รถใหม่ค่าย GAC AION เตรียมเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการที่งาน Motor Expo นั่นคือ AION V เจเนอเรชันที่ 2 หลังจากเผยเมืองจีนที่แรกของโลกไปไม่นาน
AION V ประกอบจากจีนเมืองกวางโจวมาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยในร่างเอสยูวีเจนใหม่ออกแบบเส้นสายโดยรวมเน้นความรู้สึกถึงพละกำลัง
ภายนอกออกแบบล้ำหน้าเริ่มที่กระจังหน้าทรงทึบติดตราพร้อมไฟหน้า LED โคมใหม่รูปตัวเอชพร้อมไฟ DRL แนวตั้งสองดวงในโคมเดียวกัน รับกับชุดกันชนหน้าดีไซน์เป็นหนึ่งเดียว มีกรอบแนวตั้งทรงตัวเจสองฝั่งและช่องระบายอากาศทรงสีเหลี่ยมขนาดใหญ่เสริมคิ้วใต้กันชน
ด้านข้างทรงเท่ด้วยคิ้วขอบล้อทรงเข้ม กระจกมองข้างทรงสปูน เรียบเนียนด้วยที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเข้ากับตัวถังรถ คิ้วชายล่างขนาดใหญ่สีเดียวกับตัวรถ ราวหลังคาเท่ พร้อมหลังคารถพาโนรามิกซันรูฟขนาด 2.14 ตารางเมตรประตูเปิดกว้างได้เกือบ 90° สะดวกในการขึ้นลง
ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งดีไซน์เล่นระดับเสริมกันชนท้ายพร้อมลิ้นสปอยเลอร์หลังในตัวประตูท้ายไฟฟ้าควบคุมด้วยการสัมผัสให้ความสะดวกสบายในการเปิดปิดด้วยเซนเซอร์เพียงยืนด้านหลังประตูท้าย 5 วินาที และสามารถตั้งค่าความสูงของการเปิด-ปิดได้ตามสรีระของผู้ใช้งานและล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/45 R19
สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ AEP 3.0 (AION Electric Platform 3.0) พัฒนาขึ้นมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดยหากเทียบกับรถที่มีระยะฐานล้อเท่ากัน จะได้พื้นที่ภายในห้องโดยสารเพิ่มขึ้น 20% เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารขนาดตัวรถใหญ่ขึ้นกว่าเดิมโดยมีมิติตัวรถดังนี้
- ความยาว 4,605 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,876 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,686 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,860 กิโลกรัม
ภายในให้ความสบายด้วยโทนสีภายในเลือกได้ 2 สีทั้ง สีดำ Midnight Blackและ สีน้ำตาล Olympus Brown ชุดเบาะนั่งคู่ด้านหน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 จุด มีระบบนวดได้ถึง 8 จุด ปรับระดับความแรงได้ 3 ระดับ และมีโหมดให้เลือก 5 แบบ ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการขับขี่และอาการปวดเอวเบาะนั่งสามารถสั่งเลื่อนเบาะผู้โดยสารตอนหน้าผ่านคำสั่งเสียง
เบาะหลังปรับเอนได้ถึง 137 องศาช่วยให้ผู้โดยสารด้านหลังสามารถหาตำแหน่งการนั่งที่เหมาะสมกับบุคลิกและสะดวกสบายมากที่สุดพับเก็บได้แบบ 60/40 โดยมีพื้นที่แบบสามชั้นมากถึง 987 ลิตรในกรณีพับเบาะและ 427 ลิตร กรณีไม่พับเบาะพร้อมโต๊ะพับอเนกประสงค์หลังเบาะผู้ขับขี่และยังมีโหมดปรับเป็นเตียงขนาดใหญ่ในทันที
คอนโซลหน้าทรงหรูหุ้มหนังสัมผัสพร้อม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน มาตรวัดดิจิทัลขนาดเล็ก 8.88 นิ้ว จอกลาง 14.6 นิ้ว แบบ ADiGO SPACE สั่งการด้วยเสียงแบบ 4 โซน รองรับภาษาอังกฤษและภาษาไทยรองรับทุกพื้นที่ในรถทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ระบบแอปพลิเคชันที่หลากหลายตอบสนองความต้องการด้านการฟังการเล่น และการใช้งานของผู้ใช้งานในแต่ละภูมิภาครองรับระบบ Apple CarPlay และ Spotify แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงอันดับหนึ่งของโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และพื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วโลก (Spotify OTA ในเดือนธันวาคม) ชิปประมวลผล Qualcomm SA8155P
ระบบนำทางอัจฉริยะพัฒนาบนพื้นฐานข้อมูลแผนที่ของ Here ด้วยฟังก์ชันแผนที่ชาร์จไฟและแผนที่ 3 มิติ ประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้นให้คุณเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยลำโพงคุณภาพ Belgian Premium speakers ถึง 9 จุด พร้อมซัฟวูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว
เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิอัตโนมัติซ้าย-ขวาพร้อมช่องลมแอร์ด้านหลังบริเวณเสา B-Pillar พร้อมตู้เย็นอัจฉริยะความจุ 6.6 ลิตร มาพร้อมระบบทำความเย็นและทำความร้อนในตัวมีโหมดการใช้งานให้เลือกถึง 4 แบบ (ควบคุมผ่านหน้าจอ OBU, ใช้คำสั่งเสียง, ควบคุมจากแผง, หรือควบคุมผ่านแอป) ประหยัดพลังงานเพียง 0.5 kW และรองรับอุณหภูมิในช่วงกว้างตั้งแต่ -15°C ถึง 50°C
ขุมพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร ขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อมขนาดความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 75.3 kWh ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 602 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC เดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงโคราชไป-กลับได้อย่างไร้กังวล กินไฟ 14.1 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 7.10 กิโลเมตรต่อ kWh มีโหมดการขับขี่ทั้ง Economy/Standard/Sport
เทคโนโลยีซิลิคอนคาร์ไบด์เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และขยายระยะทางได้เพิ่มขึ้น 30 กิโลเมตรมีระบบระบายความร้อน ITS2.0 เจเนอเรชันที่สองพัฒนาโดย AION สามารถชาร์จไฟกระแสตรง DC นานถึง 15 นาทีเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้อีก 300 กิโลเมตรด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 3C ใช้เวลาประมาณดื่มกาแฟหนึ่งแก้ พร้อมชาร์จกระแสสลับ AC ได้
รวมถึงฟังก์ชัน V2L ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้สะดวกง่ายดายด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 3kW รองรับทุกกิจกรรมกลางแจ้งเช่นแคมป์ปิ้งและดูหนังบนพื้นฐานช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทและช่วงด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม
ความปลอดภัยมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ L2 ไม่ว่าจะเป็นบนทางหลวงหรือถนนที่มีการจราจรหนาแน่นช่วยให้การขับขี่สะดวกและอัจฉริยะมากขึ้นมอบประสบการณ์ที่ง่ายและสบายยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Adaptive Cruise Control Stop & Go (ACC-S&G)
- ควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Integrated Cruise Assist (ICA)
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Brake Assist System (AEB)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน (ELKA)
- ช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind spot Monitoring and Warning (BSD)
- เตือนการเปิดประตู Door Open Warning (DOW)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- ช่วยเตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้ (RAW)
ความปลอดภัยพื้นฐานมาครบทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน ตรวจวัดลมยาง TPMS จุดยึดเบาะหนังเด็กแบบ ISOFIX เบรกป้องกันล้อล็อก ABS ควบคุมการกระจายแรงเบรก EBD พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ VDC ควบคู่กับโปรแกรมควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ESP
ป้องกันการลื่นไถล TCS ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HHC กล้องพาโนรามารอบคัน 360 องศาพร้อมกล้องมองภาพ HD อัจฉริยะ แบบพาโนรามา 540° เซนเซอร์กระยะการจอดด้านหลังรวม 8 จุด เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ปิดระบบและปลดล็อคด้วยสัมผัสเดียวหลังจากการชน Power off and one-touch unlocking after collision
AION V เจนใหม่เตรียมเปิดตัวที่งาน Motor Expo 2024 ปลายเดือนพฤศจิกายนด้วยคาดราคาจำหน่ายไม่เกิน 1,099,000 บาท มาพร้อมสีภายนอก 7 สี ดังนี้
- สีขาว Alpine White
- สีดำ Onyx Black
- สีน้ำตาล Sahara Sand
- สีเงิน Aurora Silver
- สีเทา Iceland Grey
- สีส้ม Volcano Orange
- สีส้ม หลังคาขาว Volcano Orange + White Roof