บช่องพร้อมที่ท้าวแขน ช่องเสียบ USB 3 จุด มี 2 จุดแบบ Type A กับ C และ Type A 1 จุดด้านหลัง
เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง เบรกมือไฟฟ้าและ AUTO HOLD ช่องวางแก้ว พร้อมความสบายจากเบาะนั่งสองตอน 5 ที่นั่ง เบาะที่นั่งคู่หน้าโดยด้านคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมดันหลังปรับไฟฟ้าคนนั่งปรับ 4 ทิศทาง สามารถพับตอนที่ 2 แบบ 60/40 โดยมีพื้นที่สัมภาระท้ายก่อนพับเบาะ 470 ลิตร หุ้มเบาะทั้งแบบผ้าและหนังสังเคราะห์ ให้เลือก
ขุมพลังฟูลไฮบริด
เล็กมาแปลกกว่ารุ่นอื่นด้วยเบนซิน 1.5 ลิตร 97 แรงม้า แรงบิด 120 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 1.837 kWh อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 10.8 วินาที ขับเคลื่อนล้อหน้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1-speed Dedicated Hybrid พร้อมโหมด Eco/Sport นุ่มนวลด้วยช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้วยช่วงล่างหน้าแบบ Macpherson Strut / ช่วงล่างหลังแบบ Torsion Beam
ปลอดภัยด้วยฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงระดับ 2 ADAS
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB)
- ช่วยให้รถอยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน Emergency Lane Keeping (ELK)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Prevention (LDP)
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- ช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า Traffic Jam Assist (TJA)
- ควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Integrated Cruise Assist (ICA)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Detection (BSD)
- ช่วยเปลี่ยนเลน Lane Change Assist (LCA)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Alert (RCTA)
- ช่วยเบรกขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Braking (RCTB)
- ช่วยเตือนการชนด้านหลัง Rear Collision Warning (RCW)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู Door opening safety reminder (DOW)
- จำกัดความเร็วอัจฉริยะ Speed Limit Information Function (SLIF)
- ควบคุมความเร็ว Speed Control Assist (SCF)
- ตรวจจับพฤติกรรมของผู้ขับขี่ Driver Monitoring System (DMS)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานมาครบทั้ง เบรกป้องกันล้อล็อก Anti-Lock Braking System (ABS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution (EBD) ช่วยเบรกฉุกเฉิน EBA (Emergency Brake Assist) เสริมแรงเบรก Brake Assist System (BAS) พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก Brake Overide System (BOS) เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ Multi Collision Braking (MCB)
ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ Electronic Stability Program (ESP) ป้องกันการลื่นไถล Traction Control System (TCS) ออกตัวบนทางลาดชัน Hill-start Assist Control (HAC) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ Emergency Stop Signal (ESS) ตรวจวัดแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด รวมถุงลมนิรภัยตรงกลางเบาะนั่ง และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ชัดแบบ HD
โดยขายออสเตรเลีย 2 รุ่นย่อยทั้ง Urban และรุ่น Ultimate ในราคารวมค่าจดทะเบียนและภาษีถนน On-Road ของออสเตรเลีย เริ่มต้น $29,990-$34,990 หรือราว 635,000-739,000 บาท มีสีภายนอก 4 สี
- สีดำ Space Black
- สีขาว Lunar White
- สีเทา Mercurial Grey
- สีบรอนซ์เงิน Star Silver