หลังจากที่เมืองจีนเปิดตัว HAVAL H6 เครื่องยนต์สันดาปล้วน 2.0 กับ 1.5 ลิตรเบนซินเทอร์โบออกจำหน่ายมาได้สักระยะ
ล่าสุด HAVAL เพิ่มทางเลือกใหม่กับสาวกรักษ์โลกกับการแนะนำ HAVAL H6 HEV รุ่น Hybrid ที่เปิดตัวตามหลังเมืองไทย และ HAVAL H6 PHEV รุ่น Plug In Hybrid ที่เปิดตัวตัดหน้าเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย เริ่มที่ HAVAL H6 HEV ที่หน้าตาแบบเดียวกับสเปกไทยตั้งแต่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบโครเมียม ไฟหน้าอัจฉริยะ Intelligent LED กับไฟตัดหมอกหน้า ไฟท้าย LED แบบ Cross-Sectional พาดยาว ราวหลังคาประณีตพรีเมียมล้ำยุคและเหนือระดับ หรูด้วยชุดโครเมียมทั้งคัน ล้อลายเดียวกับสเปกไทยตั้งแต่ขนาด 18 นิ้วทูโทนปัดเงาพร้อมยาง 225/60R18 และใหญ่สุด 19 นิ้วสีเงินพร้อมยาง 225/55R19
ทางด้าน HAVAL H6 PHEV ไปเอาความหล่อเท่ของรุ่น H6 Supreme และเป็นหน้าเดียวกันกับสเปกไทยรุ่นเสียบปลั๊กที่จะเปิดตัวเร็วๆนี้ ด้วยกระจังหน้าขอบโครเมียมและไส้ในกระจังหน้าแบบเกล็ดตกแต่งคล้ายๆกับ Peugeot 3008/5008 Facelift ชุดไฟหน้าไฟท้ายยังคงเดิมล้ออัลลอยลายเดียวกับรุ่น H6 HEV แต่ความพิเศษตรงที่ว่าเป็นครั้งแรกที่ใช้โลโก้ HAVAL แบบใหม่ฟรอนท์อักษรคล้ายๆกับ Nissan
ภายในมาพร้อมแผงมาตรวัด Digital แบบลอยตัว 10 นิ้ว พร้อมจอ Infotainment ขนาดใหญ่กว่าสเปกไทยถึง 12.3 นิ้ว (เดิมขนาด10 กับ 12 นิ้ว) พร้อมลำโพง 8 ตัว พร้อม Treble Woofer และ DTS และจอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) พวงมาลัยไฟฟ้า Multi-Function หลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่ เครื่องปรับอากาศ dual-zone climate control เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ปรับด้วยระบบไฟฟ้าคู่หน้า 6 ทิศทางสำหรับคนขับพร้อมดันหลังไฟฟ้าและ 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง เบาะหลังพับได้แบบ 40/60 เพิ่มพื้นที่ในการขนของ ชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charger และไฟ Ambient Light สร้างบรรยากาศอบอุ่นภายในห้องโดยสาร
สำหรับ HAVAL H6 HEV ใช้ขุมพลังแบบเดียวกับสเปกไทยด้วยเบนซินเทอร์โบแปรผันซูเปอร์ชาร์จ VGT 1.5 ลิตร GW4B15 GDIT EVO 154 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้าที่ 300 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร เร้าใจยิ่งขึ้นด้วยโหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 4 โหมด ทั้งโหมดมาตรฐาน Normal, สปอร์ต Sport, ประหยัด ECO และสภาพถนนลื่น Snow
HAVAL H6 PHEV ใช้ขุมพลังเดียวกันกับรุ่น HEV แต่พัฒนาเพิ่มพลังมากขึ้น ชาร์จได้มากขึ้นและวิ่งไกลสุดมากขึ้นด้วย ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT และความจุแบตเตอรี่ มากถึง 41.5 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดถึง 530 นิวตันเมตรรองรับการขับขี่ที่หลากหลาย ช่วยประหยัดน้ำมัน พร้อมโหมดการขับขี่ 4 โหมดเช่นเดียวกับรุ่น HEV แต่พิเศษเพิ่มโหมด EV เข้ามาอีก 4 โหมด ECO, Normal, Sport, Snow ทำให้มีโหมดการขับขี่มากสุดถึง 8 โหมด แต่สเปกจีนมีให้เลือกวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนถึงสองแบบคือ 55 กม./ชาร์จหนึ่งครั้งและ 110 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน CLTC (สเปกไทยวิ่งไกลสุดในโหมด EV ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งถึง 201 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC) ทั้งสองความแรงใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ DHT มี 2 ระบบเกียร์ (1 ระบบเกียร์ที่ด้านเครื่องยนต์และอีก 1 ระบบเกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน) พร้อมความปลอดภัยรอบคัน Driver Assistance and Safety Systems) สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติ
HAVAL H6 HEV รุ่น Hybrid มีจำหน่ายหนึ่งรุ่นย่อยเพียง 149,800 Yuan หรือราว 789,000 บาท และ HAVAL H6 PHEV รุ่น Plug In Hybrid มีสองรุ่นย่อยเริ่มต้น 168,800 – 176,800 Yuan หรือราว 889,000- 929,000 บาท (ราคาดังกล่าวไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย)
นอกจากนี้ทาง HAVAL ยังประกาศว่าในปี 2030 จะเลิกจำหน่ายรถยนต์สันดาปล้วน ตามรอย BYD ที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้โดยตลาดรถยนต์ NEV ของจีนโดยเฉพาะรถ BEV, FCEV, PHEV เติบโตอย่างต่อเนื่องเพราะจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและรถยนต์กลุ่มนี้โตขึ้นเป็นร้อยละ 26.7 ของยอดขายในจีนแบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า BEV 428,000 คัน เพิ่มขึ้น 109% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด PHEV 136,000 คัน เพิ่มขึ้น 187.2% เมื่อเทียบกับช่วงปีที่แล้วส่งให้ค่ายรถยนต์จีนหลายค่ายเบนเข็มมาเอาดีทางด้านนี้
ที่มา Autohome และ Carnewschina