More

    มติเห็นชอบ! ครม.ปรับ มาตรการ EV3–EV3.5 ขยายเวลา เพิ่มความยืดหยุ่น หนุนไทยสู่ฐานผลิตรถไฟฟ้าโลก

    มาตรการ EV3-EV3.5 ได้รับไฟเขียวจากคณะรัฐมนตรี มีการปรับให้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์การแข่งขันตลาดโลก ป้องกันโอเวอร์ซัพพลาย และสร้างความมั่นคงให้ฐานการผลิตรถไฟฟ้าไทย

    ev_charging

    นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV3 และ EV3.5) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการแข่งขันในตลาดโลก พร้อมลดความเสี่ยงจากอุปทานส่วนเกินและสงครามราคาในประเทศ ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568

    โดยมีประเด็นหลักที่น่าสนใจดังนี้

    1.ขยายเวลาจดทะเบียนรถ EV ที่ผลิตในประเทศ

    เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินการและการบริหารจัดการสต็อกรถที่ผลิตในประเทศ

    • มาตรการ EV3: ขยายเวลาให้จำหน่ายภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 และจดทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2569
    • มาตรการ EV3.5: ขยายเวลาให้จำหน่ายภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2570 และจดทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2571

     

    2.ปรับวิธีนับการผลิตชดเชยเพื่อการส่งออก

    มาตรการใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นการส่งออกและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลก 

    • การผลิตรถ EV ที่ส่งออก จะถูกนับเป็นการผลิตชดเชยได้ 1.5 เท่า
    • ผ่อนผันระยะเวลาการส่งออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ของปีถัดไป

     

    3.การคุมเข้มการจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อความรอบคอบด้านงบประมาณ

    บอร์ด EV ได้เพิ่มความเข้มงวดในการบริหารจัดการงบประมาณเพื่อป้องกันความเสี่ยง

    • กำหนดหลักเกณฑ์ ติดตามแผนการผลิตชดเชยอย่างใกล้ชิด
    • ระงับการจ่ายเงินอุดหนุนชั่วคราว หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด

     

    4.เปิดทางขยายการผลิตข้ามมาตรการ

    เพื่อรักษาฐานการผลิตและการลงทุนในประเทศ โดยผู้ที่ได้รับสิทธิ EV3 สามารถขยายการผลิตชดเชยไปภายใต้มาตรการ EV3.5 ได้

     

    5.ขยายเวลาการนับมูลค่าเซลล์แบตเตอรี่จากต่างประเทศ

    เพื่อเร่งรัดการใช้ชิ้นส่วนและแบตเตอรี่ที่ผลิตในประเทศ 

    • ผ่อนผันได้ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569
    • ปรับลดสัดส่วนต้องไม่เกิน ร้อยละ 10 ของราคารถ

     

    คณะกรรมการฯ ยังคงเน้นย้ำถึงเป้าหมายสำคัญของประเทศในการก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญระดับโลก พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย Zero Emission Vehicle (ZEV) ภายในปี 2573 อย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยจะใช้มาตรการทางเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพของตลาดในประเทศอย่างต่อเนื่อง

     

    การปรับมาตรการ EV3–EV3.5 ของรัฐบาลมีเป้าหมายสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าภายในประเทศกับการแข่งขันในตลาดโลก ทั้งด้านการส่งออก การรักษาฐานการผลิต และการควบคุมงบประมาณ เพื่อเสริมโอกาสให้ไทยกลายเป็นฐานผลิตรถไฟฟ้าสำคัญในภูมิภาคภายในอนาคต

     

    ข้อมูลจาก: thaigov.go.th
    ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้ที่: car2day.com

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts