More

    Mazda 2 MY26 ปรับเล็กน้อยเก๋งแซยิดโดนใจญี่ปุ่นเริ่ม 359,000 บาท

    กลายเป็นรถรุ่นแซยิดลากขายมานานสำหรับ Mazda 2 เจนที่ 4 ล่าสุดที่เปิดตัวรุ่น MY2026 บนหน้าตาเดิมแบบเดียวกับไทยที่ญี่ปุ่น

    Mazda

    Mazda 2 MY2026 เก๋งเล็กยอดนิยมจากค่ายรถเมืองฮิโรชิมาล่าสุดปรับเพิ่มออปชันปรับรุ่นย่อยให้ชาวญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าของในราคาที่เอื้อมถึง

    • รุ่นเริ่มต้น 15C II เพิ่มออปชันเบาะหลังแบบพับแยก 60:40 และกระจกสีเข้ม (ประตูหลัง/ประตูท้าย)
    • รุ่น 15 BD i Selection II เพิ่มออปชันให้ทันสมัยด้วยจอสัมผัสขนาดใหม่ 8.8 นิ้ว รองรับ Mazda Connect Package รองรับการเชื่อมต่อทันสมัยรวมถึงช่องรับสัญญาณโทรทัศน์ดิจิตอลภาคพื้นดิน (Full-Segment) กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ซึ่งสเปกไทยถูกตัดออกในรุ่น Essential เซนเซอร์กะระยะการจอดรถด้านหน้า กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ
    • รุ่นท็อป 15 SPORT II เพิ่มออปชันด้วยเบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารแบบปรับอุ่นและพวงมาลัยแบบปรับอุ่น หรือ ฮีตเตอร์

    Mazda 2

    หน้าตาเดิมทั้ง กระจังหน้า Signature Wing ปรับดีไซน์แบบขอบดำเข้มสองแบบทั้งแบบตาข่ายสีดำ และ แบบครึ่งตาข่ายครึ่งปิดทึบสีเดียวกับตัวรถ รับกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่คาดสีดำล้ออัลลอยกับกระทะล้อ มีการปรับในส่วนของกระทะล้อ 2 ลาย ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65 R15 ในรุ่น C II กับรุ่น BD i Selection II

    ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 185/60 R16 ปลายท่อไอเสียขัดเงา สีภายนอกสีทูโทนหลังคาสีดำ ในรุ่น Sport กับ Sport+ กันชนหลังคิ้วโครเมียม พร้อมไฟท้าย LED ตกแต่งใหม่ด้วยหลังคาสีดำ และ เสาอากาศครีบฉลามสีดำ ซึ่งจะเป็นออปชันของแต่ละรุ่น

    Mazda

    ภายในมีระบบความบันเทิงและการสื่อสารด้วยจอสัมผัวขนาดใหญ่แบบ 8.8 นิ้ว  สังเกตที่ตัวหน้าจอมีความยาวกว่าเดิมแบบล้นฐานตั้ง พร้อม Mazda Connect รองรับ Apple Carplay และ Android Auto พร้อมการให้บริการเชื่อมต่อทั้ง “Mazda Emergency Call” และ “Mazda Advice Call”

    โทรแจ้งสายด่วนแพทย์ฉุกเฉิน แจ้งตำรวจ ยามมีเหตุภัยร้ายแรงกรณีที่เจ็บป่วยกะทันหัน รถเสียสามารถแจ้งทางดีลเลอร์หรือบริการฉุกเฉินรถยกได้และยังสะดวกสบายเพลิดเพลินกับการค้นหารถโดยเป็นออปชันเสริมเสียเงินเพิ่มในรุ่น C II, BD i Selection II  แต่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น SPORT และ SPORT+

    เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมฟังก์ชันความจำ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ที่ชาร์จมือถือไร้สาย หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้าหรือ Head Up Display พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน และ ก้านเหนี่ยวหลังพวงมาลัย Paddle Shift

    Mazda 2

    ขณะที่รุ่น BD i Selection II  มีชุดแต่งแผงหน้าคอนโซลหน้าและคอนโซลเกียร์สามสีให้เลือก คือ สีขาว Pure White, สีดำ Mirror Black หรือสีมินท์ Mint ขึ้นอยู่กับสีภายนอก และรุ่น Sport และ Sport+ เพิ่มการตกแต่งภายในสีดำเย็บด้ายสีแดง ช่องระบายอากาศโดยรอบ

    ขุมพลัง SKYACTIV แบบเบนซิน SKYACTIV-G 1.5 ลิตร รหัส P5-VPS 110 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE 6 สปีด เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ

    พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ช่วยให้ควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์เพื่อความแม่นยำในการถ่ายทอดกำลังลงล้อ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่นและความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ทั้ง

    • ช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) ในทุกรุ่นย่อย
    • ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง (360 View Monitor)
    • เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS)
    • ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC)
    • เตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS)
    • เตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC)
    • เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

    Mazda 2

    พร้อมออปชันความปลอดภัยดั้งเดิมทั้ง ถุงลมนิรภัย SRS รอบคันรวม 6 จุด ป้องกันล้อล็อกแยกอิสระ 4 ล้อ 4W-ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA หน้าดิสก์เบรก หลังดรัมเบรก ควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC

    ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด กล้องมองหลัง ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ( Traction Control System) สัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System) และไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ

    Mazda 2

    Mazda 2 MY2026 เปิดรับจองตั้งแต่ 20 พฤศจิกายนและขายจริงต้นเดือนธันวาคมนี้ทั้งหมด 13 รุ่นย่อย ในราคาเดิมเริ่มต้น 1,724,000–2,501,400 Yen หรือราว 359,000-519,000 บาท ราคานี้ไม่รวมภาษีนำเข้าแต่ถ้านำมาขายในไทยราคารวมภาษีจะอยู่ที่ 679,000-975,000 บาท

     

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts