เรียกว่าเป็นรถใหม่รุ่นแรกของค่าย LEAPMOTOR ที่เตรียมเปิดตัวในไทยภายในปีนี้กับ LEAPMOTOR B10 เอสยูวีไฟฟ้าไซซ์คอมแพ็ค
LEAPMOTOR B10 โดดเด่นด้วยดีไซน์กะทัดรัดทันสมัย สีสันสะดุดตา และมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
ภายนอกโดดเด่น
ด้วยไฟวิ่งแนวยาวเชื่อมกับไฟหน้า LED กลมกลืนกับกันชนรูปทรงสปอร์ตพร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ พร้อมมือเปิดประตูแบบเรียบเนียนกับตัวถัง ล้อขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50 R18 ด้านหลังมีชุดไฟท้าย LED แนวยาวและประทับตัวหนังสือว่า LEAPMOTOR สร้างจากสถาปัตยกรรมโมดูลาร์ LEAP 3.5 ที่มีขนาดใกล้เคียงกับ BYD ATTO 3 ตั้งแต่
- ความยาว 4,515 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,885 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,655 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,735 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,670-1,705 กิโลกรัม
ภายในอย่างหรู
ด้วยความเรียบง่ายด้วยมาตรวัดความเร็วสี LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ตั้งอยู่หลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมจออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ชัดแบบ 2.5K มาพร้อมระบบปฏิบัติการ LEAPMOTOOR OS 4.0 Plus ประมวลผลรวดเร็วด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295 เป็นออปชันเสริมแต่มาตรฐานจะได้ชิป Qualcomm Snapdragon 8155 พร้อมลำโพง 12 จุด
ช่องแอร์จะเป็นทรงรีมีกรอบช่องแอร์จากวัสดุสีทองเพื่อเพิ่มความหรูหรา ขณะที่คอนโซลกลางจะติดตั้งแท่นชาร์จไร้สาย 2 ช่องกำลัง 15W ช่องเสียบ USB Type C หลังคาซันรูฟขนาดใหญ่ 1.83 ตารางเมตร สบายแบบ 5 ที่นั่งพร้อมเบาะนั่งด้านหน้ามาทั้งแบบปรับมือและปรับไฟฟ้าพร้อมระบบอุ่นเบาะและเบาะเย็นในรุ่นท็อป หลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่หลังพับเบาะ 1,415 ลิตร และไม่พับเบาะจะมีพื้นที่ 420-515 ลิตร พร้อมภายในเลือกได้ 2 สีทั้ง สีม่วง Roman Purple สีเทา Bamboo Shadow Gray
ขุมพลังไฟฟ้าล้วน
ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังรุ่น TZ180XS101 จาก Zhuzhou CRRC Times Electric ที่มีกำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิด 175 นิวตันเมตรจากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออน LFP ขนาด 56.2 kWh วิ่งไกลสุด 510 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 492 กิโลเมตร (NEDC) หรือ 418 กิโลเมตร (WLTP) ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 9.3 วินาทีในรุ่นเริ่มต้น
รุ่นท็อปสุดไฟฟ้าล้วนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังรุ่น TZ180XY005 จาก Jinghua Lingsheng Power ที่มีกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตรจากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไออน LFP ขนาด 67.1 kWh วิ่งไกลสุด 600 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 579 กิโลเมตร (NEDC) หรือ 492 กิโลเมตร (WLTP) ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 6.8 วินาที มาพร้อมกับระบบ ADAS ไม่ว่าจะเป็น
- จำกัดความเร็ว Speed Limit Identification
- แจ้งเตือนความเร็ว Speeding Warning (SLIF)
- ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ Forward Collision Warning (FCW)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ควบคุมระยะห่างของรถยนต์ขณะขับขี่ Forward Distance Monitoring (FDM)
- แสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind Spot View (BSV)
- เตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Detection (BSD)
- เตือนขณะเปลี่ยนเลน Lane Change Assist (LCA)
- เตือนการเปิดประตู Door Open Warning (DOW)
- ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกรถยนต์คันหลังชนขณะขับขี่ Rear Collision Warning (RCW)
- เตือนการถอยหลังขณะออกจากช่องจอด Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- ควบคุมให้รถอยู่ในช่องทาง Narrow Lane Assist (SDIS)
- ตรวจสอบพฤติกรรมคนขับ Fatigue warning (DMS)
- ล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Full-speed adaptive cruise (ACC) พร้อมฟังก์ชันตรวจจับและลดความเร็วของรถลงโดยอัตโนมัติหากพบว่าความเร็วรถในขณะเข้าโค้งสูงเกินไปแปรผัน Adaptive Curve Cruise Control (ATC)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking (AEB)
- ช่วยควบคุมให้รถอยู่กลางเลน Lane Centering Assist (LCC)
- ช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping Assist (LKA)
- ช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ตั้งค่าไว้ Traffic Jam Assist (TJA)
- ช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ Automatic Lane Change Assist (ALC)
- กล้องมองภาพรอบคัน AVM360 panoramic image
LEAPMOTOR B10 มาพร้อมสีภายนอกถึง 7 สีทั้ง สีน้ำเงินStarry Night Blue, สีม่วง XILU Purple, สีขาว Photoelectric White, สีเทา Tundra Gray, สีบรอนซ์เงิน Galaxy Silver, สีดำ Metallic Black และสีเทา Sky Curtain Gray เปิดราคาขายจีน 5 รุ่นย่อยเริ่มต้น 99,800-129,800 YUAN หรือราว 465,000-599,000 บาท
ทางด้านเมืองไทยทาง พระนครยนตรการ (PNA) ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เตรียมเผยโฉมตุลาคมนี้โดยเป็น 1 ใน 3 รุ่นที่จะขายจริงจังในไทย ด้านรูปแบบการขายได้วางกลยุทธ์การทำตลาดผ่านแคมเปญ Pre-Booking ก่อนการเปิดตัวจริง เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นความสนใจจากกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน
ตั้งเป้ารวมครึ่งปีกหลังมากกว่า 600 คัน โดยแบ่งเป็นรุ่น LEAPMTOR C10 รวมถึงรุ่นใหม่ LEAPMOTOR B10 โดยคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 400 คัน และอนาคตจะมี Brand อื่นๆ ที่อยู่ในเครือ STELLANTIS มาทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งจะขายในโชว์รูมเดียวกันกับ LEAPMOTOR ด้วย
ทางด้านเครือข่ายการจำหน่ายปัจจุบันมีทั้งหมด 11 แห่งที่พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบในอีก 3 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าขยายเครือข่ายโชว์รูมให้ครบ 21 แห่ง พร้อมยกระดับทุกโชว์รูมและศูนย์บริการให้ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้ชาวไทย
