ตลอด 30 ปี ที่ Honda CR-V เอสยูวีประสบความสำเร็จในด้านความเชื่อมั่นและนิยมกว่า 150 ประเทศจนยอดขายกวาดไปแล้วกว่า 15 ล้านคัน
นับเป็นความสำเร็จและภูมิใจของชาว ฮอนด้า และครั้งนี้นำมาโชว์หล่อกันที่งาน Japan Mobility Show 2025 ให้ชาวญี่ปุ่นได้สัมผัสก่อนขายจริงกับ Honda CR-V เจเนอเรชันที่ 6
หน้าตาไม่ต่างจากไทย
ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้นด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน เสริมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ด้วยสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้าดีไซน์พิมพ์นิยมแบบ Piano Black ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED บนกันชนหน้าทูโทนสีเดียวกับตัวรถ/สีดำ
เปิดมุมมองใหม่ที่พรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่งสีดำ Piano Black ตั้งแต่ ราวหลังคาบิวอิน เสาอากาศครีบฉลาม กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยวปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ ที่เปิดประตูดึงก้าน ชายกันกระแทกด้านล่าง คิ้วตกแต่งประตูข้างสีดำ Gloss Black
ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED พร้อมไฟตัดหมอกหลังแบบ LED สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถ/สีดำ Piano Black สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close) และล้ออัลลอย 19 นิ้ว แบบสปอร์ตสีดำ พร้อมยาง 235/55R19 มิติตัวรถใหญ่ขึ้นตั้งแต่
- ความยาว 4,691 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,866 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,691 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 208 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,815 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 57 ลิตร
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง
พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ที่ดีตลอดเส้นทาง ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียมผสานแนวคิดระหว่างการใช้วัสดุคุณภาพสูงและความอเนกประสงค์ด้วยชุดตกแต่งภายในลายอะลูมิเนียมปัดเงาและสีดำ Piano Black เบาะหนังสีดำ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน สีดำ แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์แบบสมาร์ต กับหลากหลายเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทั้ง ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD)เครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย Android Auto
รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง) หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายระดับพรีเมียม อาทิ ควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key Card บันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat) ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งในหลายตำแหน่ง อาทิ ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว
ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา แบบ i-Dual Zone ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส
พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับ การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขวาง เบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Sliding) เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40 รุ่นเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode) ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
ขับเคลื่อนสู่ทุกจุดหมายอย่างมั่นใจ
ด้วย เบนซิน e:HEV 2.0 ลิตร รหัส LFAS1 Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลัง 148 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิด 183 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ พร้อม มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) ให้กำลัง 184 แรงม้า ที่ 5,000-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 335 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบต่อนาที เมื่อทำงานร่วมกันจะได้พลังแรงสุด 207 แรงม้า
มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
มาพร้อมสวิตช์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และโหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode) คู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) แบบกดปุ่ม Shift by Wire ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD
ความปลอดภัย Honda SENSING ให้ครบ
ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
- เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
- ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information – BSI)
- เตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor – CTM)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ อาทิ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
ช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) ช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
Honda CR-V e:HEV RS BLACK EDITION รุ่นพิเศษเฉพาะในญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่ประกอบจากประเทศไทยส่งไปขายที่ญี่ปุ่น โชว์หล่อที่งาน Japan Mobility Show 2025 ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม- 9 พฤศจิกายน ก่อนขายจริงปลายปีนี้ (ฤดูหนาวญี่ปุ่นตั้งแต่ เดือนธันวาคม 2025-กุมภาพันธ์ 2026) โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่
- สีน้ำเงิน Canyon River Blue Metallic
- สีแดง Blazing Red Pearl
- สีขาวมุก Platinum White Pearl
- สีเทา Slate Gray Pearl
- สีดำมุก Crystal Black Pearl


















