More

    เจาะสเปก!! 2022 HAVAL JOLION HEV น้องสิงโตสุดหล่อ ขายจริง 25 พฤศจิกายน

    หลังจากทำความรู้จักกันไปแล้วสำหรับ HAVAL JOLION HEV ผ่านการชมตัวจริงที่โรงงานและทดลองขับจากสื่อต่างๆจนสาวกสนใจอยากจับจองเป็นเจ้าของแล้วผ่านแคมเปญ ULTRA DEAL

    โดยแคมเปญยอดนิยมสามารถสร้างยอดจองไปเป็นจำนวนมาก และอีกไม่กี่วันนี้ ทาง Great Wall Motor พร้อมแล้วที่จะประกาศราคาอย่างเป็นทางการกับเจ้าสิงโตสุดหล่อ ที่อาจทำให้สาวกที่ชื่นชอบคลั่งรักแบบไม่ลืมหูลืมตา โดย HAVAL JOLION HEV ที่จำหน่ายในไทยมีด้วยกันถึง 3 รุ่นย่อย ตั้งแต่รุ่นถูก TECH, PRO และรุ่นท็อปสุด ULTRA โดยไทยเป็นที่แรกของโลกที่ได้ใช้ขุมพลัง Hybrid โดดเด่นมีสไตล์ไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง HAVAL H6 HEV ด้วยไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ล้ำสมัย ระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค ไฟ Follow Me Home ที่ส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ และไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลังแบบ LED ด้านหน้าของรถเป็นกระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา ที่โดดเด่นด้วยโลโก้ HAVAL ตรงกลาง พร้อมดีไซน์อันล้ำสมัยด้วย สปอยเลอร์ท้าย เสาอากาศแบบ shark fin เข้าทรงกับดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์สปอร์ต กระจกมองข้างปรับพับด้วยไฟฟ้า

    พร้อมออพชั่นเฉพาะรุ่น ตั้งแต่ ราวหลังคาเฉพาะรุ่น PRO กับรุ่น ULTRA ล้ออัลลอย 2 ขนาดตั้งแต่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60R17 เฉพาะรุ่น TECH กับรุ่น PRO และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18 เฉพาะรุ่น ULTRA กระจกมองข้างพับอัตโนมัติเมื่อล็อกรถและหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค มีเฉพาะรุ่น ULTRA

    ตัวรถสร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะแบบเดียวกับ Haval H6 HEV ให้ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ ด้วยมิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,472 มม. ความกว้าง 1,841 มม. ความสูง 1,619 มม. ฐานล้อ 2,700 มม. ระยะห่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง 1,577/ 1,597 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 168 มม. และความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร

    ภายในภาพรวมเหมือนกันทั้ง 3 รุ่น โดยออกแบบภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit”โดดเด่นด้วยการออกแบบกว้างขวาง สะดวกสบายด้วยหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss ช่วยเติมสีสันให้ห้องโดยสาร มาพร้อมกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดประตูและการสตาร์ทเครื่องยนต์ ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เบาะหน้าฝั่งผู้ขับขี่ปรับได้ 6 ทิศทาง และคนนั่ง 4 ทิศทาง เพื่อช่วยจัดท่านั่งให้สบายและอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิสัยทัศน์ได้ดีที่สุด ส่วนเบาะที่นั่งโดยสารด้านหลังจะมาพร้อมที่เท้าแขนกลาง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายไปอีกขึ้น และยังสามารถพับลงได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร

    พร้อมการตกแต่งที่แตกต่างในแต่ละรุ่นตั้งแต่รุ่น TECH กับ รุ่น PRO จะตกแต่งแบบสีดำ Piano Black และสีโครม Chrome หน้าจอสัมผัสอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูงรองรับ Apple CarPlay การเล่น MP3 รวมไปถึง JOOX และระบบนำทาง (Navigator)  โดยมี 2 ขนาดทั้งขนาด 10.25 นิ้วในรุ่น TECH กับ รุ่น PRO ส่วนขนาดใหญ่สุด 12.3 นิ้วอยู่ในรุ่น ULTRA พร้อมกับลำโพง 4 ตัวในรุ่น TECH และมากสุด 6 ตัว ในรุ่น PRO และ ULTRA เครื่องปรับอากาศสำหรับด้านหลังจะมีในรุ่น PRO กับรุ่น ULTRA กุญแจกับปุ่ม Push Start มาพร้อมระบบระบบ Keyless access มีเฉพาะรุ่น PRO กับรุ่น ULTRA เบาะนั่ง 5 ตำแหน่งหุ้มด้วยวัสดุผ้าสีดำปรับธรรมดาไร้ไฟฟ้าในรุ่น TECH ส่วนหนังสังเคราะห์ดีไซน์สปอร์ตปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมระบบระบายอากาศเฉพาะรุ่น PRO หุ้มหนังสีดำ กับรุ่น ULTRA หุ้มนหนังสีดำ/เทา ช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกหน้ารถมีเฉพาะรุ่น PRO กับรุ่น ULTRA กระจกไฟฟ้า 4 บาน One Touch ด้านคันขับในรุ่น TECH และ One Touch 4 บานในรุ่น PRO กับรุ่น ULTRA พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มด้วยยูริเทนในรุ่น TECH และหุ้มหนังในรุ่น PRO กับรุ่น ULTRA

    ส่วนออพชั่นเฉพาะรุ่นท็อปสุด ULTRA มีดังนี้ หน้าจอ Head-up Display แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5  ระบบ Wireless Chargerสามารถวางสมาร์ทโฟนเพื่อชาร์จได้อย่างสะดวกสบาย กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติและการตกแต่งทูโทนตัดด้วยลายเส้นสี Rose Gold สีเงิน Silver

    HAVAL JOLION HEV ให้ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังมากสุด 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 125 นิวตันเมตรที่ 4,400-5,200 รอบ/นาที  ในภาคเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังมากสุด 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้พลังมากสุด 190 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้ารองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายเมื่อทํางานร่วมกับเครื่องยนต์ สร้างการขับเคลื่อนอย่างทรงพลังและประหยัดน้ำมัน ระบบขับขี่ทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) Sport 3) ECO 4) สภาพถนนลื่น พร้อมช่วงล่าง อิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง สำหรับด้านหน้าและด้านหลังแบบทอร์ชั่น บีม พร้อมเหล็กกันโคลง

    HAVAL JOLION HEV มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Functions) เช่น ระบบความบันเทิงในรถยนต์ ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ และเทคโนโลยีสำหรับการขับขี่อันล้ำสมัยอีกมากมาย อาทิ การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) อัพเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ รวมถึงระบบควบคุมอื่นๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดายการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (voice command) การสั่งการและควบคุมรถผ่าน GWM APP เฉพาะรุ่น PRO กับ รุ่น ULTRA

    ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยที่ให้เฉพาะรุ่น ดังนี้

    – ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่วงความเร็วที่กำหนดไว้โดยจะปรับลดความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัย รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า พร้อมการเข้าโค้งอัจฉริยะ เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) เฉพาะรุ่น PRO กับ รุ่น ULTRA

    – ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เฉพาะรุ่น PRO กับ รุ่น ULTRA

    – ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) เฉพาะรุ่น PRO กับ รุ่น ULTRA

    – ระบบช่วยเตือนสัญญาณไฟจราจร (TSR) เฉพาะรุ่น PRO กับ รุ่น ULTRA

    – ระบบช่วยเตือนเมื่อความเร็วสูงเกินค่ากำหนด เฉพาะรุ่น PRO กับ รุ่น ULTRA

    – ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) เฉพาะรุ่น ULTRA

    – สัญญาณกะระการจอดรถ 6 จุดด้านหน้าและหลังในรุ่น ULTRA และ 3 จุดด้านหลังในรุ่น TECH กับ รุ่น PRO

    พิเศษ!! ในรุ่นท็อป ULTRA ให้ออพชั่นความปลอดภัยมากกว่า ทั้งระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) ระบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (LSEB) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA และ RCTB) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) ทำงานร่วมกับ Lane Center Keeping ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP) เพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวเฉียง และจอดเทียบข้าง และ กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา

    ระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่ให้ทุกรุ่นมีดังนี้ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) มาพร้อมระบบการตรวจจับรถยนต์, ผู้ขับขี่จักรยาน และคนเดินถนน ทั้งทางตรงและทางแยก ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) และ ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) กล้องมองภาพด้านหลังในรุ่น PRO และ Cruise Control ในรุ่น TECH

    HAVAL JOLION HEV ทั้ง 3 รุ่นย่อยมีสีภายนอกทั้งหมด 5 สี ตั้งแต่ สีแดง (Burgundy Red) สีน้ำเงิน (Swarovski Blue) สีเทา (Ayers Gray) สีดำ (Sun Black) และสีขาว (Hamilton White) โดยประกอบไทยที่โรงงานจังหวัดระยอง โดยจะเปิดราคาขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ โดยราคาจำหน่ายคาดว่าจะอยู่ที่ 799,000-1,049,000 บาท

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts