More

    หรือ Ferrari จะแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ได้สำเร็จแล้ว?

    Formula 1 ทุกวันนี้ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดเทอร์โบ นั่นก็เพื่อต้องการดึงความสำคัญของประสิทธิภาพรถแข่งกลับมาที่เครื่องยนต์มากขึ้น และจากฟอร์มของ Ferrari นับตั้งแต่ที่เม็กซิโกจนถึงสนามสุดท้ายที่อาบูดาบี มันได้ไฮไลต์ให้เห็นถึงความสำคัญในการบริหารจัดการกับเครื่องยนต์อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

    เราได้ทราบกันไปแล้วว่า ด้วยการออกแบบผังเครื่องยนต์ของ Ferrari ในปีนี้ มันไม่ค่อยเหมาะกับสนามแข่งที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก อีกทั้งการที่เครื่องยนต์ของทั้ง Charles Leclerc และ Carlos Sainz ต่างระเบิดตูมตามในช่วงต้นฤดูกาล นั่นทำให้ครึ่งหลังของฤดูกาล Ferrari ตัดสินใจที่จะลดทอนกำลังเครื่องยนต์ลง

    อย่างไรก็ตาม ด้วยผลงานของทีมแข่งม้าลำพองที่อาบูดาบี ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพบกับทางออกในการแก้ไขปัญหาบางอย่าง และสามารถที่จะปรับจูนเครื่องยนต์ให้กลับมาอยู่ในระดับดุดันอีกครั้ง

    Ferrari เครื่องยนต์

    มีแหล่งข่าวที่ไม่ระบุ เปิดเผยว่า ปัญหาที่ทำให้เครื่องยนต์ของ Ferrari ไม่มีความสม่ำเสมอนั้น อยู่ที่ ‘หัวเทียน’ ที่อยู่ใน ‘ห้องเตรียมการเผาไหม้’ ของระบบ ‘Turbulent Jet Ignition (TJI)’ ซึ่ง Mahle ได้จัดหาให้กับ Ferrari มาตั้งแต่ปี 2016 และมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยลดระยะห่างด้านพละกำลังกับ Mercedes

    6 ปีหลังจากนั้น มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากในการพัฒนาระบบที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับเครื่องยนต์รุ่นล่าสุด ซึ่งมันจะถูก ‘แช่แข็ง’ นับตั้งแต่ปี 2022 จนถึงสิ้นสุดปี 2025

    ระบบ TJI ประกอบไปด้วยหัวเทียนและหัวฉีดเชื้อเพลิง ซึ่งทั้งสองถูกติดตั้งอยู่ในฝาสูบ และทั้งสองจะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยเพิ่มพละกำลังให้ถึงขีดสุด

    เชื้อเพลิง 2-3 เปอร์เซ็นต์ จะถูกส่งเข้าไปยังห้องเตรียมการเผาไหม้ ในขณะที่เชื้อเพลิงที่เหลือจะเข้าไปในห้องเผาไหม้และกระจายไปทั่วพื้นผิวลูกสูบ โดยส่วนผสมภายในห้องเตรียมการเผาไหม้นั้นจะหนาเป็นพิเศษ ส่วนส่วนผสมในห้องเผาไหม้นั้นจะเบาบางเพราะมีอากาศมากกว่าเชื้อเพลิง

    การจุดระเบิดของหัวเทียนในห้องเตรียมการเผาไหม้ จะทำให้เกิดลำเจ็ทของไฟพุ่งผ่านรูเข้าไปยังห้องเผาไหม้ และด้วยความดันที่สูงมาก ลำเจ็ทจึงไปกระตุ้นให้ส่วนผสมที่เบาบางในห้องเผาไหม้เกิดการจุดระเบิดด้วยตัวเองในหลายตำแหน่ง ทำให้เกิดการเผาไหม้ทั่วถึงทั้งปริมาตรกระบอกสูบ

    สิ่งที่เกิดขึ้นช่วยให้ระยะเวลาในการเผาไหม้สั้นลง ทำให้เกิดข้อดี 2 ประการ ประการแรกนั้น เนื่องจากส่วนผสมในห้องเผาไหม้นั้นเบาบาง นั่นทำให้ผลกระทบที่เป็นอันตรายจากการระเบิดลดลง และหมายความว่าคุณสามารถเพิ่มอัตราส่วนกำลังอัดขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    ประการที่สองคือ ด้วยระบบนี้ หากใช้เชื้อเพลิงที่เท่ากัน คุณจะได้ค่าประสิทธิภาพทางความร้อนที่สูงขึ้น และนั่นเท่ากับว่าคุณจะได้กำลังที่เพิ่มขึ้น

    Ferrari เครื่องยนต์

    Ferrari ได้ผลักดันการพัฒนาเพื่อใช้ประโยชน์จากความดันสูงสุดของระบบหัวฉีด ซึ่งสูงถึง 500 บาร์ ตามที่กฎข้อบังคับได้อนุญาต แต่คอนเซปต์ที่สุดโต่งนี้กลับทำให้อุณหภูมิภายในห้องเผาไหม้เพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นทำให้หัวเทียนทนรับภาระไม่ไหวและแตกหักเสียหายในที่สุด

    ด้วยเหตุนี้ วิศวกรจึงได้ทำการปรับแต่งแมพเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้หัวเทียนต้องรับภาระที่มากเกินไป ในขณะที่ทางซัพพลายเออร์ก็พัฒนาวัสดุใหม่ เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนประกอบจะสามารถรับมือกับความต้องการของเครื่องยนต์ในโหมดกำลังสูงสุดได้

    ผลงานของ Ferrari ในอาบูดาบีแสดงให้เห็นว่า ปัญหาหัวเทียนดูเหมือนจะได้รับการแก้ไขแล้ว ซึ่งมันได้ช่วยบูสต์ความหวังที่ยิ่งใหญ่ของ Ferrari กับการต่อสู้แย่งแชมป์โลกในปี 2023 ที่พวกเขาจะไม่ต้องมากังวลกับปัญหาความเสถียรของตัวเครื่องยนต์อีกต่อไป

    Ferrari เครื่องยนต์

    อ้างอิง : motorsport.com

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts