หลังกลับมาทำตลาดอีกครั้งกับ DFSK หรือ DONGFENG ที่ส่งรถสองรุ่นในราคารถญี่ปุ่นมาบุกตลาดรถเอสยูวีเมืองไทยเต็มรูปแบบ
ล่าสุด อีวี ไพรมัส ผู้นำเข้าและจำหน่าย SUV มัลติแบรนด์ เสริมความแข็งแกร่งของตนเองนอกจาก DFSK หรือ DONGFENG ทั้ง DFSK GLORY i-Auto และ DFSK GLORY 560 สองเอสยูวี ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ SERES ซึ่งเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าในเครือ DFSK หรือ DONGFENG ที่พัฒนาร่วมกับ Huawei ค่ายโทรคมนาคมสื่อสารอันดับต้นๆของจีน โดยเตรียมเปิดตัวรถไฟฟ้าอย่างน้อย 3 รุ่น ในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยปีนี้ประเดิมส่งสองรุ่นใหม่มาให้ชาวไทยได้รู้จักทั้ง
เริ่มที่ SERES 3 เอสยูวีไฟฟ้าที่นำพื้นฐานจาก DFSK GLORY E3 มาเปลี่ยนตัวตนเป็นแบรนด์ SERES ด้วยพลังไฟฟ้าล้วนแรงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร ด้วยความจุแบตเตอรี่ 52.56 kWh วิ่งไกลสุด 405 กม. โดยการชาร์จแบบชาร์จเร็ว Fast Charging 30 นาที จาก 20-80% และชาร์จช้า 8 ชม. ในร่างเอสยูวีที่มีความยาว 4,385 มม. ความกว้าง 1,850 มม. ความสูง 1,650 มม. ฐานล้อ 2,655 มม. และความสูงจากใต้ท้องรถ 180 มม.
ส่วนอีกรุ่นคือ SERES 5 เอสยูวีทรงหรู เวอร์ชั่นไฟฟ้าด้วยความจุแบตเตอรี่ 90 kWh ให้กำลังมากถึง 694 แรงม้า แรงบิด 1,039 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 500 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.5 วินาที โดยสองรุ่นนี้พร้อมเปิดตัวภายในปีนี้ขึ้นอยู่กับว่าทางโรงงานผลิตทีจีนจะผลิตเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาออกมาหรือไม่
โดยทาง อีวี ไพรมัส ได้ขายรถยี่ห้อ DFSK หรือ DONGFENG ที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป และ ยี่ห้อ SERES ที่เป็นรถไฟฟ้าตอบสนองความต้องการของตลาด พร้อมทุ่มทุน 80 ล้านบาท สร้างศูนย์เทคนิคและฝึกอบรม ศูนย์กระจายอะไหล่และศูนย์ตรวจสภาพรถ รองรับการบริการหลังการขายในไทย บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ย่านรังสิต และ เพิ่มเครือข่ายผู้จำหน่ายให้ครบ 30 แห่ง เสริมศักยภาพในการบริการหลังการขายภายในปีนี้ จากเดิม 15 แห่ง ครอบคลุมการบริการกว่า 40 จังหวัด พร้อมตั้งเป้ายอดขายรถยนต์สันดาปทั้งสองรุ่น จำนวน 1,000 คันในปีนี้ทั้ง DFSK GLORY i-Auto และ DFSK GLORY 560
ภายใต้แผนการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Study (ศึกษาตลาด) Screen (คัดกรองและวางสเป็ค) และ Select (สรุปเลือกผลิตภัณฑ์) ในการคัดสรรแบรนด์และรุ่นรถยนต์ที่จะนำมาทำตลาดในไทย โดยเน้นรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า ที่สอดคล้องกับกระแสความต้องการใช้รถยนต์ทั่วโลกในขณะนี้ จับตาการทำตลาดจริงจังของทั้งสองยี่ห้อว่าจะสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหรือไม่ต้องติดตาม