Fang Cheng Bao (FCB) ภายใต้แบรนด์ BYD ได้ประกาศเปิดตัวซีรีส์ฮาร์ดคอร์ใหม่ชื่อว่า “Titanium” หรือ “Tai” ในภาษาจีน ซึ่งเน้นไปที่กลุ่มครอบครัว รถยนต์รุ่นแรกของซีรีส์นี้คือ Titanium 3
FCB Titanium 3 SUV ไฟฟ้าที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและห้องโดยสารแบบโดรนบนหลังคาเสริม โดยหน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้ประกาศรายละเอียด เมื่อไม่นานมานี้ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และอาจมีราคาอยู่ที่ประมาณ 200,000 หยวน หรือประมาณ 9.33 แสนบาท
Fang Cheng Bao คือแบรนด์รถออฟโรดของ BYD ที่เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยมีสายผลิตภัณฑ์หลักชื่อว่า Bao และจะมี Titanium (Tai) มาเพิ่มเติมในปี 2025
มร. Xiong Tianbo ผู้จัดการทั่วไปของ FCB กล่าวในงานเปิดตัว Bao 8 เมื่อเดือน พ.ย. ว่าในกลุ่มผู้ใช้ FCB Bao 5 70% เป็นกลุ่มครอบครัว โดย FCB ตั้งใจที่จะขยายตลาดเข้าสู่ตลาดรถบ้าน และได้กล่าวถึงแนวคิดในการใช้งานเป็นรถบ้านอยู่เสมอ ซีรีส์ใหม่นี้ตั้งชื่อตามองค์ประกอบทางกายภาพและเคมีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิตมนุษย์ ซึ่งก็คือไททาเนียม โดยมีคุณสมบัติเป็นพลาสติกและเหนียวเป็นพิเศษ ตามที่แบรนด์กล่าว
รูปลักษณ์ของ FCB Titanium 3 ยังคงสไตล์การออกแบบของรถแนวคิด Super 3 และใช้โครงสร้างแบบ unibody ซึ่งแตกต่างจากโครงสร้างตัวถังบนเฟรมของซีรีส์ Bao โดยมีขนาดมิติตัวถังดังนี้
- ความยาว 4,605 มม.
- ความกว้าง 1,900 มม.
- ความสูง 1,720 มม. รวมหลังคาโดรน สูงถึง 1,930 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,745 มม.
ในขณะที่พารามิเตอร์อื่นๆ ยังคงเหมือนเดิม น้ำหนักบรรทุกของรถทั้งสองรุ่นคือ 2,170 กก. และ 2,265 กก. มุมเข้าคือ 25° และมุมออกคือ 28° มีการระบุข้อมูลจำเพาะของยางสองรุ่น ได้แก่ 235/60R18 และ 245/50R19
ทั้งสองรุ่นใช้ระบบไฟฟ้าล้วน ขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ AC asynchronous ไฟฟ้ากระแสสลับด้านหน้า รุ่น YS230XYC มีกำลังสูงสุด 148 แรงม้า และมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรด้านหลัง รุ่น TZ200XYZ มีกำลังสูงสุด 268 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 201 กม./ชม. ชุดแบตเตอรี่ใช้ BYD Blade
นอกจากนี้ รุ่นมาตรฐานยังมาพร้อมกับซันรูฟแบบพาโนรามิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและฟีเจอร์ต่างๆ เช่น กระจกหลังแบบไม่เป็นส่วนตัว กล้องที่ติดตั้งอยู่ทั่วทั้งรถ สีของขอบกันชนหน้า สีของคาลิปเปอร์เบรก และดีไซน์ของขอบล้อ รุ่นหลังคาโดรนที่เป็นอุปกรณ์เสริมมาพร้อมกับห้องโดยสารแบบไร้คนขับเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและการกำหนดค่าเสริมที่คล้ายคลึงกัน
Source: Carnewschina
