Honda ส่งยานยนต์รุ่นใหม่ทำตลาดในไทยอีกครั้งหลังเปิดตัว Honda Civic e:HEV กับ Honda BR-V เจเนอเรชันที่ 2 อย่างเป็นทางการ
Honda BR-V เจนใหม่ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งสไตล์เอสยูวีและความอเนกประสงค์ไว้อย่างลงตัว ถอดแบบมาจาก Honda N7X concept ดุดันด้วยชุดกระจังมีความบึกบึนทรงหกเหลี่ยม รับกับชุดโคมไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL LED รูปตัว L ในโคมเดียวกัน เส้นสายมิติตัวรถมีความใหญ่โตขึ้น แนวหลังคาด้านท้ายดูโปร่งขึ้น ส่วนของประตูท้ายที่คล้ายกับ BR-V เจนที่แล้ว พร้อมไฟท้าย LED กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ราวหลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 215/60R16 เสาอากาศแบบครีบฉลาม พิเศษ!!ในรุ่น EL มาพร้อมความหรูกับ กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ตกแต่งสีเงิน คิ้วตกแต่งสเกิร์ตข้างสีเงิน ไฟตัดหมอกหน้า LED กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยางขนาด 215/55R17 และกระจงหน้าสี Piano Black
ภายในมาพร้อมออปชันเด่นทั้ง มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID แบบ TFT 4.2 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านตกแต่งสีเงิน พร้อมควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น EL) ไฟส่องแผนที่ แผงตกแต่งแอร์ออโต้สีเงิน หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 3 ตำแหน่ง (รุ่น EL) ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL) เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติให้ความเย็นรอบคัน กุญแจแบบ Smart Key ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) และล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กับ Push Start
ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยห้องเก็บสัมภาระท้ายมากขึ้นกว่าเจเนอเรชันก่อน พร้อมเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้หลากหลายรูปแบบเบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบจังหวะเดียว (One Motion) โดยสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และพนักพิงปรับเอนได้ 3 ระดับ เบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น โดยสามารถพับแยกแบบ 50:50 และพนักพิงปรับเอนได้ 2 ระดับ
ขุมพลังเดิมยกชุดจาก Honda BR-V เจนที่แล้วกับเครื่องยนต์เบนซิน I-VTEC 1.5 ลิตร L15ZF 121 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิด 145 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์อัตโนมัติ CVT พัฒนาใหม่ ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทรงพลัง มอบอัตราการประหยัดน้ำมัน 16.1 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยเหนือระดับ Honda Sensing โดยให้ออปชันนี้ทุกรุ่นย่อยทํางานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้าช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ความปลอดภัยพื้นฐานอาทิระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock By Speed) ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) กล้องส่องภาพด้านหลัง ถุงลม 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) ช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD) โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
Honda BR-V เจนใหม่ มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) (เฉพาะรุ่น EL) สีดำคริสตัล (มุก) (รุ่น EL และรุ่น E) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น E) โดยรุ่น EL สีภายในจะเป็นสีดำ และรุ่น E สีภายในจะเป็นสีทูโทน (ดำ/มอคค่าเกรย์) เตรียมเปิดตัว ประกาศราคาอย่างเป็นทางการในงาน Big Motor Sale 2022 ระหว่างวันที่ 19 – 28 สิงหาคม นี้ สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้ตั้งแต่ 19 สิงหาคม เป็นต้นไป โดยมีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
• รุ่น EL ราคาประมาณการไม่เกิน 980,000 บาท
• รุ่น E ราคาประมาณการไม่เกิน 930,000 บาท
