BYD บุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องล่าสุดบุกตลาดพวงมาลัยบขวาที่ออสเตรเลียกับรุ่นใหม่ BYD SEALION 5 DM-i ฝาแฝด BYD SONG PRO DM-i
BYD SEALION 5 DM-i ขายที่ฟิลิปปินส์มาตั้งแต่กลางปีนี้มาในร่างคอมแพ็คเอสยูวีพลังปลั๊กอินไฮบริด DM-i
ภายนอกมาพร้อมดีไซน์เป็นเอกลักษณ์
เด่นด้วยตรา BYD ชุดกระจังหน้าใหม่ รับกับไฟหน้า LED ขนาดใหญ่ พร้อมกันชนหน้ามีช่องระบายอากาศแบบรังผึ้งทรงสีเหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่โดดเด่นล้ำสมัย
ด้านข้างตกแต่งเข้มกระจกกรอบสีดำ คิ้วโครเมียมที่กรอบกระจกส่วนล่าง ราวหลังคาบิ๊วอิน กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ที่เปิดประตูดึงก้าน ด้านท้ายคล้ายกับ BYD SEALION 05 DM-i ด้วยไฟท้าย LED แบบแนวยาว ติดตรา BYD อย่างเท่ลงตัวด้วยชุดกันชนหลังดีโซน์ล้ำจุดสังเกตตรงที่ชุดป้ายทะเบียนท้ายอยู่ตำแหน่งเดียวกับชุดกันชนท้าย ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
ล้ออัลลอยทูโทนขนาดใหญ่ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/60R18 และขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 235/50R19 ตัวรถมาในร่างเอสยูวีทรงกล่องจากพื้นฐานรุ่น SEALION 05 DM-i โดยมีขนาดไล่เลี่ยกันตั้งแต่
- ความยาว 4,735 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,860 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,710 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,712 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 156 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,670 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 52 ลิตร
ภายใน
ด้วยแผงคอนโซลหน้าเป็นศูนย์รวมของชุดมาตรวัดความเร็วแนวนอนขนาด 8.8 นิ้ว จอกลางแบบสัมผัสขนาด 12.8 กับ 15.6 นิ้วสามารถหมุนจอได้ ระบบเชื่อมต่อเครือข่าย BYD’s DiLink รองรับการอัปเดตในรูปแบบ OTA เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกุญแจ NFC พร้อมลำโพง 6 จุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านติดตรา BYD
ที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลังชาร์จ 50 W หัวเกียร์คริสตัลรอบๆคันเกียร์รายล้อมด้วยปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส ช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C และ Type A
ภายในปรับโทนสีภายในเป็นสีทูโทนเน้นความล้ำสมัยเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าโดยด้านคนขับปรับได้ 6 หรือ 8 ทิศทาง คนนั่งปรับ 4 ทิศทางทั้งแบบธรรมดาและไฟฟ้า เบาะนั่งแถวหลังแบ่งพับ 60:40 มีพื้นที่มากถึง 1,339 ลิตร และ 520 ลิตร กรณีไม่พับเบาะ ไฟสร้างบรรยากาศปรับได้ 31 สี หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ 1.2 ตารางเมตร
สมรรถนะ
มาพร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด DM-i เวอร์ชัน 5.0 บนพื้นฐานเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส BYD472QC ให้กำลัง 101 แรงม้า แรงบิด 126 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 197 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน lithium iron phosphate (LFP) ขนาด 12.96 kWh
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 71 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC น้ำมัน 1 ถังและชาร์จ 1 ครั้งวิ่งไกลรวม 1,001 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.3 วินาที สามารถชาร์จได้แค่ AC กระแสสลับรองรับกำลังการชาร์จ 3.3 kW ภายใน 4.5 ชั่วโมง 150-100% โหมดการขับขี่ HEV/EV/Snow/ECO/SPORT/Normal
พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ มีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) รองรับการจ่ายโหลดสูงสุด 3.3 kW 220V ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ และระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) ขับเคลื่อนโดยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS) ครบครันออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงได้แก่
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) Stop and Go
- ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control (ICC)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB)
- อ่านป้ายจราจร (TSR)
- ไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
- เตือนการออกนอกช่องทางเดินรถ (LDA)
- แจ้งเตือนจํากัดความเร็วอัจฉริยะ (ISLI)
- ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ISLC)
- แจ้งเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
- ช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ตัดการทำงานของคันเร่งเมื่อแป้นเบรกและคันเร่งทำงานในเวลาเดียวกัน (BOS)
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home)
เบื่องต้นเตรียมขายออสเตรเลียท้าชน Toyota RAV4 และ Mitsubishi Outlander ต้นปี 2026 และจะเป็นรุ่นใหม่จ่อขายไทยหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Carexpert
