More

    5 ไส้กรองในรถยนต์ ที่ควรเปลี่ยนตามระยะ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการขับขี่

    การดูแลรักษารถยนต์ให้คงประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขับขี่ทุกคนไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการดูแลไส้กรองต่าง ๆ ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการกรองสิ่งสกปรกและอนุภาคต่างๆ ที่อาจทำให้ระบบในรถเสียหาย การเปลี่ยนไส้กรองตามระยะที่เหมาะสมจะช่วยให้รถยนต์ของคุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน ในบทความนี้ เราจะพูดถึง ไส้กรองในรถยนต์ 5 ชนิดในรถยนต์ที่ควรเปลี่ยนตามระยะเวลา

    1. ไส้กรองอากาศ

    ไส้กรองอากาศมีหน้าที่กรองฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกจากอากาศที่ไหลเข้าสู่เครื่องยนต์ การกรองอากาศที่ดีจะช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นและเศษสิ่งสกปรกไปทำความเสียหายกับเครื่องยนต์ ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนไส้กรองอากาศควรทำทุกๆ 15,000-30,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่และพื้นที่ หากขับในที่ที่ฝุ่นเยอะก็อาจจะต้องเปลี่ยนเร็วขึ้น

    2. ไส้กรอง น้ำมันเครื่องยนต์

    ไส้กรองน้ำมันเครื่องยนต์มีหน้าที่กรองสิ่งสกปรกและอนุภาคโลหะที่อาจหลุดออกมาจากการสึกหรอของเครื่องยนต์ ขณะที่น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ การเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องควรทำพร้อมกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก ๆ 5,000-10,000 กิโลเมตร

    3. ไส้กรอง น้ำมันเชื้อเพลิง

    ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงช่วยกรองสิ่งสกปรกจากน้ำมันที่อาจทำให้ระบบจ่ายน้ำมันทำงานผิดปกติ หรือทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหาย การเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงควรทำทุกๆ 30,000-50,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทของรถและคุณภาพของน้ำมันที่ใช้

    4. ไส้กรองแอร์

    ไส้กรองแอร์ทำหน้าที่กรองฝุ่น ควัน และมลพิษที่เข้ามาภายในห้องโดยสารของรถยนต์ ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารหายใจอากาศที่สะอาด การเปลี่ยนไส้กรองแอร์ควรทำทุกๆ 15,000-25,000 กิโลเมตร หรือเมื่อรู้สึกว่าอากาศภายในห้องโดยสารไม่สดชื่น หรือแอร์ไม่เย็นเหมือนเดิม

    5. ไส้กรอง น้ำมันเกียร์

    ไส้กรองน้ำมันเกียร์ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกจากน้ำมันเกียร์ เพื่อให้ระบบเกียร์ทำงานได้อย่างราบรื่น การเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเกียร์มักจะทำในระยะ 30,000-50,000 กิโลเมตร หรือเมื่อมีอาการของระบบเกียร์ที่ทำงานไม่ปกติ

    การเปลี่ยนไส้กรองตามระยะเวลาและคำแนะนำจากผู้ผลิตรถยนต์ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาสภาพของเครื่องยนต์และระบบต่างๆ ในรถให้มีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ให้ยาวนานและลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาขณะขับขี่ได้อีกด้วย

    บทความที่น่าสนใจ
    เกิดอุบัติเหตุ แต่คนขับไม่มีใบขับขี่ ประกันรับผิดชอบหรือไม่?
    เคล็ดลับการสตาร์ทรถที่ถูกต้อง ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ ลดการสึกหรอ

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts