More

    Toyota CROWN Estate THE 70th เข้มพิเศษลิมิตเต็ดเพื่อชาวญี่ปุ่น

    หลังจากเปิดตัวซีรีส์พิเศษ THE 70th สำหรับ Toyota CROWN แบบซีดานและสปอร์ตเอสยูวี ล่าสุดมาถึงคิวเอสเตท 5 ประตูกับ Toyota CROWN Estate THE 70th

    Toyota CROWN Estate THE 70th Toyota CROWN Estate THE 70th นำรุ่น RS กับ Z มาตกแต่งพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองการทำตลาด 70 ปี ของเก๋งตรามงกุฎที่ชาวญี่ปุ่นไว้วางใจ

    เข้มทั้งคัน

    ด้วยสีทูโทนทั้ง “หลังคารถสีเทา Precious Metal x สีขาวมุก Precious White Pearl” และ “หลังคารถสีเทา Precious Metal x สีดำ Precious Black Pearl” ทั้ง 2 สีพิเศษนี้ แสดงถึง “ความกลมกลืนกับภูมิประเทศของญี่ปุ่น” พร้อมสติ๊กเกอร์คาดติดด้านข้างแนวยาวมีโลโก้ “THE 70th” ล้ออัลลอยสีดำด้านขนาดใหญ่สุด 21 นิ้ว สีดำด้าน หุ้มยาง 235/45R21 และช่องเสียบ AC DC ด้านหลังฝั่งขวาของตัวรถ

    ออปชันเดิมทั้งกระจังหน้าแบบกริตเตอร์ขอบเล็กๆสีดำดำพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่แบบรังผึ้งและข้างล่างสีดำขนาดใหญ่ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตที่ดีไซน์มีส่วนเว้าตรงกลางขนาดใหญ่ ด้านข้างตกแต่งด้วยแถบข้างประตูสีดำด้าน

    คิ้วขอบล้อสีดำเงาบริเวณล้อทั้ง 4 ไฟหน้าเรียวยาวแนวนอน แบบ Bi-LED ปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อมระบบ Automatic High Beam ไฟเลี้ยววิ่งแบบ Sequential Light และไฟ DRL ในชุดเดียวกัน พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED

    ตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมด้านล่างกรอบประตูลากยาวต่อเนื่องหลังคาดำ กระจกมองข้างทรงสปูนสีดำ มือจับประตูไฟท้าย Combination แบบ Full LED ลากยาวจากซ้ายไปขวาพร้อมกันชนที่มีส่วนเว้าโค้งรับเข้ากับบั้นท้ายของตัวรถ กล้อง 360 องศารอบคัน อำนวยความสะดวกมากขึ้นด้วยฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick Censor หลังคารถแบบ Panoramic Moonroof สร้างจากแพลตฟอร์ม TNGA-L พื้นฐานเดียวกันกับ Lexus LS กับ Toyota Mirai

    Toyota CROWN Estate THE 70th

    เน้นหรูสุขุม

    ด้วยโทนสีดำ Black Luster พร้อมแผงลายไม้สีดำบนแผงหน้าปัด คอนโซลกลาง และขอบประตู ตกแต่งขลิบสีสีเทาออกทองอ่อน มีโลโก้ “THE 70th” รวมถึงไฟส่องพื้นที่มีโลโก้ “THE 70th” ใต้ประตคู่หน้าด้านคนขับและคนนั่ง พิเศษด้วยกุญแจรีโมท Keyless Entry ดีไซน์พิเศษ และคู่มือเฉพาะของ Crown ที่มีสัญลักษณ์พิเศษ และหัวเกียร์ลายคริสตัลใส่ติดตรา “THE 70th”

    Toyota CROWN Estate THE 70th

    รุ่น RS “THE 70th” เพิ่มเติมด้วย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนังตกแต่งขลีบสีเทาออกทองอ่อนบนฐานพวงมาลัย และชุดแป้นคันเร่งและเบรกสีเงินอลูมิเนียม และเบาะนั่งทรงสปอร์ตหนังแท้สีดำเดินด้ายแดง

    ออปชันเดิมทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านตกแต่งโลโก้ตรามงกุฎสำหรับสเปกญี่ปุ่นและโลโก้สามห่วงสำหรับทั่วโลก พร้อมจอทัชสกรีนคู่ 12.3 นิ้ว ที่มีทั้งมาตรวัดดิจิตอลและจอสัมผัสควบคุมระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อในชุดจอเดียวกัน เชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlayไร้สาย Android Auto พร้อมลำโพง 6,10 และมากถึง 11 จุด จาก JBL

    เครื่องปรับอากาศแยกส่วน 3 จุดทั้งด้านหน้าซ้ายขวาและด้านหลังหนึ่งจุด และเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกของได้สะดวก โดยมีพื้นที่ในตอนไม่พับเบาะ 570 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะจะมีพื้นที่ 1,470 ลิตร

    Toyota

    ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด

    เบนซิน Dynamic Force PHEV ขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS ให้กำลังถึง 177 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 219 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว แบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังมากถึง 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร สำหรับล้อหน้า และล้อหลังให้กำลัง 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร และความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18.1 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวม 306 แรงม้า

    วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า EV ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 85 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (89 กิโลเมตร WLTC) ชาร์จมีสองรูปแบบทั้งกระแสสลับ AC แบบ Type 1 รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 6.6 kW ใช้เวลาเพียง 2.30 ชั่วโมง และกระแสตรง DC CHAdeMO คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT พร้อม Sequential Shift พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 4 โหมดได้แก่ EV,EV/HEV,HEV และชาร์จแบตเตอรี่

    รุ่นเบนซิน Dynamic Force Hybrid ขนาดเดียวกัน ให้กำลังถึง 186 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตรที่ 3,600-5,200 รอบต่อนาที จากเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังแบบ 3NM และ 5NM แบตเตอรี่ Hybrid แบบ ลิเธียมไอออนขนาด 5 Ah

    โดยมอเตอร์ด้านหน้าให้กำลังถึง 120 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตร และมอเตอร์หลัง 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ามากถึง 249 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD E-Four Advanced จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT เลือกได้สี่โหมดสำหรับการขับขี่ EV, Normal, Eco และ Sport

    ขับเคลื่อนสี่ล้อ e-Four มอเตอร์ไฟฟ้าแบบติดตั้งด้านหลังด้วยกำลังขับจากมอเตอร์กำลังสูง พร้อมระบบเลี้ยวที่ล้อหลังหรือ DRS (Dynamic Rear Steering) และควบคุมช่วงล่าง Adaptive Variable Suspension (AVS) ควบคุมอาการหน่วงของโช้คอัพเพิ่มความสมดุลในการขับขี่รวมอยู่ด้วย พร้อมความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 ครบครันด้วย

    • Automatic High Beam ลดความสว่างของไฟสูงโดยอัตโนมัติเมื่อพบรถสวน
    • Dynamic Radar Cruise Control แปรผันความเร็วอัตโนมัติโดยใช้เรดาห์ตรวจจับรถคันหน้า
    • Road Sign Assist ช่วยสังเกตป้ายสัญญาณเตือน
    • Pre-Collision System with Pedestrian Detection เตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบตรวจจับ
    • Lane Departure Alert with Steering Assist ช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมฟังก์ชันหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ
    • Lane Tracing Assist ช่วยรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง
    • Blind Spot Monitor แจ้งเตือนมุมอับสายตา
    • Rear Cross Traffic Alert แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลัง
    • Traffic Jam Assist ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ
    • Front Cross Traffic Alert แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะเดินหน้า
    • Lane Change Assist ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน
    • Front and Rear Parking Assist with Automatic Braking ช่วยจอดหน้าและหลังอัจฉริยะพร้อม ช่วยเบรกอัตโนมัติ

    Toyota CROWN Estate THE 70th จำนวนจำกัดรุ่น RS PHEV และรุ่น Z HEV ในราคา 6,420,000-8,200,000 YEN หรือราว 1,335,000-1,705,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้านำเข้ามาขายราคารวมภาษีจะอยู่ที่ 4,185,000-5,345,000 บาท

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts