More

    เพราะอะไร..? ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในออสเตรเลียลดลงกว่า 25%

    ข้อมูลจากสมาคมยานยนต์ออสเตรเลีย หรือ AAA เผยว่า ยอดขาย EV ลดลง 25% จากไตรมาส 2 – 3 แต่ยอดขายรถยนต์ไฮบริดกลับเติบโตขึ้น 3.3% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดกลับเติบโตถึง 56%

    ยอดขาย EV

    ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศออสเตรลียลดลงจาก 25,353 คันในไตรมาสที่ 2 เหลือ 18,990 คันในไตรมาสที่ 3 ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่ลดลงจาก 8.1% เหลือเพียง 6.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ทำให้ตลาดรถยนต์โดยรวมลดลง 7.6% ซึ่งถือว่าไม่มากนักในช่วงเวลาเดียวกัน

    ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับ EV ก็ไม่ได้หันกลับไปใช้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน เนื่องจากยอดขายน้ำมันเบนซินไม่ได้ลดลงมากเท่ากับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังคงลดลง 9.2% ในทางกลับกัน พวกเขากลับเปลี่ยนโฟกัสจากรถยนต์ไฟฟ้าล้วนมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าบางส่วนมากขึ้น จากยอดขายรถยนต์ไฮบริดที่เพิ่มขึ้น 3.3% ในไตรมาสที่ 3 จาก 46,727 คันเป็น 48,282 คัน แต่ยอดขายรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริดกลับเติบโตขึ้นอย่างน่าตกใจถึง 56%

    ยอดขาย EV

    ปัจจุบัน PHEV รุ่นใหม่สามารถวิ่งได้ไกลมากขึ้น จนผู้ซื้อหลายรายพบว่าสามารถใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ได้ตลอดการเดินทาง และยังมีระบบความปลอดภัยจากถังน้ำมันและเครื่องยนต์สันดาปภายในอีกด้วย แต่ในบรรดานักวิเคราะห์มองว่าเหตุผลหลักในการเปลี่ยนจาก EV มาเป็นไฮบริดคือเรื่องการเงิน

    อีกนัยหนึ่ง แคมเปญส่วนลดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าล้วนถูกยกเลิกไปแล้ว ยกเว้นออสเตรเลียตะวันตก ทำให้ไม่เกิดแรงจูงใจในการซื้อ แต่รถยนต์ PHEV ยังคงได้รับการยกเว้นภาษีสวัสดิการจนถึงเดือนเมษายน 2025 ซึ่งอาจช่วยให้ผู้ขับขี่ประหยัดเงินค่าเช่าได้หลายพันดอลลาร์

    AAA กล่าวว่า “ยอดขายรถยนต์มีการผันผวนอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 7 ไตรมาสที่ผ่านมา แต่ตัวเลขยอดขายในช่วงเวลาดังกล่าวยืนยันถึงแนวโน้มการเติบโตของรถยนต์ไฮบริดอย่างชัดเจน ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ดูเหมือนว่าจะถึงจุดสูงสุดแล้วในตอนนี้”

    “ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 รถยนต์ไฟฟ้ามียอดขายแซงหน้ารถยนต์ไฮบริด แต่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รถยนต์ไฮบริดก็มียอดขายแซงหน้ารถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ติดต่อกันถึง 5 ไตรมาส”

    Source: Carscoops

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts