Toyota RAV4 เจเนอเรชันที่ 5 ประสบความสำเร็จและขายดีมายาวนานกว่า 3 ปีตั้งแต่ตลาดบ้านเกิดญี่ปุ่นและหลายๆประเทศที่เข้าขาย
ถึงแม้ไทยเคยเข้ามาเมื่อ 20 กว่าปี จนรอคอยว่าอยากให้มาขาย ล่าสุดที่ญี่ปุ่นเปิดตัวเอสยูวีแต่งมาดลุย Toyota RAV4 Adventure Off-Road Package II อัพเกรดจากรุ่นเดิม Toyota RAV4 Adventure Off-Road Package มาโดยนำพื้นฐานรุ่น Adventure มาแต่งด้วยชุดแต่งสีดำด้านเคลือบหลายชั้นแบบ GORI GORI BLACK ตั้งแต่ชุดแต่งเสริมกันชนหน้าและหลัง กระจกมองข้าง พร้อมกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมลายโหดแบบเดียวกับ Toyota Tacoma หลังคารถทาด้วยสีดำไมก้า ล้ออัลลอยสีดำเข้มขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง A/T 225/60R18 จาก Falken มีแผ่นกันกระแทกด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมออปชันเดิมทั้งไฟหน้าและไฟท้าย LED ไฟตัดหมอกหน้า LED สองสี และปรับความสูงจากใต้ท้องรถเพิ่มขึ้นเป็น 10 มม. (0.4 นิ้ว)
ภายในเท่เข้มด้วยการตัดเย็บอย่างประณีตตั้งแต่ชุดแผงคอนโซลหน้า แผงประตูสีดำ หุ้มหนังสัมผัสสีดำเดินด้ายสีแดง พร้อมตรา Adventure Off-Road เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำเดินด้ายแดง และ Toyota RAV 4 MY2023 ทุกรุ่นมาพร้อมมาตรวัดดิจิทัลใหม่ 12.3 นิ้ว จอสัมผัสใหม่ 10.5 นิ้ว พร้อมระบบนำทางเวอร์ชันใหม่ ระบบฟอกอากาศ Nanoe X
ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเบนซิน Dynamic Force Engine Hybrid 2.5 ลิตร (รหัส A25A-FXS) ให้กำลังถึง 178 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว 3NM 120 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตรและ 4NM 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร โดยให้กำลังรวม 222 แรงม้า แรงบิด 221 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift 6 สปีด เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four และขับเคลื่อนสองล้อหน้า
เบนซินล้วน Dynamic Force Engine (รหัส M20A-FKS) ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 171 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิด 207 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที พร้อมระบบฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาล์วไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD Dynamic Torque Vectoring All-Wheel Drive with Rear Driveline Disconnect กระจายแรงบิดแบบ 50 % ไปยังล้อหลัง นอกจากนี้ส่งไปยังล้อหน้า เพิ่มประสิทธิภาพในการลุยมากขึ้นและระบบขับเคลื่อนสองล้อหน้า
และเบนซินเสียบปลั๊ก Dynamic Force Engine Plug In Hybrid 2.5 ลิตร (รหัส A25A-FXS) ให้กำลังถึง 177 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 219 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2ตัว 5NM 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร และรุ่น 4NM 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวม 306 แรงม้า แรงบิด 221 นิวตันเมตร และขนาดแบตเตอรี่ 18.1 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ ECVT พร้อม Sequential Shift ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD-i intelligent electric all-wheel drive system สามารถวิ่งในโหมด EV ไฟฟ้าล้วน ได้ไกลกว่า 95 กม. ตามมาตรฐานของ WLTP และสามารถทำความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าได้ถึง 135 กม./ชม.
ความปลอดภัยเต็มคัน Toyota’s Safety Sense system ทั้ง ควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Active Cruise Control (ACC), เตือนเมื่อรถและหน่วงพวงมาลัยเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Alert (LDA) with steering assist, ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB) ควบคุมรถบนเส้นทางไร้เส้นแบ่งเลนถนน และกระจกมองหลังอัตโนมัติ สามารถบันทึกวิดีโอจากกล้องด้านหน้าและด้านหลัง ลงบนการ์ด SD ได้ และใน Toyota RAV 4 MY2023 รุ่นเสียบปลั๊ก PHV และรุ่น Z เพิ่มฟังก์ชันความปลอดภัยนั่นคือ ระบบเตือนผู้ขับขี่พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนจะเกิดการชน โดยตรวจจับรถที่กำลังมาเมื่อเลี้ยวขวาที่ทางแยกและคนเดินเท้าที่ข้ามจากทิศทางตรงกันข้ามเมื่อเลี้ยวขวาหรือซ้าย หรือ Pre-Collision System autonomous braking with pedestrian and cyclist detection
Toyota RAV4 Adventure Off-Road Package II จำหน่ายที่ญี่ปุ่นเริ่มต้น 3,884,000 – 4,503,000 yen หรือราว 1,009,000-1,169,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย แต่ถ้านำเข้ามาขายอยู่ที่ 3,159,000-3,664,000 บาท ส่วน Toyota RAV 4 MY2023 มาในราคา 2,938,000 – 5,633,000 yen หรือราว 759,000-1,459,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย แต่ถ้านำเข้ามาขายอยู่ที่ 2,379,000-4,569,000 บาท
ที่มา Carwatch