More

    BYD SEAL 07 DM-i เก๋งปลั๊กอินวิ่งไกล 2 พันกม. ขายจีน 6 แสนกว่า

    หลังจากเปิดตัว BYD SEAL MY2025 ปรับลุคใหม่ไปแล้วยังมีอีกรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกันนั่นคือ BYD SEAL 07 DM-i จากตระกูล OCEAN
    BYD

    BYD SEAL 07 DM-i เก๋งไซซ์ใหญ่แบบเดียวกับ BYD SEAL MY2025 ครั้งนี้มาแบบรุ่นปรับโฉมหลังทำตลาดมา 1 ปีพร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดเวอร์ชันล่าสุด DM technology เวอร์ชันที่ 5

    ภายนอก Exterior

    BYD

    ด้านหน้าจะคล้ายกับ BYD HAN EV ด้วยไฟหน้า LED ประกบด้วยไฟ DRL แบบ LED รูปตัว C ล้อมกรอบในโคม รับกับฝากระโปรงหน้าโค้งมนติดตรา BYD ขนาดใหญ่ รับกับกันชนหน้าที่มีช่องระบายอากาศแนวนอนสี่เส้น ช่องระบายอากาศใต้กรอบป้ายทะเบียนเติมด้วยคิ้วใต้กันขนหน้าสีเงิน ด้านข้างเท่ด้วยคิ้วสีเงินแนวยาวพร้อมคำว่า BYD Design กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED รูปตัว C พร้อมกระจกโอเปร่าสไตล์ยุโรป ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวรถ

    ด้านท้ายคล้ายกับ BYD ATTO 3 ด้วยไฟท้าย LED แนวยาวคาดตัวถังท้ายเสริมคิ้วสีเงินครอบทับ รวมถึงตรา BYD สีแดงเรืองแสง รับกับกันชนหลังเสริมลิ้นกันชนหลังสีดำเข้มและล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 19 นิ้วพร้อมยาง 235/45R19 และมีขนาดอื่นๆทั้ง 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R17 ขนาด18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50R18มิติตัวรถใกล้เคียงกับ Toyota Camry Hyundai Sonata BMW 3 Series Mercedes-Benz C-Class และ Honda Accord ตั้งแต่

    • ความยาว 4,980 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,890 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,495 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,900 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,795-1,900 กิโลกรัม
    • ความจุถังน้ำมัน 70 ลิตร

    ภายใน Interior

    BYD

    มาด้วยโทนสีภายในเป็นสีดำผสมสีครีมเน้นความล้ำสมัย เบาะนั่งทรงสปอร์ต หุ้มหนังอย่างประณีต มีช่องเก็บของหลายจุดสามารถวางแก้วน้ำ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับคนขับและ 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง พร้อมระบบความจำสำหรับเบาะคนขับพร้อมระบายอากาศและอุ่นเบาะได้ เบาะหลังพับได้แบบ 60/40

    ปรับให้เข้ากับรถคันนี้ทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 4 ก้านทรงท้ายตัดพร้อมสันเพิ่มความกระชับให้กับอุ้งมือ มองลอดพวงมาลัยเป็นจอ Driver Display แสดงผลในรูปแบบดิจิตอล LCD ให้เลือกทั้งแบบ 8.8 กับ 10.25 นิ้ว ถัดไปอีกเล็กน้อยคือ Head-up Display แสดงข้อมูลที่จำเป็นโดยที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนเบื้องหน้าส่วนจอแสดงผล ระบบ Infotainment ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 12.8 หรือ 15.6 นิ้ว ปรับหมุนได้ด้วยระบบไฟฟ้า

    เชื่อมต่อ Apple Car Play, Android Auto รองรับ 5G มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink พร้อมลำโพง 8 จุด และลำโพงคุณภาพ DYNAUDIO 12 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สายกำลัง 50W หัวเกียร์คริสตัลรอบๆคันเกียร์รายล้อมด้วยปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส ช่องเก็บของหลายจุด มาพร้อมที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด ระบบการเข้ารถและสตาร์ทแบบ Keyless ทำงานร่วมกับกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC

    สมรรถนะ Performance

    BYDด้านขุมพลังแน่นอนว่าเป็น Plug In Hybrid หรือ DM-i เวอร์ชันล่าสุด 5.0 ใช้ร่วมกันกับ BYD QIN L และ BYD Seal 06 DM-i ด้วยเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส BYD472QC ให้กำลัง 101 แรงม้า แรงบิด 126 นิวตันเมตรจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ lithium iron phosphate (LFP) จาก BYD ให้ความจุแบตถึง 2 รูปแบบเริ่มที่รุ่นเริ่มต้นให้ความจุแบต 10.08 kWh มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ210XYC ให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.5 วินาที วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 70 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC หรือ 67 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ประหยัด 29.41 กิโลเมตรต่อลิตร ให้ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ขยับมาที่รุ่นแบตใหญ่ให้ความจุ 17.6 kWh มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ210XYC ให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8 วินาที วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 125 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC หรือ 121 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ประหยัด 28.57 กิโลเมตรต่อลิตร ให้ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ยังมีเบนซินเทอร์โบ BYD472ZQB ขนาด 1.5 ลิตร 156 แรงม้า แรงบิด 225 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ lithium iron phosphate (LFP) จาก BYD ให้ความจุแบต 17.6 kWh มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ210XYD 272 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร ให้ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.9 วินาที วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 125 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC หรือ 121 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ประหยัด 26.32 กิโลเมตรต่อลิตร

    การชาร์จ 1 ครั้ง และน้ำมัน 1 ถังเต็มวิ่งไกล 2,000 กิโลเมตร (CLTC) สามารถชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 38 kW ภายใน 21 นาที ยกเว้นรุ่นเริ่มต้น และกระแสสลับ AC รองรับกำลังสูงสุด 6.6 kW มีเทคโนโลยี ยังมีเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ นุ่มนวลถึงใจด้วยช่วงล่างอิสระสี่ล้อและระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) พร้อมโหมดการขับขี่ EV/HEV/SPORT/ECO/NORMAL และช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ

    ความปลอดภัย Safety

    BYDขับเคลื่อนโดยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงอัจฉริยะ (ADAS) ที่มาอย่างครบครันออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยง ได้แก่

    • ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) Stop and Go
    • ช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control (ICC)
    • ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
    • ช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB)
    • ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS)
    • ช่วยเตือนการชนด้านหน้าและหลัง (PCW with RCW)
    • ช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
    • ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA, RCTB)
    • ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกช่องทางเดินรถ (LDP)
    • ช่วยควบคุมฉุกเฉินให้รถอยู่ในช่องทางเดินรถ (ELKA)
    • ช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (LCW)
    • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home)

    ความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง

    • ถุงลมนิรภัย 13 จุดรอบคัน
    • ตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
    • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
    • เสริมแรงเบรกอัจฉริยะ เบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
    • ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
    • ป้องกันการลื่นไถล (TCS)
    • ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD)
    • ควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC)
    • กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา

    BYD

    ราคาจำหน่ายของ BYD SEAL 07 DM-i ขายกัน 5 รุ่นย่อยเริ่มต้น 139,800-195,800 Yuan หรือราว 689,000-965,000 บาท

    ที่มา CarNewsChina

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts