และก็มาถึงรถใหม่อีกรุ่นค่ายทรีไดมอนด์ กับ Mitsubishi TRITON ตัวเตี้ยลุคใหม่เพิ่มความปลอดภัยในราคาเอื้อมถึงกับ Mitsubishi TRITON STREET
Mitsubishi TRITON STREET มาในร่างตอนครี่ง MEGA CAB มาแทนรุ่นเดิม Mega Cab ACTIVE กระทะล้อ
ภายนอกหล่อ
ด้วยชุดไฟหน้าตราเพชรมัลติรีเฟลกเตอร์ ไฟเลี้ยวบนขอบฝากระโปรงหน้าด้านหน้ามาในสไตล์ Dynamic Shield ด้วยคิ้วสีเดียวกับตัวรถ ประกบชุดกระจังหน้าดีไซน์ใหม่เข้มด้วยใส้ในสีดำพร้อมตราโลโก้ทรีไดมอนด์สีเงินขอบกระจังหน้าชุดเดียวกับกันชนหน้าเท่ถึงใจด้วยทูโทนสีดำ/สีเดียวกับตัวรถ
ด้านข้างมีเส้นสายลงตัวออกแบบช่องไฟระหว่างด้านหลังตัวรถและแนวกระบะเป็นแนวทางเดียวกันงานนี้ไม่โค้งเหมือนแต่ก่อนแล้วกระจกหลังยังโค้งเช่นเดิมแถมมีคิ้วขอบล้อแบบบิ๊วอินกับตัวถังรถเติมความกลมกลืนกับตัวรถด้านท้ายพร้อมไฟท้ายสีขาวแดงแนวตั้งดีไซน์ใหม่รูปตัว H ที่เปิดกระบะท้ายพร้อมกุญแจล็อก และล้ออัลลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว 215/60R17 โดยรุ่น Mega Cab มีมิติตั้งแต่
- ความยาว 5,265 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,865 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,705 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,130 มิลลิเมตร
- ความสูงจากใต้ท้องรถ 179 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,730 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
- มิติกระบะภายใน ความยาว 1,860 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,535 มิลลิเมตร ความสูง 515 มิลลิเมตร
ภายใน
มาพร้อมคอนโซลหน้าภายใต้แนวคิด Horizontal Axis ด้วยชุดมาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูล MID 3.5 นิ้ว แผงคอนโซลกลางมีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบพร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิเมตร ได้มากถึง 4 ขวด แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่องต่อ USB ด้านหน้าแบบ Type-C / Type-A จุดละ 1 ตำแหน่งด้านหน้า
จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว รองรับ FM/AM/MP3 รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย ลำโพงติดรถ 2 จุด วัสดุหุ้มเบาะมาแบบผ้ากำมะหยี่ เครื่องปรับอากาศธรรมดาแบบ Full Mode Control 5 ตำแหน่ง มือจับหลังคา 2 ตำแหน่ง พวงมาลัยสามก้านแบบมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง
ขุมพลังดีเซลเทอร์โบแปรผัน
ด้วยคลีนดีเซล ไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) พัฒนาให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นขนาด 2.4 ลิตร 4N16 Low Power 150 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 330 นิวตันเมตรที่ 1,500 ถึง 3,000 รอบต่อนาทีจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
มาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น พร้อมกับมอบประสบการณ์ขับขี่ก้าวข้ามทุกอุปสรรค พร้อมรองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังช่วยรับและกระจายแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
พร้อมระบบบังคับเลี้ยวทุกรุ่นจะเป็นแบบ Rack & Pinion พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพ ด้านหลังเป็นแบบแหนบแผ่นซ้อนพร้อมความปลอดภัย
ความปลอดภัย
ใหม่!! เตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว และระบบตรวจจับคนเดินถนน (Forward Collision Mitigation System with Pedestrian Detection — FCM)
ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC) ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control System: TCL) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) ระบบเบรกกันล้อล็อกตาย (Anti-Lock Braking System: ABS) กระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Brake-Force Distribution: EBD)
ลดกำลังเครื่องยนต์ (Brake Override System: BOS) เสริมแรงเบรก (Brake Assist: BA) ไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal System : ESS) ถุงลมนิรภัย 3 จุด (คู่หน้าและหัวเข่าใต้คนขับ) กระจกบังลมหน้าแบบตัดแสง UV (UV Cut Front Windshield) ไฟหน้าปรับระดับ สูง-ต่ำ (Headlight Leveling) ไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Coming Home Light System) และไฟส่องสว่างสำหรับผู้โดยสาร (Room Light)
Mitsubishi TRITON STREET ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และเชิงพาณิชย์ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 649,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 27,000 บาท) โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Solid White) สีเงิน (Blade Silver) และสีเทา (Graphite Grey) (สีเงิน และสีเทา ราคาเพิ่ม 7,000 บาท)
และ Mitsubishi TRITON MY2026 ทุกรุ่น ยังให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัย มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองการใช้งานจริงอย่างต่อเนื่อง เพิ่มระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (เดิมระบบนี้จะมีในรุ่น Double Cab PLUS ULTRA และ Double Cab Athlete 4WD) และยังเพิ่มฟังก์ชันตรวจจับคนเดินถนน (Forward Collision Mitigation with Pedestrian Detection — FCM) ให้ทุกรุ่น ในราคาเพิ่มจากเดิม 5,000 และ 10,000 บาท ดังนี้
- 4 ประตู Double Cab Athlete AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,299,000 บาท (ราคาเดิม)
- 4 ประตู Double Cab Prime ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,049,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
- 4 ประตู Double Cab PLUS ULTRA AT 1,059,000 บาท (ราคาเดิม)
- 4 ประตู Double Cab PLUS PRIME AT 969,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
- 4 ประตู Double Cab PLUS PRIME 924,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท)
- 4 ประตู Double Cab PRO 727,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
- 2 ประตู Mega Cab PLUS PRO AT 804,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)
- 2 ประตู Mega Cab PLUS PRO 754,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
- 2 ประตู Single Cab PRO AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ 764,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
- 2 ประตู Single Cab PRO ขับเคลื่อน 4 ล้อ 714,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
- 2 ประตู Single Cab PRO 614,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 5,000 บาท)
