หลังจากที่ Toyota Camry ยุติการขายที่ญี่ปุ่นไปตั้งแต่สิ้นปี 2023 เหตุด้วยยอดขายต่ำลงอย่างมากเพราะลูกค้าหันไปซบรถเอสยูวี

ล่าสุด Toyota เตรียมปัดฝุ่น Toyota Camry ครองใจมานานกว่า 40 ปี กลับมาโลดแล่นบนท้องถนนญี่ปุ่นอีกครั้ง พร้อมกันนี้ยังนำ Toyota Highlander หรือ KLUGER และ Toyota Tundra มาด้วยซึ่ง 3 รุ่นดังกล่าวนำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา
โดย Toyota Camry มาในร่างเก๋งใหญ่เจเนอเรชันที่ 9 รหัส VX80 มาจากโรงงาน Toyota Motor Manufacturing Kentucky (TMMK) รัฐเคนทักกี ด้วยเครื่องยนต์ฟูลไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร เบนซิน Dynamic Force Hybrid รหัส A25A-FXS ให้กำลังถึง 188 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,200-5,200 รอบต่อนาทีในภาคเครื่องยนต์

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวขับเคลื่อนล้อหน้าเพลาหน้า Permanent Magnet Synchronous Motor รุ่น 1VM โดยให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 208 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุแบตเตอรี่ 251.6 V ความจุไฟฟ้า 4.0 Ah (1.006 kWh)
เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมถึง 231 แรงม้าจับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Sequential Shift โหมดการขับขี่ Drive Mode Select (DMS) ให้เลือกทั้ง Sport, Eco, Normal, EV

ทางด้าน Toyota Highlander หรือ KLUGER ประกอบที่โรงงาน Toyota Motor Manufacturing Indiana (TMMI) รัฐอินดีแอนาเป็นเอสยูวีร่างเจเนอเรชันที่ 4 สร้างจากพื้นฐาน Toyota New Global Architecture (TNGA) GA-K เช่นเดียวกับ Camry สบายแบบ 7 ที่นั่ง
พกพลัง Dynamic Force Engine ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบในรหัส T24A-FTS ให้กำลังถึง 269 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบต่อนาที โดยเครื่องยนต์ Turbo ใหม่นี้พัฒนาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยลดการปล่อย NOx และ NMOG ลงมากกว่า 50% รวมถึงปรับในเรื่อง Co2 ให้ดีขึ้นและความประหยัดมากกว่าเดิม 10.2 กิโลเมตรต่อลิตร
พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Direct Shift เช่นเดิมพร้อมให้เลือกในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic Torque Vectoring AWD

นอกจากนี้ยังมีฟูลไฮบริดด้วยเบนซิน Dynamic Force Engine 2.5 ลิตร (รหัส A25A-FXS) ให้กำลังถึง 189 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 237 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังแบบ 5NM และแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal ทำงานร่วมกันได้กำลังสูงถึง 246 แรงม้า จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT ขับเคลื่อน 4ล้อ AWD แบบ Electronic On-Demand

ส่วนกระบะยักษ์ Toyota Tundra ผลิตที่โรงงานโตโยต้า มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง เท็กซัส (TMMTX) ในร่าง 4 ประตู ด้วยความยาวเกือบ 6 เมตร กว้าง 2 เมตรต้นๆ สูงเกือบ 2 เมตร ความจุถังน้ำมัน 122 ลิตร จากพื้นฐาน TNGA-F ladder frame แบบเดียวกับ Land Cruiser 300

โดยเวอร์ชันพวงมาลัยขวาที่ขายที่ออสเตรเลียถูกทางโรงงานประกอบ Walkinshaw Automotive Group Clayton South ชานเมืองในเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ดักไว้ ดัดแปลงจากพวงมาลัยซ้ายกลายเป็นพวงมาลัยขวาและตรวจสอบอุปกรณ์ดัดแปลงที่เกี่ยวเนื่อง ตามมาตรฐานการออกแบบและข้อบังคับความปลอดภัยของออสเตรเลียก่อนส่งขาย

เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด i-Force Max ยกชุดมาจาก Toyota Land Cruiser 300 ด้วยพลังเทอร์โบคู่ 3.5 ลิตร V6 รหัส V35A-FTS ให้กำลัง 394 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 650 นิวตันเมตรที่ 2,400-3,600 รอบต่อนาที
พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor ให้กำลัง 49 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตรและชุดแบตเตอรี่ Nickel Metal Hydride ขนาด 6.5 Ahr และเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 443 แรงม้า แรงบิด 790 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด Direct Shift-10AT รุ่น L4A0F
ขับเคลื่อนสี่ล้อ Dual-range 4WD พร้อมกำลังลากจูงมากสุด 4,500 กิโลกรัม แกร่งด้วยช่วงล่างรองรับการบรรทุกด้วยช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ พร้อมดิสก์เบรกสี่ล้อแบบคาลิเปอร์ 4 พอตพร้อมจานเบรกขนาดใหญ่ด้านหน้า 354 มิลลิเมตร และจานเบรกหลังขนาดใหญ่ 335 มิลลิเมตรและคาลิเปอร์ 1 พอต พร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมดทั้ง Eco, Normal, Sport

ทั้ง 3 รุ่นจากค่าย Toyota เตรียมที่จะขายที่ญี่ปุ่นในช่วงปี 2026 เป็นต้นไป โดยเหตุที่นำ 3 รุ่นใหม่เข้าขายในญี่ปุ่น นอกจากตอบสนองความต้องการลูกค้าแล้วยังมีมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ อีกด้วย
ที่มา Carwatch










