More

    AVATR 11 Royal Edition อีวีหรูขับสี่ 630 กม. เปิดราคา 2.899 ล้านบาท

    หลังจากเปิดตัวไปได้สักพักสำหรับ AVATR 11 Royal Edition เอสยูวีหรูพรีเมียมรุ่นท็อปสุด ล่าสุดประกาศราคาก่อนเข้างาน Motor Expo แล้ว

    AVATR 11 ROYAL EDITION

    โดยมาในราคาคาดการณ์ 2,899,000 บาท สำหรับ AVATR 11 Royal Edition ด้วยรูปร่างหน้าตาคล้าย AVATR 11 แต่ปรับเปลี่ยนให้เป็นรุ่นเหนือกว่าในร่างเอสยูวีรูปทรงท้ายลาด Coupe เสมือนเป็นการนำเอกลักษณ์สร้างความโดดเด่น

    ภายนอก

    มาพร้อมกับตัวรถสีทูโทนเฉพาะรุ่น (Customized Bi-Color) เทา–ดำ พร้อมสีแพลทตินัมซิลเวอร์ที่มาแทนสีดำแบบมาตรฐาน เพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้โดดเด่นเหนือใคร ตราสัญลักษณ์ Royal Edition สื่อถึงเอกลักษณ์ความพรีเมียมเฉพาะตัว ขณะที่ล้อฟอร์จขนาด 22 นิ้วแบบ Heptagram Starburst ช่วยเพิ่มความสปอร์ตและลดน้ำหนักเมื่อเทียบกับล้อทั่วไปพร้อมยาง 265/40R22 และดีไซน์กันชนแบบ Sport Bumpering ที่ลงตัวทั้งความสง่างามและความแข็งแกร่ง

    AVATR 11 Royal Edition

    โดดเด่นด้วย กระจังหน้าแบบ Disc-Wing ไฟหน้า LED ทรงสามเหลี่ยมล้อมกรอบไฟ DRL แบบ LED รูปตัวซีเหนืออีกมีไฟ DRL LED แบบเส้นแนวนอนสะท้อนความหรูอีกระดับกับโลโก้ของ AVATR ช่องระบายอากาศในชุดกันชนหน้าที่กลมกลืนดูดี ด้านข้างเด่นด้วยที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวถัง

    กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูนสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนอย่างแน่นอนนั่นคือดีไซน์ของบานฝาท้ายที่มีตำแหน่ง Spoiler ค่อนข้างสูง ทำให้เหลือพื้นที่กระจกบังลมหลังอันน้อยนิด

    ไฟท้าย LED เส้นแนวนอนลากยาวถึงตัวถังด้านข้างรับกับกันชนหลังเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำเข้มมีครีบรีดอากาศ สามารถเปิดประตูทั้ง 4 บาน จากระยะไกล ประตูไฟฟ้าอัจฉริยะมีเซนเซอร์ที่สามารถตรวจจับสิ่งของและผู้คนเพื่อความปลอดภัยอีกขั้น ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม EP1 EV โดยมีมิติตัวรถดังนี้

    • ความยาว 4,880 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,970 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,601 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,975 มิลลิเมตร
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 170 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 2,425 กิโลกรัม

    AVATR 11 Royal Edition

    ภายใน

    ถ่ายทอดความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส ด้วยเพดานกำมะหยี่ Merlot Red Suede ตัดกับเบาะหนัง Rose White Semi-Aniline ที่ให้สัมผัสหรูหรากว่าหนัง NAPPA แบบดั้งเดิม พื้นที่โดยสารด้านหลังถูกยกระดับเป็น Executive Seating Suite พร้อมเบาะ VIP 4 ที่นั่ง และที่วางแขนกลางแบบลอยตัว (Floating Armrest) รองรับฟังก์ชันนวด 8 จุด ระบบชาร์จไร้สายกำลังสูง 50W พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส Zero-Gravity Seats มาพร้อมระบบนวด อุ่น และระบายอากาศ โดยคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง

    AVATR 11 ROYAL EDITION

    มอบความสบายสูงสุดในทุกการเดินทางทั้งเบาะหน้าและหลังห้องโดยสารโอบล้อมผู้โดยสารด้วยเทคโนโลยีระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียง Meridian 25 ลำโพง และกำลังขับ 2016 วัตต์ แบบ 7.1.4, ระบบไฟ Ambient Light 256 สีแบบ Dynamic, และระบบ VORTEX Sensory Ecosystem ที่ผสานแสง เสียง และกลิ่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เสริมความสมบูรณ์แบบด้วยหลังคากระจกพาโนรามา กระจกมองหลังแบบดิจิทัล และระบบน้ำหอมในรถที่คัดสรรกลิ่นพิเศษถึง 3 แบบ สร้างบรรยากาศแห่งความหรูหราที่สัมผัสได้ทุกอณู

    มาพร้อมจอจอลอยสองจุดทั้งฝั่งคนขับที่เป็นมาตรวัดความเร็วแบบ LCD 10.25 นิ้ว และฝั่งคนนั่ง 10.25 นิ้ว พร้อมจอกลางระบบความบันเทิงขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว นอกจากนี้ ฟีเจอร์อัจฉริยะสามารถอัปเดตได้อย่างต่อเนื่องผ่านระบบ Over-The-Air (OTA) โดยทุกการอัปเดตช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น

    AVATR 11 Royal Edition

    สมรรถนะ

    เทคโนโลยีแบตเตอรี่ล้ำสมัยแบตเตอรี่ Ternary Lithium (NCM) จาก CATL ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ไฟฟ้าด้วยความจุแบตเตอรี่ 116.79 kWh แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent Magnet Synchronous Motor โดยให้กำลังรวมสูงสุด 537 แรงม้า แรงบิด 641 นิวตันเมตร จากมอเตอร์ล้อหน้า 224 แรงม้า และมอเตอร์ล้อหลัง 313 แรงม้า  ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้  4.8 วินาที

    วิ่งไกลสุด 630 กิโลเมตร (NEDC) ชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 30-80% ภายในเวลา 25 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 10.5 ชั่วโมง พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง Eco, Comfort, Sport, Customize

    พร้อมระบบแพลตฟอร์ม 800 โวลต์รองรับการชาร์จเร็วด้วยมาตรฐานสากลของแบตเตอรี่ ระดับสูงสุด IP68 ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยแม้ในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยสะดวกสบายสำหรับทุกกิจกรรม ด้วยฟังก์ชัน V2L Vehicle to Load (V2L) ที่สามารถจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้ และ ระบบอัจฉริยะดึงพลังงานจากการเบรก กลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking)

    ช่วงล่างใช้เทคโนโลยี Magnetorheological Dampers แบบเดียวกับที่ใช้ในซูเปอร์คาร์อย่าง Ferrari และ Lamborghini ช่วยปรับการหน่วงได้ภายในเสี้ยววินาที เพื่อการควบคุมที่แม่นยำและความสบายที่ไร้ที่ติ บนพื้นฐานช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบปีกนกคู่และด้านหลังแบบอิสระ 5 ลิงก์ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.5 เมตร​ และดิสก์เบรก​ 4 ล้อจาก​ Brembo​ สีแดง ระบบขับเคลื่อน All-Wheel Drive AWD ควบคุมแรงบิดอัจฉริยะช่วยกระจายแรงขับแบบเรียลไทม์

    AVATR 11 Royal Edition

    ความปลอดภัย

    มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง L2+ (ADAS) มีเรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว และกล้อง HD 5 ตัว เพื่อการขับขี่ที่แม่นยำและไร้กังวลบนท้องถนน ฟังก์ชันต่างๆเช่น

    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน (IACC)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วตํ่า (TJA)
    • ควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (LCC)
    • ควบคุมเมื่อรถออกนอกเลน (LDC)
    • เปลี่ยนเลนอัตโนมัติเมื่อเปิดไฟเลี้ยว (UDLC)
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
    • ควบคุมรถให้อยู่ในเลนขณะฉุกเฉิน (ELK)
    • จอดรถอัตโนมัติ (APA)
    • จอดอัตโนมัติจากระยะไกล (RPA)
    • ถอยหลังอัตโนมัติ (RADS)
    • เตือนหากเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
    • เตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหน้า (FCTA)
    • เตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหลัง (FCTB)
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
    • เตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
    • ควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
    • เตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
    • เตือนหากเสี่ยงต่อการโดนชนด้านหลัง (RCW)
    • เตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
    • ช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
    • เตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนขณะเปิดประตู (SEW)
    • แจ้งเตือนมุมอับสายตา (BSD)
    • ตรวจจับป้ายจราจร (TSR)
    • เปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)

    พร้อมความปลอดภัยมาตรฐานทั้ง ถุงลมนิรภัยรอบคัน เสริมแรงเบรก (BA) ป้องกันล้อล็อก (ABS) กระจายแรงเบรก (EBD) ควบคุมการทรงตัว (ESP) ปองกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HHC) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าปรับสูง-ตํ่าได้ เตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและด้านหลัง

    ล็อกเพื่อป้องกันเด็กเปิดประตูจากในรถแบบไฟฟ้า เบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน Auto Hold กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศาแบบ 3 มิติ พร้อมระบบแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง บันทึกวิดีโอการขับขี่รอบทิศทาง 360 องศา ตรวจจับแรงดันลมยาง (TPMS)

    เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุ ด้านหน้าและหลังด้านละ 6 จุด ช่วยป้องกันรถพลิกคว่ำ (ROM) สัญญาณป้องกันขโมย เสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่ในความเร็วตํ่า (AVAS) จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ ISOFIX และอุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางแบบชั่วคราว (TRK)

    AVATR 11 Royal Edition

    AVATR 11 ROYAL Edition คือ นวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่ทั่วโลกต้องจับตามอง พร้อมแคมเปญสุดพิเศษ AVATR WithU Select ครอบคลุมสิทธิพิเศษ ทั้ง

    • รับประกันตัวรถ 5 ปี / 120,000 กิโลเมตร
    • รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี / 160,000 กิโลเมตร
    • ฟรี Home Charger พร้อมติดตั้ง
    • ฟรี Emergency Charger
    • ฟรี ประกันภัย + พ.ร.บ. 1 ปี
    • ฟรี บำรุงรักษา 6 ปี 6 ครั้ง
    • ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี
    • ฟรี ค่าจดทะเบียน

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts