ทุกวันนี้พลังงานจากยานยนต์ที่นอกจากจะมีขุมพลังสันดาปแล้วยังมีขุมพลังไฟฟ้าล้วนที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกแม้กระทั่งเมืองไทย
แต่ยังมีพลังงานอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังจะเป็นทางเลือกใหม่นั่นก็คือพลังงานไฮโดรเจน หรือ Fuel Cell Electric Vehicle หรือ FCEV ที่ใช้พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่สะอาดมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า เพราะการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่ได้มาจากการสังเคราะห์พลังงานแสงอาทิตย์และน้ำ โดยมีอัตราการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ มีระยะทางในการขับใช้งานและเวลาในการเติมพลังงานเชื้อเพลิง เท่ากับรถยนต์ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์เผาไหม้สันดาปภายในปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ก่อให้เกิดมลภาวะ โดยปล่อยของเสียออกมาเป็นน้ำ
Toyota เป็นผู้บุกเบิกพลังงานนี้ด้วยการแนะนำ Toyota Mirai ออกมาตั้งแต่ปี 2014 ในร่างเก๋งซีดานแบบคอมแพ็คขับเคลื่อนล้อหน้า 154 แรงม้า แรงบิด 247 นิวตันเมตร กับแบตเตอรี่ Nickel-metal hydride ขนาด 1.6 kWh และถังไฮโดรเจนสองถัง ที่วิ่งไกลสุด 502 กม.กลายมาเป็นเจเนอเรชันที่สองที่ขนาดใหญ่ขึ้นเทียบเท่า Lexus LS โดยเปิดตัวตั้งแต่ปี 2020 สร้างจากพื้นฐาน TNGA GA-L หน้าตาหรูหราขึ้นกว่าเจนเดิมตั้งแต่ กระจังหน้าทรงปิดทีบปะโลโก้สามห่วงสีฟ้า ไฟหน้า Bi-beam LED ใต้ไฟหน้ามีไฟ DRL แบบ LED ใต้กระจังหน้ามีช่องระบายอากาศสีดำและคิ้วโครเมียมสีเงินใต้ขอบกันชนหน้า ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 235/55 R19 และ ขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 245/45R20 กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED คิ้วโครเมียมกรอบกระจกแบบโอเปร่า ไฟท้าย LED แนวยาวขนาดเล็กเรียวพร้อมฝากระโปรงท้ายมีสปอยเลอร์ในตัวเข้ากับชุดกันชนหลังตกแต่งพลาสติกสีเข้ม
ตัวรถมีความยาวตั้งแต่ 4,975 มม. ความกว้าง 1,885 มม. ความสูง 1,480 มม. ฐานล้อ 2,920 มม. และน้ำหนักรถ 1,920-1,950 กก.
ภายในหรูเทียบเท่ากับ Lexus LS ด้วยระบบหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับ Android Auto Apple CarPlay ลำโพง JBL ที่ให้มาถึง 14 ตัวรวมซับวูฟเฟอร์ มาตรวัดดิจิทัล TFT LCD สีขนาด 8 นิ้ว พร้อมมาตรวัดความเร็วและระบบนำทางจอแสดงผลแบบสีบนแผงคอนโซลหน้าHead Up Display ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบสามโซน และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟแบบสกายวิลล์
ขุมพลังยังเป็นไฮโดรเจนพัฒนาใหม่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor รุ่น 4JM ให้กำลังมากถึง 182 แรงม้าที่ 6,940 รอบ/นาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่0-3,267 รอบ/นาที พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium-ion ขนาดเล็กลงเพียง 1.2 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ขับเคลื่อนล้อหลัง ผนวกกับถังไฮโดรเจน 3 ถังใต้ท้องรถที่มีความจุถังทั้งหมด 141 ลิตร ความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม. ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 9.4 วินาที แถมวิ่งไกลสุดต่อการเติมหนึ่งครั้งเพียง 650-850 กม. โดยเติมหนึ่งครั้งเพียง 3-5 นาที พร้อมความปลอดภัย Toyota Safety Sense
สำหรับประเทศไทยทาง Toyota ได้จับมือกับ 3 พันธมิตรด้านพลังงานในไทยทั้ง PTT – OR และ BIG ผนึกกำลังเสริมแกร่ง Future Energy เปิดสถานีต้นแบบเติมไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงแห่งแรกของประเทศไทย ที่จังหวัดชลบุรี โดยนำร่องนำ Toyota Mirai ในรูปแบบรถรับส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี (U-Tapao Limousines) ให้บริการนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจในพื้นที่พัทยา – ชลบุรี ตอบรับแผนภาครัฐ สู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) เพื่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย
ที่มา Thairath